Art

“Rewind” เพลย์ลิสต์ที่จะพาคุณลอยกลับไป เพื่อพบตัวตนของ DJ Toey GALAGA

ครั้งนี้ EQ ขอกวักมือเรียกชาวดนตรีสาย Indie Rock และ Techno ให้มาฟังเพลย์ลิสต์ผลงานของดีเจมากประสบการณ์ DJ Toey GALAGA ที่มีตัวตนของเขาอยู่เต็มเปี่ยม พร้อมพาล่องลอยไปกับเสียงเพลง ย้อนไปทำความรู้จักความเป็น DJ Toey และเรื่องราวของเขา ถือโอกาสเป็นเพลย์ลิสต์ร่ำลาเพื่อนๆ เมืองไทย ก่อนที่เขาจะโยกย้ายตามคู่สมรสไปที่เบอร์ลิน  

1. เล่าที่มาที่ไปของคอนเซ็ปต์ และแนวดนตรีในเพลย์ลิสต์นี้หน่อย

ทั้งหมดมันเป็นความรู้สึกในช่วงเวลานั้นๆ เอาเป็นว่าเป็นเพลงที่ยังจำได้แล้วนึกได้ก่อนแล้วกัน เพราะถ้าจะให้เลือกก็คงเยอะ

แนวดนตรีจะปนกันหมดครับ ชอบอันไหนหรือนึกได้ก่อนก็ใส่อันนั้น แล้วก็มาเรียงลำดับตามจังหวะที่ขยับขึ้น แนวดนตรีที่เลือกก็มี Psychedelic Rock, Alternative, Experimental, Electronic, Acid House และ Oldschool Techno

2. โดยส่วนตัวชอบฟังเพลงแนวไหนบ้าง และคิดว่าเพลงให้อะไรกับตัวเอง

ช่วง 4 ปีหลังจะเป็น Electronic เลย ที่ผ่านมาก็จะเป็นไปตามการใช้ชีวิตในตอนนั้นว่าทำอะไรอยู่ อินกับอะไรอยู่ แนวเพลงก็ตามเพลย์ลิสต์เลยครับ ส่วนที่ว่าได้อะไรจากเพลงบ้าง แน่นอนว่าความบันเทิง แล้วก็งานครับ

3. เรื่องราวของ DJ Toey GALAGA

เริ่มเปิดเพลงตั้งแต่ปี 1998 ตอนรุ่นพี่ที่สนิทเปิดคลับ แล้วอยากให้เราเป็นดีเจ ทำได้อยู่ 3-4 ปี อินบ้างไม่อินบ้าง เพราะเราต้องเปิดตามสไตล์ของร้านเลยไม่ชอบการเป็นดีเจ แล้วเปลี่ยนไปทำงานอย่างอื่น แต่ก็ยังเปิดเพลงตามงานอีเวนต์ (นานๆ ที) แล้วก็ได้กลับมาเปิดเพลงจริงจังอีกทีปี 2010 ตอนที่ได้ไปอยู่ลอนดอน เพราะเป็นงานที่เราถนัดกว่างานอื่น ซึ่งก็ยังไม่อินเพราะแนวเพลงถูกจำกัดจากสไตล์ของคลับอีกแล้ว ซึ่งตอนนั้นคือไป Fabric เกือบทุกสุดสัปดาห์ในระยะเวลา 4 ปี หลังเลิกงานจากดีเจ ไปกับเพื่อนๆ บ้าง ติดลมบ้าง แต่ก็ยังไม่อินกับเพลง Electronic อะไรทั้งนั้น (ตอนนั้นมีอคติว่าอยากเป็นนักดนตรีมากกว่า)

ตัดไปตอนกลับมาต้นปี 2014 ก็ได้มารู้จักเพื่อนคนอเมริกันชื่อ Andre ชวนทำวงดนตรีชื่อ GALAGA เลยได้เล่นดนตรีกับเพื่อนคนนี้อยู่ประมาณ 2 ปี ได้ประสบการณ์ความรู้เรื่องการเล่นดนตรีจาก Andre เยอะเลย เขาเป็นทั้งเพื่อนและครูที่เก่งมากๆ แนวทางชัดเจน หลังจากนั้นก็ได้ลองไปอยู่เกาะช้าง เพราะตอนนั้นงานน้อยมาก เหมือนจะต้องเปลี่ยนอะไรสักอย่างในชีวิต มันเริ่มมาถึงทางตัน ตอนไปอยู่ก็เปิดบาร์เล็กๆ กับรุ่นพี่ ตอนนั้นเราก็ยังคงเล่นเพลงบรรยากาศในร้านเป็น Indie Rock

