เชื่อว่าทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนฟังเพลงเป็นกิจวัตรประจำวัน บ้างก็ฟังตลอดทั้งวันจนเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตไปแล้ว เนื่องในโอกาสวันสตรีสากลเราเลยอยากพาทุกคนไปรู้จักกับเพลงของศิลปินหญิง 5 คนที่ Motivate ความเท่าเทียมในสังคมผ่านเนื้อเพลงของพวกเธอ เผื่อใครที่กำลังจะหมดไฟลองมาฟังเพลงกับเรา แล้วเติมไฟให้ตัวเองพร้อมเดินหน้าต่อไปด้วยกันเถอะ
Miley Cyrus กับบทเพลงที่มาแรงสุดๆ อย่าง ‘Flowers’
https://www.youtube.com/watch?v=G7KNmW9a75Y
Miley Cyrus เป็นศิลปินที่ในอดีตเคยเป็นเด็กปั้นของดิสนีย์มาก่อน ปัจจุบันเธอเพิ่งจะปล่อยอัลบั้มใหม่ที่ชื่อว่า Endless Summer Vacation (2023) โดย ‘Flowers’ เป็นหนึ่งในเพลงของอัลบั้มนี้ที่เรียกได้ว่ามาแรงสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของความไพเราะ หรือ จะเป็นมุมมองเนื้อหาความหมายของเพลงที่แสดงจุดยืนถึงความเป็น Empowered Woman อย่างชัดเจน
“I can buy myself flowers
Write my name in the sand
Talk to myself for hours
Say things you don’t understand
I can take myself dancing
And I can hold my own hand
Yeah, I can love me better than you can”
จากเนื้อเพลงเราจะเห็นได้ถึงความหมายที่ตรงตัวของการเป็นผู้หญิงที่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองเราตีความว่า เพลงนี้ต้องการพูดถึงการใช้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเองเปรียบเสมือนการที่มีอำนาจตัดสินใจในการกระทำไม่ต้องสนใจใคร ไม่แคร์ผู้คนฉันจะทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการแม้กระทั่งเรื่องที่ควรจะทำเป็นคู่อย่างการเต้นรำฉันก็ไม่ต้องง้อเธอฉันเต้นเองคนเดียวได้ ถือว่าเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องโดดเด่นมากเหมาะที่จะฟังในเดือนของสตรีจริงๆ
‘Born This Way’ เพลงที่สนับสนุนความเป็นตัวเองของทุกคนจาก Lady Gaga
https://www.youtube.com/watch?v=wV1FrqwZyKw
หากพูดถึงความเป็นผู้หญิงที่ส่งเสริมความเท่าเทียม และคอยสนับสนุนความหลากหลายของสังคมจะไม่พูดถึง Lady Gaga เลยก็จะแปลกอยู่เพราะเธอคือ ตัวแม่ของความหลากหลายเธอมักจะคอยให้กำลังกลุ่ม LGBTQ+ อยู่เสมอมา และยังช่วยเหลือเหยื่อการถูกทำร้ายและล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย ถือว่าเป็นศิลปินที่ทำเพื่อสังคมจริงๆ เธอมีเพลงโด่งดังมากมายแต่ Born This Way เป็นเพลงที่เรามองว่ามัน Motivate กลุ่มคนได้ทุกเพศ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้แก่เหล่า LGBTQ+ มาอย่างยาวนานเนื้อร้องของเพลงนี้เป็นการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง
“No matter gay, straight, or bi', lesbian, transgender life
I'm on the right track, baby, I was born to survive
