Daily Pickup

กรณ์ สมานสิริกุล

[letsinfoup]

1. ก้าวแรกที่เข้ามาในแฟนด้อม

ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนเด็กๆ ช่วง 5-6 ขวบครับ ผมเป็นเด็กอัมพวา คุณแม่พามาเที่ยวกรุงเทพ แล้วก็พาไปช้อปปิ้งวงเวียนใหญ่ ก็มาสะดุดตรงที่กางเกงยีนส์ ผมก็ไปเลือกแหละมันก็มีหลายแบรนด์เลย แต่ที่ถูกใจจริงๆก็คือ เราไม่รู้จักหรอกว่ามันคือแบรนด์อะไร แต่ชอบตรงที่ยี่ห้อนี้มันมีริปบิ้นสีแดงๆ เป็น red tag ตรงกระเป๋าหลังขวา นั่นจะเป็นจุดกำเนิดเลยว่าตัวนี้ทำให้เราชอบ สีแดงมันเป็นจุดเริ่มต้นแรกเลยครับ เวลาโตขึ้นมาก็จะทดไว้ในใจเสมอเลยว่าเวลาไปงานวัด งานตลาดนัด เมื่อก่อนมีเยอะนะงานตลาดนัด จะต้องไปร้านยีนส์เก่าเพื่อจะไปคุ้ย ไปค้น ไปหาพวกยีนส์พวกนี้ พอโตขึ้นมาช่วงมหาลัยก็จะใช้ชีวิตส่วนหนึ่งนอกจากการเรียน (หัวเราะ) ชอบโดดเรียนไปนั่งอยู่ร้านกางเกงยีนส์ ไปคุยกับพ่อค้า หลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ต คราวนี้ไปกันใหญ่เลย เพราะฉะนั้นจุดกำเนิดจริงๆ เริ่มจากที่คุณแม่พาไปแล้วก็ชอบตั้งแต่เด็กเรื่อยมาเลยครับ

2. ชอบอะไรในแฟนด้อมนี้ และมันให้อะไรกับคุณ

คงจะคล้ายๆกับทุกวงการนะครับ เวลาเราชอบหรือคลั่งไคล้อะไรสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันก็จะไปจดจ่ออยู่กับตรงนั้น แล้วก็จะเจอเพื่อนเจอคน เจอคนที่ชอบเหมือนๆกันนะครับ มันก็ทำให้ได้เจอคนเยอะเลย ทั้งหลอกลวง ทั้งดี โชคดีที่กัลยาณมิตรดีคอยให้ข้อมูล คอยยุให้ซื้อตัวใหม่ตลอด แล้วสิ่งที่ชอบอีกอย่างนึงคือ ผมใช้คำว่านิทานข้างแผงแล้วกัน เมื่อก่อนการที่จะมีความรู้เกี่ยวกับกางเกงยีนส์ เราต้องไปฟังพ่อค้าเขาโม้ เขาเล่า เพื่อจะอัพราคา แต่สิ่งที่ได้มาคือเรื่องราวที่เขาจากรุ่นบอกต่อสู่รุ่น เพราะเมื่อก่อนไม่มีอินเทอร์เน็ต แล้วข้อมูลก็จะผิดเพี้ยนหรือโม้ๆ ใส่อะไรไปค่อนข้างเยอะ ผมว่ามันเป็นเสน่ห์และคลาสสิกดี แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีนิทานข้างแผงแล้ว จะกลายเป็นแบบหลอกลวงซะส่วนใหญ่ แต่เมื่อก่อนเหมือนผมว่ามันเป็นเรื่องเล่าที่เขาโม้กันสนุกดี ส่วนมันให้อะไรกับเรา อย่างน้อยผมได้รู้แล้วว่าอันดับแรกสิ่งที่เราชอบมันมีคนชอบมากกว่าเราอีก มีคนคลั่งไคล้มากกว่าเราอีกนะครับ แล้วก็ทำให้ได้มิตรภาพ ได้รู้จักเพื่อนหลากหลายแนว หลากหลายอาชีพเลยตั้งแต่ สส. นักการเมือง ด็อกเตอร์ ศาสตราจารย์ ยันวินมอเตอร์ไซค์ คนขายหมูปิ้งเลย มีทุกระดับชั้น แต่ละคนที่เจอก็น่ารักทุกคน คือได้มิตรภาพเลยครับ

