ตลอดช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราคงได้ยินเรื่องของความหลากหลายทางเพศ และ LGBTQ+ กันมาเยอะมากๆ แล้ว วันนี้ EQ เลยอยากชวนทุกคนมาพูดถึงความหลากหลายในมุมมองที่กว้างขึ้น เพราะความหลากหลายไม่ได้มีแค่เรื่องเพศเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่องรูปร่าง เชื้อชาติ สีผิว ภาษา ความคิดเห็น ตัวตน การแสดงออก หรือแม้แค่ความพิการ ทุกสิ่งที่ว่ามาล้วนแล้วแต่เป็นความหลากหลายทั้งนั้น เราเลยรวมลิสต์ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องสั้นที่บอกเล่าความหลากหลายในมุมมองต่างๆ มาฝากกัน รับรองว่า ใช้เวลาไม่นาน เข้าใจง่าย และหลากหลายมากกว่าเรื่องเพศแน่นอน
PIECE OF CAKE (2023) – การต่อสู้ของตุ๊กตาเจ้าสาว ที่อยากจับคู่กับเจ้าสาว
Photo Credit: SoapTears
เริ่มต้นกันที่ภาพยนตร์อนเมชั่นเรื่องแรก ที่จะมาบอกเล่าความหลากหลายทางเพศ ผ่านเรื่องราวของ ‘Val’ (รับบทโดย Laura Mason) และ ‘Mara’ (รับบทโดย Claire Lefort) ตุ๊กตากระเบื้องเจ้าสาว 2 ตัว ที่ถูกวางประดับไว้บนเค้ก พร้อมกับตุ๊กตาเจ้าบ่าวที่ถูกจับคู่เอาไว้ให้แล้ว เรื่องราวการเดินทางของ 2 เจ้าสาวที่อยากเลือกคู่เองจึงเริ่มขึ้น เมื่อ Mara ตกหลุมรักกับ Val จนตุ๊กตาเจ้าบ่าวที่เป็นคู่ของเธอไม่พอใจ และทำร้ายเธอ ทำให้ Mara ตัดสินใจหนีจากเจ้าบ่าวของเธอ เพื่อที่จะไปพบกับ Val ที่อยู่บนเค้กอีกก้อนหนึ่งในร้าน ตลอดการเดินทางในร้านเบเกอรี่ของ Mara มีตุ๊กตาเจ้าบ่าวคอยไล่ตาม เพื่อพาเธอกลับไปอยู่บนเค้กก้อนเดิม การต่อสู้กันระหว่างตุ๊กตาเจ้าบ่าว และเจ้าสาวจึงเริ่มขึ้น เราจะได้เห็นว่า อนิเมชั่นเรื่องนี้สะท้อนภาพของคู่รัก LGBTQ+ ที่ต้องต่อสู้เพื่อออกจากกรอบความคิดที่ว่า ‘ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง’ รวมไปถึงภาพของ ‘ความชายเป็นใหญ่’ ที่มองว่า ผู้ชายแข็งแรงกว่า และอยู่เหนือผู้หญิง (หรือทุกคนที่อ่อนแอกว่า ไม่สนว่าเพศอะไร) ซึ่งตัวภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เล่าเรื่องราวออกมาได้อย่างเข้าใจง่าย ชัดเจน แต่ก็ทรงพลัง จนต้องคอยลุ้นตามไปกับตัวละคร ก่อนที่จะขมวดจบเรื่องด้วยบทสรุปที่น่าประทับใจในฉากเครดิต
สามารถรับชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ที่ YouTube: Soap Tears
IAN (2018) – อนิเมชั่นที่ทำให้เข้าใจว่า ผู้พิการไม่ควรถูกกีดกันจากสังคม
Photo Credit: Disney Latinoamérica
‘Ian’ อนิเมชั่นเรื่องสั้นสัญชาติอาร์เจนติน่า จากแรงบันดาลของเหตุการณ์จริง ที่กวาดรางวัลจากเทศกาลหนังมาแล้วทั่วโลก บอกเล่าเรื่องราวของ ‘Ian’ เด็กชายคนหนึ่งที่มีภาวะ ‘สมองพิการ’ จนทำให้เขามีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว และการเข้าสังคม เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในสถานที่แห่งเดียวคือ ‘สนามเด็กเล่น’ ภาพตัวแทนของพื้นที่แห่งความสุข ความทรงจำวัยเด็ก และเพื่อนพ้อง แต่ความพิการของ Ian ทำให้เขาไม่สามารถเล่นกับเด็กคนอื่นๆ ได้อย่างปกติ เขาต้องเผชิญกับสายตาที่มองมาอย่างแปลกแยก รวมถึงการถูกล้อเลียน และสุดท้ายเขาก็ต้องถูกผลักออกไปจากสังคมนั้น อนิเมชั่นเรื่องนี้เล่นกับความรู้สึกของคนดูอย่างเราซ้ำๆ ทุกครั้งที่ Ian พยายามเข้าหาเพื่อน ความพิการของเขาก็ทำให้เด็กชายต้องพยายามมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สายตา และการล้อเลียนก็ผลักให้เขาออกไปจากวงสังคมอีกเช่นเดิม