No matter Black, white or beige, chola, or Orient' made
I'm on the right track, baby, I was born to be brave
I'm beautiful in my way 'cause God makes no mistakes
I'm on the right track, baby, I was born this way
Don't hide yourself in regret, just love yourself, and you're set
I'm on the right track, baby, I was born this way, yeah”
เนื้อเพลงนี้ไม่ได้จะสื่อเพียงแค่ผู้หญิง หรือกลุ่ม LGBTQ+ แต่เป็นการพูดถึงการเกิดมาของผู้คนว่ามันไม่มีข้อผิดพลาดหรอก ทุกคนล้วนเกิดมาเป็นตัวของตัวเอง อย่ามัวแต่เศร้าเสียใจที่ตัวเองแปลกแยก ถือเป็นเพลงที่ดีมากเพลงหนึ่ง และยังเป็นเพลงที่บ่งบอกได้ถึง Queer Culture อย่างชัดเจนเป็นการสนับสนุนแนวคิดที่ว่าด้วยความหลากหลายในสังคมที่ในปัจจุบันไม่ได้มีแค่ชายกับหญิง และไม่ได้มีแค่วิถีชีวิตแบบเดิมๆ ของชาย และหญิง เควียร์คือ ความแตกต่างที่เปลี่ยนแปลงไปของสังคม สอดคล้องกับเนื้อเพลงที่ไม่ต้องการให้ใครรู้สึกแปลกแยกเพราะ ทุกคนเกิดมาเป็นตัวของตัวเอง
Ariana Grande กับ ‘God is a woman’ เพลงที่บอกว่า พระเจ้าก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง
https://www.youtube.com/watch?v=kHLHSlExFis
เป็นอีกศิลปินหนึ่งที่เป็นไอคอนิกของผู้หญิงสมัยใหม่ที่ทั้งเก่ง ประสบความสำเร็จ และคอยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงอีกหลายๆ คน เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่เนื้อหาพูดถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงที่มีในการดำเนินชีวิตและอย่าลืมว่าตัวคุณเองมีพลังเหล่านั้น
“When all is said and done
You'll believe God is a woman”
ตัวเนื้อเพลงพยายามตอกย้ำความเป็นพระเจ้าที่หากมองดูดีๆ แล้วท่านอาจจะเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้ที่มีพลัง และสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ เป็นเพลงที่มีความสามารถในการเป็นเพลงชาติของเพื่อนหญิงพลังหญิงได้เลย
Beyoncé กับพลังของผู้หญิงที่ขับเคลื่อนสังคมใน ‘Run The World (Girls)’
https://www.youtube.com/watch?v=VBmMU_iwe6U
เรียกได้มาศิลปินคนนี้เกิดมาเพื่อขับเคลื่อนสังคมและผู้หญิงโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้เพราะ แม่ก็คือแม่ ไอคอนของเพลงป็อปกับ Run The World (Girls) ที่ทำเพื่อผู้หญิงอย่างแท้จริง เนื้อเพลงประกอบไปด้วยความมีอำนาจของผู้หญิงที่สามารถเป็นได้ถึงชนชั้นปกครอง เป็นผู้ขับเคลื่อนโลกใบนี้ สารที่ส่งออกมาจากเพลงนี้ไม่ใช่การเคลม หรือเพ้อฝันของเหล่าผู้หญิงแต่เป็นการให้กำลังใจ คนที่ต่อสู้กับความยากลำบากของโลกเพื่อไปจุดสูงสุดสำหรับผู้หญิง
“Who run the world? Girls (girls)
Some of them men think they freak this
Like we do, but no they don't
Make your check, come at they neck
Disrespect us, no they won't
Who are we?
What we run?