3. ของสะสมชิ้นที่แพงหรือได้มายากที่สุด

ต้องบอกว่าเรื่องหายาก? หายากทุกตัวครับ แพงสุด? ผมว่ามันก็แพงทุกตัว แต่แพง ณ ช่วงเวลาไหน มาตอนนี้ย้อนไปมันไม่แพงเลย แต่เอาไว้มูลค่ามันก็เพิ่มขึ้น ด้วยแบรนด์ Levi’s เป็นอะไรที่สากล คนก็เล่นกันทั่วโลก ผมอยากจะ present ก็คือ 3 ชิ้นแล้วกันครับ ตัวแรกจะเป็น salesman sample ก็จะเป็นรุ่น 1890 อายุ 130 ปี ตัวนี้ค่อนข้างหายาก แล้วคิดว่าน่าจะมีตัวเดียวในประเทศไทย มูลค่าไม่ต้องพูดถึงมัน มันแพงอยู่แล้ว ด้วยความหายากของมัน หายากมาก เป็นรุ่นที่มันมีกระเป๋าเดียว ก่อนปี 1900 มันค่อนข้างไม่ต้องจะไปหาแล้วหล่ะ ด้วยสภาพ ก็ถือว่าตัวนี้สวยดี ตัวต่อไปก็คือ salesman เหมือนกัน salesman sample รุ่น 1937 ก็จะเป็นรุ่นสองกระเป๋าเป็น belt หลังเหมือนกัน ก็ค่อนข้างยากเลยหละรุ่นนี้คนที่ครอบครองในไทยน่าจะมีแค่ 3 ตัวครับ ต่อไปอีกชิ้นก็จะเป็นสูทยีนส์ครับ เขาเรียกสูท Levi’s Bing Crosby tuxedo ปี 1951 ครับ Bing Crosby เป็นชื่อที่ Levi’s เอามาตั้งเป็นชื่อรุ่น มาจากนักร้องดาราฮอลลีวูดที่โด่งดังมาก ถือว่าตัวนี้เป็นสูทยีนส์ตัวแรกของโลกเลย แล้วก็ผลิตแค่ 200 ตัวเท่านั้นครับ จุดประสงค์ของการผลิตยีนส์ตัวนี้เพื่อให้ Bing Crosby เขาใส่ไปที่โรงแรม ปกติเขาชอบใส่ยีนส์ แต่เวลาเขาไปที่โรงแรม เขาก็จะโดน say no จากโรงแรมเพราะว่าเขาชอบใส่แจ็คเก็ตยีนส์ กางเกงยีนส์ แล้วชุดยีนส์มันเป็นการบ่งบอกถึงชนชั้นวรรณะระดับล่าง ชนชั้นแรงงาน นั่นหมายถึงใส่เข้าโรงแรมไม่ได้ เพราะว่ามันผิดกฎ พอ Levi’s รู้เขาก็เลยตัดสูทให้ Bing Crosby ใส่ แล้วก็แถมมีตัวป้ายการันตีเป็น certify ว่าเวลาคุณจะไปโรงแรมที่ไหนทั่วโลกเลย คุณจะได้รับการ warm welcome การต้อนรับที่ค่อนข้างอบอุ่นจากโรงแรมทุกโรงแรม จะไม่มีการปฏิเสธคุณแน่นอนถ้าคุณใส่สูทตัวนี้ มันก็เป็นกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ที่คนเมื่อก่อนถือว่าเป็นเรื่องราวค่อนข้างดีเลยแหละ จะเป็นสามชิ้นนี้ครับที่ผมค่อนข้างหวงเลยแหละ 

