ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเสพเพลงอินดี้ต่างประเทศ น่าจะเคยฟังเพลงของ ‘Bruno Major’ มาผ่านๆ อย่างแน่นอน เพราะเราก็เป็นหนึ่งในนั้น อย่างเพลง ‘Easily’ ก็เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของเราที่ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งก็รู้สึกเหงาปนเศร้า เมโลดี้ติดหูสุดๆ และเพลง ‘The Most Beautiful Thing’ ซาวด์ละมุนสุดโรแมนติก ความหมายซึ้งกินใจ ในปีนี้บรูโน่กลับมาเล่นที่ไทยอีกครั้ง และสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักบรูโน่ เราขอเล่าเรื่องราวของเขาให้ฟังคร่าวๆ ก่อน เผื่อจะได้รู้จักหนุ่มคนนี้มากขึ้น
ศิลปินอินดี้ส่งตรงจากอังกฤษ ‘Bruno Major’ นักแต่งเพลงที่เสิร์ฟบทเพลงสุดตราตรึงผ่านแรงบันดาลใจจากสิ่งที่พบเจอ เป็นเพลงแนวป็อปและอาร์แอนด์บี แบ่งปันเรื่องราวหลากหลายทั้งโรแมนติก และความเศร้า ที่เจ๋งกว่านั้นคือเขาฝึกเล่นกีตาร์มาตั้งแต่เจ็ดขวบ พอนำเนื้อเพลงที่เขาแต่ง มาประสานกับสำเนียงกีต้าร์ที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว บอกเลยว่ากลมกล่อมอย่างลงตัวสุดๆ
โชว์ในครั้งนี้ทีม ‘Have You Heard?’ เจ้าประจำนำเข้าคอนเสิร์ตวงอินดี้ตัวตึง มาจัดที่ Voice Space พื้นที่กว้างขวาง คนเยอะแค่ไหนทีมงานก็เอาอยู่ และภายในงานมีขายของที่ระลึกด้วยนะ ทั้งเสื้อ ถุงผ้า และโปสเตอร์ มีครบหมด สักพักได้เวลาเข้าฮอลล์แล้ว เรามาก่อนเวลาเลยได้ยืนแถวหน้าๆ เลย ผ่านไปไม่นานคนเริ่มทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนข้างในมีเครื่องดื่มขายแบบจัดเต็ม เวลาร้องเพลงไม่ต้องกลัวคอแห้งแน่นอน
ผ่านไปพักใหญ่ ในที่สุดคอนเสิร์ตก็เริ่มแล้ว บรูโน่เปิดโชว์ด้วยเพลง ‘The Show Must Go On’ ละมุนตั้งแต่เพลงแรก โดยเฉพาะท่อนโซโล่บอกเลยว่าบาดใจมากๆ และโซโล่ต่อเดือดๆ ในเพลง ‘Like Someone In Love’ พร้อมไฟสีแดงสวยๆ จากทีมโปรดักชั่นในเพลง ‘Fair-Weather Friend’ พอเล่นจบเพลง บรูโน่ก็ได้พูดแนะนำตัวและทำความรู้จักกับแฟนเพลง พร้อมตะโกนประโยคประมาณว่า ‘I really love your food’ พอได้ยินก็รู้สึกดีใจมากที่ศิลปินต่างชาติชอบอาหารบ้านเรา
ไปกันต่อด้วย ‘Regent's Park’ เป็นเพลงที่ฟังกี่ครั้งก็ฟีลกู๊ดมากๆ เสียงร้องเคลิ้มๆ ชวนฝัน เหมือนกำลังเดินในสวนดอกไม้เลย พร้อมบรรเลงด้วยกีต้าร์โปร่งเพราะๆ ลงตัวสุดๆ และเพลงที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง กับ ‘The Most Beautiful Thing’ ทุกคนตะโกนร้องพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียวกัน ยิ่งฟังร้องสดในฮอลล์แล้วขนลุกจริง ต้องถ่ายเก็บมาฟังที่บ้านเลย และอีกหนึ่งในเพลงเศร้า ‘Tell Her’ พอได้ฟังความหมายถึงกับเรียกน้ำตา เรื่องราวสื่อถึงการคิดถึงใครสักคนที่ไม่กลับมาอีกแล้ว
มาถึงในช่วงกลางโชว์ด้วยเพลง ‘18’ หนึ่งในเพลงจากอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Columbo’ ได้ฟิลฟังสบาย เพลินๆ หลังจากจบเพลง บรูโน่ก็มาทักทายแฟนคลับตามประสาและไปลุยต่อในเพลง ‘Home’ กับกีต้าร์โปร่งคู่ใจของเขา เป็นอะไรที่เข้ากันมากๆ จบเพลงนี้บรูโน่ก็เดินไปเล่นคีย์บอร์ดในเพลง ‘A Strange Kind Of Beautiful’ และเล่นต่อในเพลง ‘Just The Same’ แบบไม่พัก บอกเลย เสียงบรูโน่บวกกับเสียงคีย์บอร์ด มันเพิ่มความละมุนจริงๆ นะ ไปต่อกับ ‘Nothing’ ร้องประกอบกับนักร้องคอรัสเสียงผู้หญิง พร้อมสำเนียงกีต้าร์ที่เป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าเป็นอีกมิติหนึ่งในโชว์เลย
ช่วงท้ายของงาน มีการแนะนำสมาชิกนิดหน่อย และเริ่มเพลง ‘You Take The High Road’ สมาชิกวงโชว์โซโล่กลองกับคีย์บอร์ดสไตล์แจ๊สแบบเดือดๆ จังหวะเร้าใจ และต่อด้วย ‘Columbo’ ด้วยเมโลดี้ที่แตกต่างไปจากเพลงอื่นๆ ทำให้เป็นเพลงที่มีเสน่ห์ในตัวของมันเอง และอีกเพลงที่รอคอย ‘We Were Never Really Friends’ ไม่แปลกใจที่คนไทยชอบเพลงนี้กัน เพราะมันเข้าถึงง่าย จบเพลงนี้สมาชิกวงทุกคนเดินลงจากเวที แต่ยังไม่จบแค่นี้ บรูโน่มาปิดจบโชว์ด้วยเพลง ‘Easily’ ส่วนตัวชอบเพลงนี้มากอย่างที่บอกไปตอนต้น ซาวด์เพลงมีความเซ็กซี่เบาๆ ฟังง่าย ปิดท้ายด้วยโซโล่กีต้าร์งามๆ เป็นค่ำคืนที่เพอร์เฟคที่สุดสำหรับเราแล้ว
สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วกับคอนเสิร์ต ‘Live! with Bruno Major’ ถึงเป็นโชว์สั้นๆ แค่ชั่วโมงครึ่ง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข และรอยยิ้ม เพลงของบรูโน่มันฮิลใจได้จริงๆ นะ กลับบ้านมาก็มาเปิดเพลงฟังต่อได้เพลินๆ ทำเอามูฟออนจากเสียงของบรูโนไม่ได้เลยจริงๆ มันละมุนไปหมด เป็นโชว์ที่อบอุ่นหัวใจมากๆ เป็นศิลปินที่มีสกิลเก่งกาจท่านหนึ่งเลย มีการครีเอทโชว์ออกมาได้น่าสนใจ ถึงจะดูเรียบง่ายไปบ้าง แต่ก็มีองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่น่าดึงดูด เอาคนดูอยู่ยันจบงาน