ดีเจสาวจากเชียงใหม่ ผู้หลงใหลการสแครชแผ่น และเปิดเพลงเป็นชีวิตจิตใจ DJ Baby$cash

ปัจจุบันโลกเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแวดวงดีเจก็มี 'ดีเจผู้หญิง' ที่ทั้งสวย ทั้งเก่ง มากหน้าหลายตา ถ้าจะพูดให้แคบลงมาหน่อย หากจะพูดดีเจผู้หญิงที่เชียงใหม่ คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้แน่นอน "DJ Baby$cash" (เบบี้สะแคช) หรือ ‘แคช’ – ณัชชา ชัยภิบาล ดีเจสาวพลัสไซส์ ที่มีสไตล์การเปิดเพลงที่ชัดเจน บวกกับคาแรกเตอร์ และการแต่งตัวที่เฟียสจัด เธอเป็นอดีตศิลปินวง derdamissyou และ Sounds From Wednesday Evening อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอเลือกเส้นทางการเป็นดีเจ และโลดแล่นอยู่ในวงการนี้มานานกว่า 10 ปี และตอนนี้เธอกำลังทำอยู่อะไรบ้าง เราไปทำความรู้จักพร้อมๆ กันค่ะ

จุดเริ่มต้น DJ Baby$cash

หลังจากพักวงเด๋อด๋ามิสยู ก็เริ่มทำดีเจ ซึ่งตอนนั้นพี่เด๋อ (ที่ทำวง derdamissyou ด้วยกัน) เขาไม่ว่าง พอจับทางดีเจก็รู้สึกว่าเป็นทางที่เราทำได้ ตอนนั้นเรียนจบแล้วด้วย เราได้รู้จักพี่ปุ๊ (เจ้าของร้านวอร์มอัพ ที่จังหวัดเชียงใหม่) เราก็เห็นเขาในงานศิลปะ เลยขอเขาลองเล่น จึงเกิดการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน พี่ปุ๊สอนการเป็นดีเจให้กับเรา ส่วนเราก็สอนเขาร้องเพลง ตอนนั้นเลยเริ่มจับแผ่นเสียง เริ่มนับบีท และไปยืมเครื่องเสียงของรุ่นพี่มาซ้อม แต่ก็ซ้อมได้แปบเดียว ซึ่งมันไม่ได้ มันเลยเป็นอะไรที่ต้องลงทุน ตอนนั้นเลยพักไปก่อน แล้วพี่เขาไม่มีเวลาสอนเราด้วย จนปี 2014 ตอนนั้นเรามีแฟนซึ่งเขาเป็นดีเจที่เก่งมากๆ พี่เขามาดูเพลย์ลิตส์เรา แล้วเขาก็ชมว่า “เราฟังเพลงเท่ เธอได้นะ เธอต้องเป็นดีเจนะ แคชต้องเป็นดีเจค่ะ” เปิดทางให้เราละ งั้นจัดไปซัพพอร์ตเราด้วย ต้องขอบคุณเขามากๆ เลยนะที่พูดคำนั้นออกมา (พี่แชมป์ ดีเจ เจได) ซึ่งเป็นดีเจมาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 10 ปี แล้ว (เริ่มทำตั้งแต่ปี 2009)

“เราได้มีโอกาสสัมผัสการเป็นดีเจ แล้วมีคนมาพูดกระตุ้นอีก มันไม่มีอะไรให้เราต้องเสียเลย” 

ความแตกต่างระหว่างการเป็นศิลปิน กับ ดีเจ คืออะไร?

ดีเจตอนแรกเรารู้สึกจริงจังว่ามันเป็นอาชีพได้ตั้งแต่ต้น แต่วงดนตรีมันทำไม่ได้ในความจริง เพราะต้อง concentrate กับคนใน และคนฟังด้วย แต่ถ้าเป็นวงดนตรีโดนชมก็ทั้งวง โดนด่าก็ทั้งวงเช่นเดียวกัน และต้อง concentrate คนอื่นด้วย แต่ถ้าดีเจรับเองจบเอง โดนชมก็โดนเอง ด่าก็โดนเอง เจ็บก็เจ็บเอง ร้องไห้ก็ร้องไห้เอง เลยรู้สึกว่าบริบทมันต่างกันนะ เพราะดีเจเราทำเป็นอาชีพ รับงานเป็นวีค แต่พาร์ทของดนตรีเราไม่ได้ทำเป็นอาชีพ เราทำเพื่อให้ตัวเองมีอะไรขึ้นมา หรือสร้างตัวตนจะเรียกแบบนั้นก็ได้ ดีเจเหมือนเป็นตัวเรา และเราหาเงินจากมันได้ด้วย เป็นอาชีพได้ด้วย