แต่เขาไม่ยอมแพ้ และเลือกที่จะวิ่งเข้าหากลุ่มเพื่อนอีกครั้ง ในที่สุดจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น เมื่อเขาไม่ได้ถูกผลักออกไป แต่กลับกลายเป็นว่า เหตุการณ์นั้นดึงให้เหล่าเด็กๆ ก้าวออกมาหา Ian และต้อนรับเขาเข้าสู่พื้นที่แห่งความสุขในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งอนิเมชั่นเรื่องนี้เล่าเรื่องราวได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกแตกสลายของเด็กคนหนึ่งได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็นอนิเมชั่นอีกเรื่องหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้ชม
สามารถรับชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ที่ YouTube: Fundación Ian
ALL I DID WAS SMILE AND SAY HELLO (2020) – ส่งยิ้ม และทักทายให้ความหลากหลายทางเชื้อชาติ
Photo Credit: KQED
จากเรื่องราวของผู้พิการ เราอยากพาทุกคนทำความเข้าใจกับเรื่องราวความหลากหลายของ ‘เชื้อชาติ’ ผ่านประสบการณ์ที่เราทุกคนมีร่วมกันอย่างการแพร่ระบาดของ ‘โควิด-19’ ที่ทำให้คนที่มีเชื้อสายเอเชียต้องเผชิญกับการ ‘เหยียดเชื้อชาติ’ หนักขึ้นไปอีก (จากที่ปกติก็มีสถานการณ์ Asian Hate เกิดขึ้นอยู่แล้วในหลายๆ สังคม) อนิเมชั่นสัญชาติมาเลเซียเรื่องนี้ใช้วิธีการสื่อสารอย่างเรียบง่ายด้วยภาพอนิเมชั่น 2 มิติ พร้อมด้วยเสียงบรรยายที่บอกเล่าเรื่องราวของ ‘Michelle’ หญิงสาวเชื้อสายเอเชี่ยน-อเมริกัน กับเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติที่เธอเจอระหว่างรอเดินทางที่สนามบิน เมื่อมีแม่ลูกคู่หนึ่งมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนที่เธอจะยิ้ม และทักทายด้วยคำว่า ‘Hello’ แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือ การวิ่งหนี และคำพูดบาดใจว่า ‘เราคงต้องไปล้างมือกันอีกรอบแล้วล่ะลูก’ ความเสียใจ และความเศร้าประดังประเดเข้ามาสู่ Michelle พร้อมกับคำถามในหัวว่าเธอผิดอะไรนะ? เพราะหน้าตาเธอไม่เหมือนคนอเมริกันหรือ? เพราะดวงตาเล็กๆ ของเธอใช่ไหมที่ทำให้คนมองเธอด้วยความรู้สึกเหยียดหยาม? ทั้งๆ ที่เธอเพียงแค่ ‘ยิ้ม’ และ ‘ทักทาย’ จนเป็นที่มาของชื่อเรื่อง ‘All I Did Was Smile And Say Hello’ อนิเมชั่นเรื่องนี้ทำให้เรากลับมาคิดกับตัวเองอีกครั้งว่า ‘เราเคยดูถูกใครเพียงเพราะหน้าตา เชื้อชาติของเขาต่างไปจากเราหรือเปล่า’
สามารถรับชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ที่ YouTube: KQED
IN SHAPES (2021) – เรื่องสั้นที่จะส่งต่อความมั่นใจ ไม่ว่า BODY แบบไหน ก็มั่นได้ ไม่ผิด
Photo Credit: Blue Zoo Animation Studio
‘Body Positivity’ เราเชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องเคยได้ยินคำนี้แน่นอน เพราะแนวคิดที่ส่งเสริมเรื่องความมั่นใจในรูปร่างที่แตกต่างกัน คือหนึ่งในประเด็นเรื่องความหลากหลายที่ถูกพูดถึงมาตลอดในช่วงหลายปีมานี้ ทั้งบนสื่อต่างๆ, แบรนด์เสื้อผ้า หรือแม้แต่การรณรงค์เรื่องความเท่าเทียมในประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก อนิเมชั่นที่เรากำลังพูดถึงนี้ก็เช่นกัน ‘In Shapes’ เป็นอนิเมชั่นเรื่องสั้นที่นำเสนอในรูปแบบวิดีโอแนวตั้ง บอกเล่าเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่ต้องเผชิญหน้ากับสภาวะไม่มั่นคงทางจิตใจ เมื่อเธอต้องใส่ชุดว่ายน้ำรัดรูป ท่ามกลางสาวๆ หุ่นดีที่สระว่ายน้ำ การเผชิญหน้ากับสายตาที่จ้องมองมา ทำให้เธอเริ่มเกิดความไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง ซึ่งในอนิเมชั่นเรื่องนี้ใช้ภาพในการสื่อสารสภาวะขาดความมั่นใจออกมาได้อย่างชัดเจน และมีสีสัน แต่รูปร่างเจ้าเนื้อไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งสูญเสียความมั่นใจ อนิเมชั่นเรื่องนี้จึงพูดถึง ‘ขนขา’ อีกหนึ่งธรรมชาติของร่างกายที่ถูกสังคมทำให้เป็นเรื่องแปลก และตีกรอบให้ผู้หญิงคนหนึ่งดู ‘ไม่งาม’ ก่อนจะมีตัวละครสำคัญเข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวละครหลักในเรื่อง โดยอนิเมชั่นเรื่องนี้ถ่ายทอดความมั่นใจออกมาผ่านภาพการ์ตูน 2 มิติได้อย่างสมบูรณ์แบบ นับว่าเป็นอนิเมชั่นที่ใช้เวลาน้อยมากๆ ในการดู แต่ก็สามารถทิ้งตะกอนความคิดเรื่องความหลากหลายเอาไว้ให้กับคนดูอย่างเราได้
สามารถรับชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ที่ YouTube: Blue Zoo Animation Studio
PURL (2019) – ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร แค่ต้องอยู่ในสังคมที่เปิดใจรับฟังเรา
Photo Credit: Pixar
ปิดท้ายประเด็นความหลากหลายด้วยอนิเมชั่นจากค่ายดังอย่าง Pixar ที่เราหยิบยกขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการยอมรับความหลากหลายทางความคิดเห็น และการอยู่ร่วมกันในสังคม อย่างเรื่อง ‘Purl’ อนิเมชั่นเรื่องสั้นจากโปรเจกต์ Spark Shorts ที่ดำเนินเรื่องผ่านตัวละคร ‘Purl’ ม้วนไหมพรมสาวสีชมพู ที่เข้าไปทำงานในบริษัทสตาร์ทอัพชายล้วน ‘B.R.O. Capital’ ซึ่งการเป็นม้วนไหมพรมกลมๆ นุ่มๆ สีสันสดใส และผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียว ท่ามกลางกลุ่มชายใส่สูทดำมาดขรึม เธอควรจะโดดเด่นเป็นศูนย์กลางความสนใจ แต่กลับกลายเป็นว่า เธอถูกมองข้ามจากทุกคนรอบตัว ไม่ได้ออกความเห็น ไม่ได้แสดงความสามารถ ไม่มีใครรับฟัง หรือมองเธอเป็นส่วนหนึ่งของทีมเลย จน Purl ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนกับสังคมรอบข้าง เพื่อพยายามเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน จนเธอลืมความเป็นตัวเอง กระทั่งวันหนึ่งมีไหมพรมสีสดใสอีกม้วนหนึ่งเข้ามาทำงานในออฟฟิศ Purl จึงเริ่มรู้สึกตัวว่าเธอกำลังสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไป นั่นก็คือ ‘ตัวตนของเธอ’ สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจกลับมาเป็นตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนให้ออฟฟิศชายล้วนแห่งนี้มีสีสัน เปิดกว้างให้กับความคิดเห็น และตัวตนที่หลากหลายมากขึ้น
สามารถรับชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ที่ YouTube: Pixar
ภาพยนตร์อนิเมชั่นทั้ง 5 เรื่องที่เราเอามาแนะนำในวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย สื่อสารออกมาอย่างตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน ที่สำคัญใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถดูจบเรื่อง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราเลือกหยิบหนังสั้นมาจัดเป็นลิสต์ในเดือน Pride Month เพราะเราเชื่อว่า ความหลากหลายไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยาก หรือต้องสื่อสารให้ซับซ้อนยิ่งใหญ่ แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่เข้าใจได้ง่ายๆ เพียงแค่เปิดใจรับฟัง
Share