เมื่ออยู่ไทยแล้วไม่มีโอกาสได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา ‘ฝ้าย – พรประภา แสงเลิศ’ ก็เลยเลือกไปทำความฝันให้เป็นจริงที่เบลเยียม และหลังจากที่เลือกเส้นทางนี้ได้ประมาณ 4 ปี เธอก็คว้าแชมป์จากรายการ Cake Star International Online Competition 2022 ได้สำเร็จ
ที่ผ่านมาผู้เขียนเชื่อเสมอว่า ฝีมือด้านงานศิลป์ของคนไทยไม่แพ้ใครในโลกอยู่แล้ว ดังนั้น นอกจากความดีใจก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นักเวลาที่เห็นคนไทยได้รางวัล กับฝ้ายก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากให้ผู้อ่านได้รู้จักเรื่องราวของเธออยู่ดี ในฐานะคนไทยหนึ่งเดียวที่ลงแข่งในนามของราชอาณาจักรเบลเยียม และมีเค้กฟองดองเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต
จากนับศูนย์ถึงเจ้าของร้านเค้กที่คิวยาวข้ามเดือน – ทำอย่างไรกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้
“ประมาณ 8 ปีก่อน ฝ้ายเป็นซิงเกิ้ลมัมที่ไม่มีความรู้ความสามารถอะไรเลย มีแค่เงินตั้งต้น 4,000 บาท ทำมาหลายอย่างแล้ว ตั้งแต่ขายเสื้อผ้ามือสอง ขายขนมจีบซาลาเปา จนเริ่มมีเตาอบเล็กๆ ไว้ทำเบเกอรี่ ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากทำเค้ก หลังจากนั้น พอแฟนคนปัจจุบันรู้ว่าเราชอบด้านนี้ก็สนับสนุนให้ไปเรียนเพิ่ม เราเลยได้ไปเวิร์กชอปทำเค้กครั้งแรกที่กรุงเทพฯ
วันนั้นทำให้ได้เปิดโลกว่างานเค้กมันต่อยอดไปได้อีกเยอะมาก หนึ่งในนั้นคือฟองดอง เรารู้สึกว่าการทำเค้กฟองดองมันมีความสุข ไม่รู้สิ มันเหมือนมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาว่าชอบงานนี้ อยากทำอันนี้มากกว่าเค้กทั่วไป อาจเพราะเราเป็นคนที่ชอบทำงานศิลปะมาตั้งแต่เด็กแล้วก็ได้”
“พอจบเวิร์กชอปนั้น แฟนก็สนับสนุนให้เรียนต่อในคลาสที่แอดวานซ์ขึ้นอีก แต่เรียนจบแล้วก็ไม่ได้ทำเค้กที่ภูเก็ตนะ เพราะตลาดเค้กที่นี่ไม่ใช่ตลาดที่ลูกค้ามีกำลังจ่ายสูง จนวันหนึ่งได้แต่งงานและย้ายไปเบลเยียม ถึงได้ทำเค้กจริงจัง ตอนนี้ร้านของฝ้ายจะต้องสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ต้องมีความอดทนนิดนึง (หัวเราะ) เพราะคิวเต็มค่อนข้างไว และบางทีก็จะมีงานแข่งด้วย บวกกับช่วงนี้ฝ้ายอยากให้เวลาพักผ่อนกับตัวเองมากขึ้น ก็เลยต้องรับงานน้อยลง”
เหมือนว่าเบลเยียมจะมีพื้นที่ให้คุณได้เติบโตมากกว่าที่ไทย
“ที่นี่ตลาดค่อนข้างกว้าง ฝั่งยุโรปเหมือนเป็นต้นกำเนิดของเค้กฟองดอง ก็เลยมีวัตถุดิบให้เลือกใช้เยอะ ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบไม่สูงมากเมื่อเทียบกับที่ไทย เพราะรู้สึกว่าที่นั่นจะมีบริษัทวัตถุดิบแค่ที่เดียว การนำเข้าก็ราคาแพง นอกจากนั้นก็มีงานประกวดค่อนข้างเยอะ ปีละ 2-3 ครั้งเลย รัฐบาลเขาสนับสนุนด้วย ทำให้ฝ้ายได้เดินทางไปประกวดในหลายประเทศที่อยู่ใกล้ๆ”
เล่าถึงงาน Cake Star International Online Competition 2022 สักหน่อย
“เป็นรายการที่ฝ้ายติดตามมาได้ 2 ปีแล้ว ศูนย์จัดงานอยู่ที่ประเทศตุรกี แต่ด้วยความเป็นงานออนไลน์ ผู้สมัครก็เลยมาจากทั่วโลก ครั้งนี้มีประมาณ 500 คน แบ่งเป็น 10 หมวด ฝ้ายลงหมวด Sculpture Figure คือการปั้นโมเดลน้ำตาล ซึ่งวัตถุดิบทุกอย่างที่นำมาใช้ต้องรับประทานได้ ตัดสินโดยให้เราส่งรูปวัตถุดิบที่ใช้ และวิดีโอขั้นตอนการทำแบบละเอียด ห้ามรีทัช ไปให้กรรมการ”