“ดีเจซ้อมคนเดียวได้ แต่ถ้าเป็นวงต้องนัดกันซ้อม ดีเจเราเล่นคนเดียวของเราได้ สร้าง Routine คิด process เอง มิกซ์เอง ทำอะไรเองหมดเลย จบในคนๆ เดียว” 

แรงบันดาลใจที่ทำให้เป็น DJ Baby$cash ทุกวันนี้ 

มาจากหลายๆ อย่าง ทั้งเพลง เพื่อนๆ และสังคม พอเราเป็นดีเจแล้วเรามีชื่อเสียงระดับหนึ่ง ทำให้มีอะไรเข้ามา ทำให้เราภูมิใจในตัวเองได้ทุกวัน ซึ่งมันทำให้เราฮีล พอเราได้รับคำชมเราก็เอาคำชมนี้มาเป็นแรงบันดาลใจให้เราทำงานต่อไป แล้วยังมีพี่ๆ ดีเจหลายๆ คนเลยที่ให้กำลังใจ แนะนำให้เราทำตรงนั้นตรงนี้บ้าง มันจุดไฟแคชไปเรื่อยๆ เลยนะ ทำให้เราสนุก และคิดโปรเจกต์งานได้ เราเลยอยากทำไปเรื่อยๆ เลย คือแรงบันดาลในรูปแบบหนึ่งที่ดีมากๆ

“เรามี Energy ตอนทำงานมากๆ เริ่มแรกที่เป็น Baby$cash ทุกคนจะชอบเพลง ชอบสไตล์เพลงที่มีความแปลกใหม่ มีความเป็น future เปิดแล้วทุกคนจะรู้เลยว่านี่คือ Baby$cash คงเป็นแนวเพลง รูปลักษณ์ที่คนจำง่าย และสไตล์การแต่งตัว”

แล้วดีเจที่ DJ Baby$cash ชื่นชอบคือใคร?

มีพี่ดีเจคนหนึ่งที่แคชรู้จัก ชื่อ 'ดีเจเพลินนี่' เขาอยู่กลุ่มดีเจ bangkok invaders กับพวกไทเทเนียม เมื่อก่อนแคชจะปรึกษาเขา แล้วเขาก็บอกให้แคชคิดไว้เลยว่าอยากจะเป็นดีเจแบบไหน ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่ามีดีเจแบบไหนบ้าง เราก็ลองเสิร์จดูทั่วโลกซึ่งตอนนั้นเราอินกับการสแครชแผ่น เราไปเจอ 'DJ SARASA' เป็นดีเจชาวญี่ปุ่น เขาเก่งเรื่องสแครช เอนเตอร์เทนคนดู เขามี energy ตอนเปิดเพลงมาก เราอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง เพราะเขาทำได้หลายฟอร์แมท ทั้งเปิดเพลง Routine ทั้ง pump up the party เป็นฟีลปาร์ตี้ เขาก็สนุก และเก่งทุกอย่างเลย เขาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาไปอยู่ในวงออเครสตร้าดีเจอันหนึ่งของญี่ปุ่นได้

ที่มาของชื่อ DJ Baby$cash

แคชจะชอบโดนพวกฝรั่งหัวเราะชื่อบ่อยมาก เคยมีครั้งหนึ่งช่วงแรกๆ ที่ไปเปิดเพลง ฝรั่งเขาก็ถามว่าเราชื่ออะไร ถามเป็นภาษาไทยด้วยนะ เราก็ตอบว่า Baby$cash เขาก็พูดกลับมาว่า 'ลูกของเงินหรือครับ?' จริงๆ แล้วไม่ใช่ มันมาจาก cash ซึ่งเป็นชื่อของเรา การสแครชมันมีท่าเบสิคอยู่ท่าหนึ่ง ชื่อว่า 'Baby scratch' ตัดคำว่า 'cratch' ออก แล้วเติม 'cash' แทน เพราะฉันไม่ใช่ลูกของเงิน และไม่ใช่เด็กด้วยนะ (หัวเราะ)

สไตล์เพลงที่เปิดเป็นแบบไหน และอะไรคือ สไตล์ที่แท้จริงของเรา?