คืนหนึ่งได้มีโอกาสเปิดเพลงช่วยโฮสต์ดีเจที่เกาะ เพราะเขาเหนื่อยแล้วก็รู้ว่าเราเปิดเพลงได้ ก็เลยช่วยเปิดเพลงของเขา หลังจากนั้นที่คลับเลยให้ลองมาเปิดเพลงประจำ เลยเริ่มจากตรงนั้นที่เราเริ่มได้เปิดเพลงที่เราเลือกเอง หลังจากนั้นก็เปิดเพลงเป็นหลักมาจนถึงปัจจุบัน

4. ประสบการณ์ความ High ที่สุดของตัวเองคืออะไร แล้วได้อะไรจากความ High

น่าจะเป็นตอนที่เริ่มอิน Techno แล้วได้เปิดกับชุดเครื่องเสียงที่เหมาะกับดนตรีแนวนี้ แค่เสียงเบสไลน์ก็ใจสั่นสะท้านไปถึงระบบน้ำในร่างกาย มันเป็นดนตรีที่ได้รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนแม้กระทั่งใส่ที่เซฟหู (หัวเราะ) มันมีเสน่ห์มากเวลาเดินผ่านคลับแล้วได้ยินแค่เสียงเบสไลน์ลอดออกมา รู้สึกฮึกเหิมอยากย่ำฟลอร์เต้นรำ รู้สึก High กับเสียงเบสไลน์เลย

5. ฝากผลงานให้คนติดตามในอนาคต

BLACK LODGE Collectif เป็นชื่อบาร์ที่เคยทำกับแฟนที่เกาะช้าง ปัจจุบันก็ใช้ชื่อนี้จัดงานดนตรีสาย Electronic คอนเซ็ปต์ตามชื่อเลยครับ เป็นกลุ่มคนหรือหมู่คณะที่ชอบอะไรคล้ายๆ กันแล้วมาร่วมทำด้วยกัน join กัน ก็พยายามเคลื่อนไหวให้คนไม่ลืมชื่อ จริงๆ ทำเสื้อขายอยู่แต่คนไม่ค่อยรู้ เพราะขายไม่เก่ง แฟนเป็นคนออกแบบลายเสื้อ จะเป็นแนว 90’s Rave ต้องยกให้เขาเพราะเขาเติบโตมากับบรรยากาศนั้นเลย ปัจจุบันอยู่เชียงใหม่ กำลังย้ายถิ่นฐานไปอยู่กับคู่สมรสที่เบอร์ลิน ถือว่าโชคดีมาก เป็นเมืองที่เหมาะกับงานและสิ่งที่เราชอบที่กำลังทำอยู่ในชีวิต

มีเล่นที่กรุงเทพ วันที่ 7 พฤษภาคม Never Normal ไปเปิดกับน้องรักอนาคตไกล Liam เป็นน้องอยู่ทำตั้งแต่เริ่ม Underground Bar project ขอเรียนเชิญพี่น้องรักทุกคนให้มาลองฟัง BLACK LODGE สไตล์หรืออาจจะเป็นโอกาสที่จะได้ร่ำลา เพราะไปคราวนี้คงอีกนานกว่าจะได้มีโอกาสเจอกันอีก ก็ติดตามชื่อ BLACK LODGE collectif ผมกับภรรยา มี Project ทำอะไรต่อที่เบอร์ลินแน่นอน

Instagram: blacklodgecollectif

6. ถ้าให้ตั้งชื่อเพลย์ลิสต์นี้ จะให้ชื่อว่าอะไร

“Rewind”

ติดตามไลฟ์สไตล์และอัปเดตผลงานได้ที่ toey_galaga

ฟังเพลงจากเพลย์ลิสต์ Rewind ได้ที่ Rewind by Toey GALAGA