“งานที่ส่งประกวดชื่อ ‘A Lady from the Hell’ ได้ไอเดียมาจากการที่ฝ้ายคิดถึงบ้าน เราเป็นคนภูเก็ต เติบโตมาในครอบครัวไทยจีน ซึ่งช่วงนั้นใกล้จะมีประเพณีถือศีลกินผัก คนที่บ้านพาไปศาลเจ้าทุกปี เราก็จะได้เห็นองค์เทพต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ ‘เหล่งลื้อเหนียวเหนียว’ อยู่ข้างๆ องค์เจ้าแม่กวนอิม เป็นเทพธิดาที่ฝ้ายชอบมาก ว่ากันว่าเป็นบุตรสาวของพญามังกร แต่เราไม่ได้ปั้นให้เหมือนต้นแบบเป๊ะๆ นะ แค่เอามาเป็น reference และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมงานถึงเป็นเทพธิดากับมังกร”
เห็นว่าก่อนหน้านี้ก็เคยได้รางวัลด้วย
“หลังจากที่ทำงานน้ำตาลปั้นจริงจังได้ 2 ปี ประมาณปี 2020 ก็เคยลงประกวดรายการหนึ่งของเบลเยียมค่ะ ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 หลังจากงานแข่งครั้งนั้นเราก็ได้เรียนรู้และเอามาปรับใช้กับการแข่งล่าสุดได้เยอะเลย จากที่เคยกดดันตัวเอง ทำงานแบบไม่ได้นอน 1 สัปดาห์เต็มๆ จนน้ำหนักลดไป 10 กก. ก็หันมาให้เวลากับตัวเองมากขึ้น ปิดรับออเดอร์ 2 เดือน เดือนแรกใช้พักร่างกายและออกไปหาไอเดีย เดือนถัดไปค่อยเริ่มลงมือทำงานแบบไม่กดดันตัวเอง งานเลยออกมาดีกว่าครั้งก่อน”
รางวัลถือเป็นจุดสูงสุดในอาชีพไหม
“ไม่ใช่จุดสูงสุดเลยค่ะ จริงๆ แล้วฝ้ายไม่เคยมีเป้าหมายให้ตัวเองด้วยซ้ำ แต่อาศัยว่าเป็นคนที่ชอบไขว่คว้าทุกโอกาสที่เข้ามา เพราะมันทำให้เราเห็นว่าตัวเองพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน”
กว่าจะมีวันนี้คิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ
“น่าจะเป็นเพราะว่าเราเป็นคนไม่ชอบยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ ทั้งการเรียนรู้ การทำงาน และการใช้ชีวิต อย่างออเดอร์ลูกค้าที่เข้ามาแต่ละครั้ง มันไม่เคยซ้ำกัน บางทีเราก็ต้องพยายามใช้เทคนิคใหม่ที่ไม่เคยทำ แต่มองว่ามันช่วยให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้นะ”
“หรือจะเป็นก่อนหน้านี้ที่ฝ้ายเป็นเด็กเกเรมาก่อน เพราะครอบครัว toxic มาก ทั้งพ่อแม่แยกทางกัน ทั้งเคยเจอ sexual harassment จากคนในครอบครัว แล้วไม่มีใครช่วยได้ จนถึงขั้นจะผูกคอตายแล้ว แต่สุดท้ายก็พยายามให้ตัวเองโตมาได้ พอมองย้อนกลับไปก็รู้สึกว่าดีแล้วที่ไม่จบชีวิตไปก่อน เพราะถ้าตายตั้งแต่วันนั้นก็คงไม่มีอนาคตแบบวันนี้”
ถ้าวาดรูปไม่เป็นหรือไม่เก่งศิลปะ จะทำเค้กฟองดองได้ไหม
“ทำได้ค่ะ งานปั้นก็เหมือนเราเล่นดินน้ำมันนั่นแหละ ขอแค่มีเบสิกศิลปะ เช่น การผสมสี ก็ต่อยอดได้แล้ว”
จากประสบการณ์ คิดว่าคนทำเค้กฟองดองที่ดีควรเป็นแบบไหน
“ต้องอดทนมากๆ และอยู่กับตัวเองได้นาน เพราะงานชิ้นหนึ่งใช้เวลาเป็นวันเลย อย่างงานปั้นแข่ง ฝ้ายใช้เวลานานสุดคือ 1 เดือน ถ้างานลูกค้า นานสุดก็ 15-20 ชั่วโมง ไม่รวมงานอบ”
พูดได้ว่าเค้กฟองดองคือจุดเปลี่ยนในชีวิตคุณ
“ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆ ในชีวิตเลยค่ะ เพราะทำให้มีโอกาสเข้ามาหาฝ้ายเยอะมากเลย ทั้งมีงาน ทั้งได้รู้จักกับเชฟที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และได้ไปแข่งขันตามงานต่างๆ แต่ก็อยากยกเครดิตให้ลูกด้วยนะคะ เพราะพอเราเป็นซิงเกิ้ลมัมตั้งแต่อายุยังน้อย มันทำให้เราต้องเปลี่ยนตัวเอง ทำตัวเหลวแหลกเหมือนตอนเด็กๆ ไม่ได้แล้ว”
อย่างไรก็ตาม การเดินทางของฝ้าย พรประภา แสงเลิศ บนเส้นทางของคนทำเค้กน้ำตาลปั้นฟองดองยังคงอีกยาวไกล แต่รับรองว่าทุกคนจะได้เห็นการพัฒนาของเธออย่างต่อเนื่อง ซึ่งเร็วๆ นี้ Bake a series ร้านเค้กออนไลน์ของเธอจะขยับขยายไปมีหน้าร้าน และกลายเป็นโรงเรียนสอนเวิร์กชอปอีกด้วย