แคชเป็นคนมีหลายโหมดมาก มันจะมีโหมดปาร์ตี้ตลาดแตก แบบทรงแคชอีกอันหนึ่ง อีกแบบคือ ไซด์โปรเจกต์ และเปิด Open Format เป็นหลักทุกวันศุกร์ จะเปิดเป็นแนวเพลงของตัวเองตอนที่โดนจ้างไปจริงๆ อีกโหมดคือ ดรัมแอนด์เบส ที่แคชกำลังเริ่ม ถ้าให้สรุปแบบเข้าใจง่ายๆ คือ เพลงที่แคชชอบ เพราะเราให้ลูกค้า 50/50 เลย ซึ่งเพลงที่เราชอบต้องเป็นเพลงที่ลูกค้าชอบด้วย เราจะไม่เปิดเพลงที่ไม่ชอบ แล้วถ้าถามว่าอะไรคือ สไตล์ที่แท้จริง อะไรก็ได้ที่ Based-on Hip-Hop อย่าง drum and bass ที่กำลังเริ่ม รากฐานก็มาจากเพลงฮิปฮอป R&B, Future Hop, bireley flip ฯลฯ

“ตอนนี้ไม่มีใครคิดว่าเราเป็นคนเชียงใหม่เลย คิดว่าเราเป็นคนกรุงเทพฯ (หัวเราะ) เราคิดว่าการที่เราไปสร้างตัวตนที่ไหน คนจะคิดว่าเรามาจากที่นั่น จะเป็นคนที่ไหนจึงไม่แตกต่างอะไร อยู่ที่ความเป็นตัวของตัวเอง และเทสของแต่ละคนมากกว่า” 

ถ้าให้เลือกเพลงที่ชอบเปิด คือเพลงอะไร (หรือเป็นเพลงแนวไหน)

ชอบเพลง 'อย่าไห้เด้ (Don't Cry) – Srirajah Rockers feat. รัศมี' แคชชอบเปิดเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายของค่ำคืน เนื้อหามันบอกว่าเธอจะร้องไห้ทำไม อย่าร้องไห้ เราจะปลอบทุกคน และปลอบตัวเองในค่ำคืนนี้ พร้อมส่งทุกคนกลับบ้าน ไม่อยากให้เศร้าค่ะ

ความทรงจำเกี่ยวกับการเป็นดีเจที่ทำให้รู้สึกประทับใจคือ?

ล่าสุดน่าจะเป็นงานแต่งงาน เป็นงานแรกของปีนี้เลย ทุกคนในงานสนุก และขอเพลงเรามาเยอะมาก ซึ่งงานนั้นเราได้เล่นเป็นตัวเองแค่นิดเดียว เราเลยเล่นตามเพลงที่ลูกค้าขอทั้งหมด สักพักมีเพื่อนของบ่าวสาวเดินเข้ามาสะกิดเราระหว่างที่กำลังคลำหาเลยว่าจะเปิดเพลงอะไร หรือจะไปทางไหนดีที่ทำให้เข้าลิตส์เพลงที่เราขอได้ แต่เขาเข้ามาพูดกับเราว่า "เปิดเพลงสนุกมากเลยนะครับ ผมรู้เลยว่าเทสคุณดี แต่ตอนนี้คุณกำลังเปิดเอาใจคนอื่นเฉยๆ" รู้สึกแบบ เฮ้ย เขารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ มันรู้สึกใจฟู เป็นคนแรกที่พูดกับเราแบบนี้ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดแบบเขาไหม ทั้งเซอร์ไพรซ์ และรู้สึกดี เป็นโมเมนท์ที่น่ารักมากๆ ฟังแล้วมีพลังบวก

พิสูจน์ตัวเองกับ 'เส้นทางดีเจ' 

มีพี่สาวคนหนึ่งชอบบอกแคชตลอดว่า “ฟังเพลงแล้วไม่เหมือนผู้หญิงเปิดเลย” เราจะเปิดเพลงหวานก็ได้ เปิดแมนๆ แบบผู้ชายก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาดูเลยว่าคนที่เป็นดีเจ หรือคนที่กำลังเปิดเพลงอยู่เขาเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายเปิด คุณไม่จำเป็นต้องตัดสิน ถ้าเราอยากจะสุดในทางไหนทางหนึ่งเราก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง ต้องวิ่งเข้าหามัน เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งตอนนั้นหลายคนก็จะจับตามากว่า มีดีเจผู้หญิงมาแข่งนะ ซึ่งตอนแข่งแรกๆ ก็ไม่ได้ทำให้เราติดอันดับ แต่ทำให้เราได้พิสูจน์ว่าเราก็เทียบเท่าคนอื่นได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม เราก็เป็นคนๆ หนึ่งที่ไปยืนอยู่ตรงนั้นได้เหมือนกัน 