We run the world
Who run the world? Girls (girls)”
เราเชื่อว่าเพลงนี้คงเป็นเพลงในใจหลายๆ คน เนื้อหาเพลงไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์อะไรมากมายแต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของการเป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่สามารถหาเงินได้ สามารถกำหนดทิศทางของโลกได้ด้วยการปกครอง เพราะผู้หญิงครองโลกได้ทั้ง Motivate และ Empower ผู้หญิงได้อย่างดีเยี่ยม ฟังแล้วต้องลุกขึ้นไปเผชิญโลกข้างนอกด้วยความมั่นใจเกินร้อยได้แน่นอน
เดี๋ยวเวลาแย่ๆ มันก็ผ่านไป กับเพลง ‘About Damn Time’ โดย Lizzo
https://www.youtube.com/watch?v=IXXxciRUMzE
ศิลปินคนสุดท้าย และเพลงสุดท้ายนี้มากับ Lizzo ที่เพลงของเธอมักจะสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้ฟัง คอยเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นอะไรแย่ๆ
“Oh, I've been so down and under pressure
I'm way too fine to be this stressed, yeah
Oh, I'm not the girl I was or used to be
Uh, bitch, I might be better”
เนื้อเพลงนี้มาในแนวการให้กำลังใจผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิตว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไป ให้คิดเสียว่ามันเป็นช่วงเวลาแย่ๆ ช่วงเวลาหนึ่ง จงจำเอาไว้นะสาวๆ เดี๋ยวมันจะดีขึ้นเอง
เพราะอะไรเพลงเหล่านี้ถึงมีบทบาทกับผู้หญิงในสังคม
ทั้ง 5 เพลงจาก 5 ศิลปิน ล้วนเป็นเพลงที่ต้องการสร้างบรรทัดฐานให้แก่ผู้หญิง แสดงถึงความแข็งแกร่งที่พวกเธอมี ในบริบทของเพลงมองว่า ผู้หญิงเป็นคนเก่ง ไม่ต้องพึ่งผู้ชาย สามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยตัวเอง สอดคล้องกับความเป็นวัฒนธรรมเควียร์ ที่กล่าวถึงความหลากหลาย และการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตที่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้ชายอีกต่อไปแล้ว ทุกเพศสามารถเลือกเดินทางชีวิตของตนเองได้โดยไม่ต้องกังวลกรอบวัฒนธรรมความเชื่อแบบเดิมๆ ถึงแม้ในโลกความเป็นจริงความเท่าเทียมกัน หรือบทบาทของผู้หญิงจะถูกลดทอน และด้อยค่ากว่าผู้ชายก็ตามแต่บทเพลงเหล่านี้ก็มีแนวทางในการให้กำลังใจสร้างความเชื่อร่วมกัน สร้างความเป็นอำนาจร่วมกันของกลุ่มผู้หญิงที่แสดงให้เห็นว่า สามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตนเอง
ความสำคัญอีกอย่างคือ ศิลปินที่เรายกตัวอย่างมาล้วนสนับสนุนความหลากหลาย และพยายามผลักดัน community ทั้ง LGBTQ+ และผู้หญิง ให้ได้รับความเท่าเทียมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
พวกเธออาจจะเป็นศิลปินที่ไม่ใช่นักเคลื่อนไหว แต่ความสามารถของพวกเขาในการขับเคลื่อนความเชื่อมั่นในพลังของผู้หญิง มันทำให้เราเห็นว่าพวกเธอมีทัศนคติ และความคิดที่อยากจะผลักดัน เปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ เป็นแบบนี้ การขับเคลื่อนที่ได้รับการสนับสนุนจากคนที่มีแสงในตัว เลยเป็นสิ่งที่จำเป็นหากต้องการจะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดียิ่งขึ้น ความเท่าเทียมนั้นอาจจะไม่สามารถสร้างได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่การเข้าใจตัวตนของตัวเองเข้าใจความหมายของการมีอยู่ของเพื่อนหญิงพลังหญิง เป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นร่วมกัน และเปลี่ยนแปลงไป
สุดท้ายนี้เพลงที่สามารถ Motivate และ Inspire พวกเราได้ยังมีอีกมากมาย ทั้งจากศิลปินดัง หรือศิลปินผู้ขับเคลื่อนสังคมผ่านการเป็น Activist อย่างจริงจังก็มี ทุกคนล้วนมีจุดประสงค์ในการสร้างความเท่าเทียมให้กับทุกคน หรือแม้แต่คุณเองการรับฟังเพลงแล้วนำไปปรับใช้กับชีวิตตัวเองก็เป็นการ Empowered อำนาจอย่างหนึ่ง มันคือการรับสาร และนำไปใช้จริงทำให้สารนั้นเกิดความหมายขึ้น ถ้ามันเกิดกับคุณก็แสดงว่าการส่งสารของศิลปินไม่เปล่าประโยชน์ มันขับเคลื่อนสังคมได้จริง
“เพลงไม่ใช่เพียงแค่สื่อเพื่อความบันเทิงแต่มันคือ ศิลปะของภาษา
และการขับร้องที่แฝงไปด้วยความหมายของการมีชีวิต การมีตัวตน
การให้กำลังใจ การรวมพลัง และการขับเคลื่อนสังคม
เพื่อจุดประสงค์แก่ความเท่าเทียมของผู้คนในสังคมนั่นเอง”
อ้างอิง