Daily Pickup

จักรวาล ‘แหยม ยโสธร’ สีสัน เสียงหัวเราะ และความทรงจำแห่งวัฒนธรรมอีสาน

ว่าด้วย The Murderer นำแสดงโดย เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ ’หม่ำ จ๊กมก’ เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ เพียงแค่เราได้ยินชื่อนี้นำแสดงในภาพยนตร์เรื่องใดรับรองได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นต้องตลก เฮฮา อย่างแน่นอน ทำให้เราย้อนกลับไปถึงภาพยนตร์เก่าๆ ที่คุณหม่ำแสดงอย่างเช่นภาพยนตร์ตลกในตำนานของประเทศ อย่างหนังไตรภาค แหยม ยโสธร ที่เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เพียงแค่พูดชื่อภาพยนตร์ขึ้นมาเราก็จะนึกถึงสีสัน นึกถึงบรรยากาศได้เลยทีเดียว หนังแหยม ยโสธร ถือว่าเป็นหนังที่ถ่ายทอดความเป็นชนบททางภาคอีสานของไทย โดยใช้สีสันอันฉูดฉาด ภาษาท้องถิ่นและมุกตลกที่พาคนไทยท้องเข็งมาแล้วนักต่อนัก การจะย้อนกลับไปดูอีกนั้นก็ยังสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้ไม่ผิดหวังแน่นอน

ถ้าอเมริกามีจักรวาลมาร์เวล ประเทศไทยก็มีจักรวาลแหยม

ถ้าให้ว่ากันตามจริง แหยม ยโสธร เป็นหนังที่ดีที่สุดที่คุณหม่ำกำกับเลยก็ว่าได้ เรื่องราวความรักของผู้คนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธรสามารถสร้างเป็นมหากาฬความรักในคนติดตามกันเรื่อยๆ ถึง 3 ภาค เรื่องราวความรักที่สุดแสนจะใสซื่อบริสุทธิ์ของคนหนุ่มคนสาวบ้านไร่แดนอีสาน โดยผ่านมุมมองและกำกับโดย 'เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา' หรือที่รู้จักกันในชื่อ 'หม่ำ จ๊กม๊ก' ตลกชื่อดังที่ฝากผลงานให้สะท้านกันมาแล้วทั่วหน้าจาก 'บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม' (2547)

เรื่องราวความรักของรุ่นพ่อ ส่งต่อสู่รุ่นลูก

ที่มักจะถูกกีดกันและไม่เห็นด้วย แม้ว่ากระแสความนิยมของแหยมจะลดลงไปตามกาลเวลา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสร้างเสียงหัวเราะได้อยู่เสมอ  แม้บทในบางฉากของแหยมในภาค 2 และ 3 ยังไม่ตอบโจทย์ในยุคสมัยใหม่ ด้วยเนื้อหาที่สองแง่ สามง่าม หรือมุกใต้สะดือที่ Out of Nowhere แต่อาจจะด้วยเนื้อเรื่องอิงเป็นไทยในยุคก่อนก็อาจจะทำความเข้าใจได้ขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เพราะอาจจะไม่ได้ตระหนักรู้อะไรมากมาย แม้กระทั่งการนำเพศที่สามมาล้อเลียน ซึ่งโดยส่วนตัวนักเขียนมองว่าในบางส่วนที่ใส่เติมเข้ามานั้นค่อนข้างเป็นมุกที่เลอะเทอะ  ถ้าอยากให้หนังแหยมสามารถไปต่อได้ นักเขียนคิดว่าการปรับจูนให้เข้ากับยุคสมัย ไม่วนอยู่กับความรักต้องห้ามเดิมๆ อาจจะให้จักรวาลแหยมยังไปได้ไกลถึง 4 5 6 ก็ไม่ติด

แฟชั่นแหยม!

นอกจากจุดเด่นเรื่องความตลก สนุก และเฮฮาของแหยมแล้ว สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาคนดูและฝังไปในรากสมองเลยก็คือคอสตูมของตัวละครในเรื่อง เสื้อผ้าลายดอกสีสันสดใส ทรงผมสุดจ๊าบ กางเกงขาม้าสีแดง ส้ม เหลือง ทำให้เป็นภาพจำไปแล้วว่าถ้าแต่งตัวแบบนี้ สีสันสดใส แฟชั่นสไตล์นี้ต้องได้แรงบันดาลใจมาจากแหยมแน่นอน แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วจากแหยม ยโสธรภาคแรกแต่เชื่อเถอะว่า ยังมีคนจำการแต่งตัวของตัวละครแหยมในเรื่องได้อยู่แน่ อีกทั้งการเกรดสีของภาพยนตร์ที่เปรี้ยวปรี๊ดแสบตา ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของภาพยนตร์ไตรภาคชุดนี้เลยก็ว่าได้

ในจุดหนึ่งของภาพยนตร์แหยม ยโสธร อาจจะถ่ายทอดวิถีชีวิตของคนอีสาน ไม่ว่าจะเป็นการพูดภาษาอีสาน มุกทะลึ่งๆ ความซื่อ ความจริงใจๆ ทั้งหมดน่าจะกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้แหยม ยโสธรสร้างความประทับใจคนดูได้ไม่ยากนัก แม้ว่าเวลาผ่านล่วงเลยไปหลายปี แหยม ยโสธรในทุกๆ ภาคก็สร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่องแม้จะลดหลั่นไปตามเวลาตามกระแสสังคม ถ้าใครกำลังหาภาพยนตร์ตลกๆ เบาสมอง ไม่อยากคิดอะไรมาก อยากให้ลองเซฟแหยม ยโสธรทั้ง 3 ภาคเอาไว้ในลิสต์ดูนะคะ