“อยากให้คนอื่นคิดไปเลยว่าเราไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น เพราะยุคดีเจเมื่อ 10 ปีที่แล้วคือ ยุค EDM โชว์นม เราก็เลยไม่อยากให้คิดว่าเราเป็นผู้หญิงนะ อยากให้ฟังเพลงแล้วรู้สึกชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบในแบบที่เราเป็น อย่ายึดติดว่าแคชเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายมาเปิดเพลง” 

แชมป์ 'Pioneer DJ Turntable Championship Rookie of The Year 2017' 

จนวันที่ได้คว้าแชมป์ดีเจหน้าใหม่ ‘Turntable Championship 2017’ ท่ามกลางหมู่ผู้ชาย ก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่าเราเป็นผู้หญิงที่ชนะผู้ชาย ตอนนั้้นไม่ได้ concentrate คนอื่นเลย แค่ตัวเองก็จะตายอยู่แล้ว เพราะมันกดดันมากๆ อยู่เหมือนกันเรื่องการแข่ง คนชอบพูดกับเราเยอะว่าเราเปิดเพลงท่ามกลางผู้ชาย ผู้ชายล้อมรอบคือเท่ แต่เรารู้สึกธรรมดา เพราะเราอยู่กับพวกผู้ชายมาก่อนแล้ว จากที่เราโตมากับแก๊ง Minimal หรือ วงดนตรีมาก่อน เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะการเป็นดีเจผู้หญิงไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ แต่เราพิสูจน์เพื่อตัวเราเอง

Nightlife Chiang Mai ปัจจุบันเปลี่ยนไปมากไหม

ไม่เปลี่ยนเลยค่ะ สนุกยังไง เดือดยังไงก็เป็นอย่างนั้น เปลี่ยนแค่เรื่องเวลาอย่างเดียว 

“ความท้าทายเดียวคือ 'ลูกค้า' เพราะเราไม่สามารถตามใจทุกคนในคืนนั้นได้ แต่เราจะทำยังไงให้ลูกค้าทุกคนมีความสุขได้ไหม ซึ่งเราก็มี Way ในการแก้ปัญหาของเรา”

จุดเปลี่ยนในการรับงานเฉพาะทาง และ การสอนร้องเพลง

จริงๆ ทำมาหลายปีมากๆ แล้ว เพราะอยากมีรายได้เพิ่มจากการเป็นดีเจ อยู่เชียงใหม่ว่างๆ บ้านเป็นโรงแรม และมีห้อง เลยคุยกับที่บ้านว่าอยากทำห้องเป็นสตูดิโอ เลยถือโอกาสเปิดสอน ซึ่งตอนที่ยังไม่มีห้องแรกๆ เรียนในห้องนอน ตอนนั้นรับแต่ผู้หญิงอย่างเดียว เลยทำห้องเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งแคชสอนร้องเพลงมา 7-8 ปีแล้ว ทำควบคู่กับการเป็นดีเจมาตลอด แล้วมีเครื่องดนตรีให้เช่า เครื่องเล่นดีเจ ลำโพง หรือ โต๊ะก็มีให้เช่าด้วย

ถ้าอยากเจอ DJ Baby$cash ตัวจริง สามารถเจอได้ที่ไหนบ้าง?

ถ้าที่เชียงใหม่ต้องไปที่ 'ร้าน Yoh' ทุกวันศุกร์ เล่นประจำที่นี่ ตั้งแต่เวลา 21.40 น. - 00.00 น. พบกับแนวเพลง Open Format ต่างๆ R&B จนไปถึงลูกทุ่ง และก็มีตามงานต่างๆ ในเชียงใหม่ ส่วนกรุงเทพฯ จะเป็นร้านในเครือ Thaipioka (ไทยพิโอกา) ติดตาม และอัพเดทได้ทาง IG ได้เลยค่ะ

การเป็นดีเจให้อะไรกับเราบ้าง? 

ได้เพื่อน ได้สังคมดีๆ ได้กินขอองอร่อยๆ ได้มีโมเมนท์ดีๆ และสร้างบรรยากาศดีๆ เพื่อคนอื่น ได้เป็นพลังบวกให้คนอื่น โดยที่เราอาจไม่รู้ตัวก็ได้ มัน peaceful มันเหมือนเราได้เจอตรงกลางของชีวิตเราแล้วว่าเราทำสิ่งนี้เพื่ออะไร มันน่าจะเป็นทุกคนสำหรับคนที่รักดนตรีว่า ถ้าเจอทางของเรา เราอยากจะ Stick กับมันตลอดไป เพราะมันได้รับความสุข และให้ความสุข มันเป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตสมดุล มันเป็นไลฟ์สไตล์ไปแล้ว แล้วได้เงินด้วย

มีคำแนะนำอะไรในการเป็นดีเจ เพื่อให้ประสบความสำเร็จไหม?