ผมขออธิบายเพิ่มเติมเรื่อง salesman sample นิดหนึ่ง มันเป็นชื่อเรียกสำหรับการผลิต โดยจะผลิตขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้ salesman เพื่อไปนำเสนอกับร้านค้าต่างๆ เพราะว่าเมื่อก่อนการเดินทางค่อนข้างลำบาก การจะหิ้วอะไรที่มันตัวใหญ่ๆก็จะค่อนข้างลำบาก เพราะฉะนั้นพอได้โมเดลมาก็เอาไปให้เขาดูเลยว่า แพทเทิร์นต่อไปจะเป็นแพทเทิร์นนี้ ผ้าเป็นแบบนี้ ทรงแบบนี้ สีแบบนี้ วัสดุ อุปกรณ์เป็นแบบนี้ เขาก็เลยเรียกว่า salesman sample ซึ่งมันหายาก เพราะตัวปกติมันก็หายากอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นของ salesman อีกยิ่งหายากมากดับเบิ้ลเข้าไปอีก ก็ถือว่าเป็น super rare vintage ที่เรียกกัน ประมาณนี้ครับ

4. ของสะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจมากที่สุด

คุณค่าทางจิตใจนะครับก็จะมี ผมขอนำเสนอสองตัวแล้วกัน ตัวแรกจะเป็น Levi’s WWII S501 แล้วกัน เป็นรุ่นที่ผลิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง น่าจะอยู่ประมาณยุค 1942 ถึง 1946 ถ้าผมจำไม่ผิดนะ เป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง ทุกอย่างต้องเซฟหมดเลย ผ้าคอตตอนก็ต้องไปทำผ้าก๊อซ วัสดุอุปกรณ์มันจำเป็นต้องใช้พวกโลหะ พวกหมุดย้ำ ถูกลดหมดทุกอย่าง มันก็เลยเกิดเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นนั้นๆ เช่น กระดุมเหลือน้อยลง หมุดย้ำจากที่เคยมีมาทุกรุ่น รุ่นนี้ไม่มีแล้ว จากที่เย็บด้ายโค้งด้านหลังก็ถูกเพ้นท์ กระดุมก็จะเป็นช่อมะกอก แต่รุ่นที่ผมมีก็น่าจะเป็นตัวเดียวที่ ด้วยลักษณะป้ายของมัน มันจะเหมือนปะเก็น (ป้ายกระดาษ) เพราะเมื่อก่อนจะใช้ ป้ายหนังวัว หนังม้า ก็ว่ากันไป แต่รุ่นนี้มันเป็นหนังแต่เป็นหนังบาง ตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในเมืองไทยเหมือนกันที่มีแค่ตัวเดียว แล้วก็ญี่ปุ่นมีตัวนึงที่เป็นป้ายแบบนี้ลักษณะแบบนี้ ตัวนี้ก็ถือว่าเด็ดที่ป้ายอย่างเดียวเลย 

แล้วก็ตัวต่อไปก็จะเป็นตัวที่ค่อนข้างขำ เวลาซื้อมา เราก็จะ ซื้อมาทำไม? เป็น dress stock ทุกอย่างมีป้ายครบ แต่มันโดนไฟไหม้เหลือขาครึ่งเดียว แล้วก็มันจะเป็นตัวที่หยิบมาดูทีไรมันก็ขำดี เพราะว่าทุกคนจะถามหมดเลย ซื้อมาเพื่ออะไร? 