มีอย่างเดียวเลยคือ 'การซ้อม' เพราะมันเป็นกังฟูของดีเจ เหมือนเราเริ่มเล่นกีตาร์เราก็ต้องซื้อกีตาร์ไว้ซ้อม ต้องอยู่กับมัน และทำให้มันกลายเป็นอวัยวะหนึ่ง ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จอยากจะฝากไว้ ซึ่งแคชชอบมากคือ คำคมของ บรูซ ลี เขาพูดว่า "ผมไม่กลัวคนที่เตะครั้งเดียวแล้วได้หนึ่งหมื่นท่า แต่ผมกลัวคนที่เตะท่าเดียวหนึ่งหมื่นครั้ง" ซึ่งคำนี้เป็นคำที่แคชเอามาใช้ตลอดในการฝึกดีเจ

มอง DJ Baby$cash ในอนาคตอย่างไร 

เราก็ไม่รู้ในอนาคตว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ ณ ปัจจุบันที่มองไว้ คงวางสเกลงานใหญ่กว่านี้ ให้มันครบกว่านี้ ถ้ามีเงินมากพอ และจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ รวมทั้งช่วยงานที่บ้านด้วย แล้วในอนาคต แคชก็แอบหวังว่าจะได้ไปเล่นต่างประเทศ ซึ่งเป็นงานจ้างของตัวเอง แต่ตอนนี้เราก็กำลังหาเล่นก่อน ให้แทรกซึมไปก่อน ก็กำลังพยายามอยู่ค่ะ

“DJ Baby$cash เป็นคนรักดนตรีคนหนึ่งที่อยากสร้างความสุขให้ทุกคน”

ทิ้งท้าย 5 เพลงแนะนำ สำหรับทำเพลย์ลิตส์ จาก DJ Baby$cash

1. SRIRAJAH ROCKERS feat. RASMEE - อย่าไห้เด้ [Don't cry] 

https://youtu.be/Uji90_2M0ZY

ชอบเปิดเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายส่งทุกคนกลับบ้าน มันพลังบวก มัน feel good เปิดจนเป็น signature ไปแล้วค่ะ อยากบอกทุกคนว่า ‘อย่าไห้เด้’

2. Christina Aguilera - Beautiful 

https://youtu.be/eAfyFTzZDMM

มีเพื่อนคนนึงเปิดบาร์ หลังบาร์ปิดทุกคนจะมานั่งรวมกัน เพื่อนคนนั้นจะคอยชวนเล่นเกม มีคืนนึงนางให้ทุกคนเลือกเพลงที่ตัวเองคิดว่าอธิบายความเป็นตัวเองได้ดีที่สุด และเราเลือกเพลงนี้ค่ะ 

3. เบิร์ด ธงไชย - เสียดาย

https://youtu.be/qDSn91P9Y9Y

ชอบเปิดต่อ Love on Top - Beyonce มันเปิดต่อกันแล้วเข้ากันได้ดีมากๆ แคชใช้เพลงนี้แข่งในเซ็ต Red Bull 3Style ด้วยนะ ทุกเพลงของพี่เบิร์ดเป็นเพลงไทยที่ฟังกี่ครั้งก็มีความสุข คลาสสิค มีความ Hip Hop R&B ผสมอยู่หลายเพลง ผ่านไปกี่ยุคก็ไม่เบื่อเลย

4. YANIN X Minth Maytas - Summer Balcony

https://youtu.be/7SsWKM5-e_Y

แคชชอบผลงานญานินมาตลอด เพลงนี้คือ ว้าวมาก เหมือนญานินเอาจิตวิญญาณตัวเองออกมาเรียบเรียงให้คนเข้าใจได้ง่าย ออกมาในรูปแบบของเพลง

5. GENA DESOUZA - ทุกที (Always Lie)

https://youtu.be/8ticdYzuHPk

จีน่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีพลังในการสร้างสรรค์ผลงานจากจิตวิญญาณตัวเอง เพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลแรกตั้งแต่ที่จีน่าออกมาทำเพลงด้วยตัวเองทั้งหมด เราปลื้มมากๆ ทันทีที่เห็นเอ็มวีนี้ออกมา ความเท่ ความแปลกของบีท ทำให้เราสามารถมิกซ์เพลงจากเพลงไท