5. ถ้าไม่ได้มาอยู่ในแฟนด้อมนี้ คิดว่าชีวิตจะเป็นยังไง แล้วอะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้ยังอยู่ในแฟนด้อมนี้

ผมว่าเงินน่าจะเหลือเยอะขึ้นอันดับแรกเลย แต่สิ่งที่มันขาดหายไปคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวความสุขนะครับ มันอาจจะไม่ค่อยมี มันก็จะเป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้สึกบ้าที่สุดแล้วนะในชีวิตนี้ นั่นหมายถึงสิ่งนี้มันช่วยได้นะ บางทีที่ผมซื้อมาผมไม่เคยใส่เลย ผมได้แค่ดูกับดม เพราะยีนส์มันจะมีกลิ่นเฉพาะของมัน นั่นก็มีความสุขแล้ว เวลาเครียดก็เอามาจับ พลิกดูนู่นดูนี่ดูนั่น มันก็จะ flash back ไปว่าเราได้มาได้ยังไง เราเคยคุยเรื่องนี้กับเพื่อนไว้ว่ายังไง ผมมองว่ามันก็เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวที่เวลาเครียดๆ แล้วเราได้ใช้เวลากับมัน มันแฮปปี้ดีครับ มันเป็นของสะสมที่มันมีเลเวลของมัน มันมีตั้งแต่แพทเทิร์นการเริ่มเล่น เริ่มจากรุ่นนี้ ขยับไปรุ่นนี้ รุ่นนั้น รุ่นโน้น จนมันถึงพีคสุดเลย แล้วมันจบมั้ย มันก็ไม่จบ เพราะมันจะมีแต่ละรุ่นที่แทรกเข้ามา ก็จะไม่เหมือนกันอีก มันก็จะแตก line ออกไปเล่น ในรุ่นเดียวกันแต่ออกไปเล่นได้อีกหลายชิ้น มันมีระยะเวลาของมัน มีการไต่ระดับมาเรื่อยๆ เคยมีช่วงเลิกเล่นเหมือนกันหยุดไปประมาณ 5 ปี ไปบ้ายีนส์ญี่ปุ่นแล้วก็ขายทิ้งทุกอย่างหมดเลยของที่สะสมมา สุดท้ายก็พอมาบ้ายีนส์ญี่ปุ่นก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ก็เลยต้องกลับมาใหม่ พอกลับมารอบนี้ก็หนักกว่าเดิม มาเจอเพื่อน มันมีสังคม เมื่อก่อนเล่นคนเดียว พอมันมีสังคม facebook มีเพจคนรักนู่นนี่นั่น ก็จะยิ่งไปกันใหญ่ เจอเพื่อน นัดมีตติ้ง ไปกันใหญ่ครับ

6. สิ่งที่อยากฝากถึงคนในแฟนด้อม หรือคนที่ยังไม่รู้จักแฟนด้อมนี้ตอนนี้ผมว่าคนรุ่นใหม่ๆ ที่มาเล่นเขาจะเริ่มจากตัวย้อนยุคก่อน ย้อนยุคก็จะมีในตลาดเยอะมากเลย แพทเทิร์นก็เอาโมเดลวินเทจมาทำใหม่นะครับก็เริ่มจากตรงนั้นก่อนก็ได้ หรือเริ่มจากยีนส์ญี่ปุ่นก็ได้แล้วก็ค่อยๆ มีเพื่อน หาความรู้ในเพจ ผมก็เป็นแอดมินเพจอยู่ ยังไงถ้าชอบพวกของวินเทจ เสื้อผ้าวินเทจ ก็ลองเข้าไปดูในเพจ ห้องเก็บภาพ เสื้อผ้า VINTAGE แต่ละคนก็จะมาโพสต์กางเกงที่เขาสะสมไว้เยอะแยะ แล้วก็มีความสุขกับการเล่น แต่ละคนส่วนใหญ่ก็คือจะค่อนข้างเครียด เพราะต้องหลอกภรรยามาซื้อ เพราะตัวนึงบางทีของวินเทจก็หลายหมื่น หลายพัน ใช่ไหมครับ เก็บให้มันมีความสุข เอ็นจอยกับเพื่อนๆ มาเจอกันมาคุยกัน