Art

เพลงธีม Mission: Impossible เสียงดนตรีที่ไม่มีวันตายจากหัวใจคอหนัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะโด่งดังได้ เพลงประกอบภาพยนตร์ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความนิยมให้กับภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ ภาพยนตร์มากมายโดดเด่นจากเพลงประกอบที่ไพเราะ และสื่อสารเรื่องราวผ่านตัวโน้ตได้ดี หากจะพูดถึงภาพยนตร์ที่มีหัวใจหลักเป็นเพลงประกอบ ก็คงหนีไม่พ้นแฟรนไชส์ ‘Mission: Impossible’ ที่มีเพลงธีมจังหวะระทึกใจ ซึ่งไม่ว่าเมื่อไรที่เพลงนี้ดังขึ้น ทุกคนก็จะนึกถึง 'Ethan Hunt' ที่รับบทโดย Tom Cruise พร้อมฉากแอ็กชันที่น่าตื่นตะลึง และภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายก็สำเร็จได้ด้วยความสามารถ และความทรหดของสายลับหนุ่มผู้นี้

ไม่เพียงแต่จะเป็นเพลงฮิตติดหูคนทั่วไปเท่านั้น เพลงธีมของ Mission: Impossible เป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกนำมาดัดแปลง ปรับแต่งใหม่โดยฝีมือของศิลปินป็อปและนักแต่งเพลงชื่อดังหลายคน ทำให้เพลง Mission: Impossible ในแต่ละเวอร์ชัน ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไป และสะท้อนภาพตัวตนของศิลปินผู้ทำเพลงไปด้วย

ปีนี้ Mission: Impossible ได้เดินทางมาถึงภาคที่ 7 ในชื่อ Mission: Impossible - Dead Reckoning และได้พาเอาเพลงธีมเดินทางผ่านเวลามาด้วย EQ จึงอยากพาทุกคนย้อนกลับไปยังปี 1966 และมาฟังกันว่า เพลงธีม Mission: Impossible เคยผ่านมือของศิลปินคนใด และถูกนำเสนอในรูปแบบใดบ้าง

Mission: Impossible โดย Lalo Schifrin

Mission: Impossible ถือกำเนิดขึ้นในปี 1966 ในฐานะซีรีส์ทางโทรทัศน์ โดยเพลงธีมเวอร์ชันแรกเขียนเนื้อร้อง และทำนองโดย Lalo Schifrin นักแต่งเพลงชาวอาร์เจนตินา เจ้าของฉายา 'ปรมาจารย์แห่งรูปแบบ' ผู้ซึ่งสร้างสรรค์เพลงซาวนด์แทร็กให้ฮอลลีวูดมานานกว่า 70 ปี และคว้ารางวัลจากเวที Oscar และ Gammy Awards มาแล้ว

Schifrin เชี่ยวชาญด้านดนตรีแจ๊ส และมักจะเรียบเรียงผลงานเพลงของตัวเอง จากความหลงใหลในบิ๊กแบนด์ และเสียงเครื่องตีอันหนักแน่น เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ New York Post เมื่อปี 2015 ว่า เขาได้รับการชักชวนจาก Bruce Geller โปรดิวเซอร์ของ Mission: Impossible เวอร์ชั่นซีรีส์โทรทัศน์ให้ ‘เขียนอะไรที่ตื่นเต้น อะไรก็ตามที่คนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น และเดินไปหาเครื่องดื่มในครัวได้ยินแล้วรู้เลยว่าคืออะไร’ และสามารถแต่งเพลงนี้ออกมาได้ภายใน 3 นาที ด้วยจุดแข็งด้านการเรียบเรียงเสียงประสาน

Schifrin เคยกล่าวถึงเพลง Mission: Impossible ไว้ว่า “มันเหมือนกับการเขียนจดหมาย เมื่อคุณเขียนจดหมาย คุณไม่ต้องคิดว่าจะใช้ไวยากรณ์หรือรูปประโยคแบบใด คุณแค่เขียนจดหมาย นั่นคือวิธีการเขียนเพลงนี้”

Mission: Impossible ได้รับรางวัลเพลงธีมบรรเลงยอดเยี่ยม และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวที Grammy Award ครั้งที่ 10 เมื่อปี 1968 ส่วนเวอร์ชันที่บรรเลงโดย London Philharmonic Orchestra ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลเพลงบรรเลงป็อปยอดเยี่ยมของ Grammy Award ครั้งที่ 39 ในปี 1997

Mission: Impossible โดย Adam Clayton และ Larry Mullen Jr.

หลังจากประสบความสำเร็จในรูปแบบซีรีส์ทางโทรทัศน์แล้ว Mission: Impossible ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรก และออกฉายเมื่อปี 1996 และสำหรับเพลงประกอบภาพยนตร์นั้น ก็ได้ Danny Elfman เจ้าพ่อเพลงประกอบภาพยนตร์ มาเป็นผู้ทำเพลงให้ และนอกจากนี้ ยังได้ Adam Clayton และ Larry Mullen Jr. มือเบส และมือกลองของ U2 มาสร้างสรรค์เพลงธีมในตำนานนี้

ครั้งแรกที่ Paramount Pictures ติดต่อ Clayton และ Mullen ทั้งสองปฏิเสธ เนื่องจากต้องการโฟกัสกับเพลงของวงตัวเองมากกว่า แต่เมื่อเห็นว่า ทุกคนต่างตื่นเต้นกับเพลงธีมนี้ จึงกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง และตัดสินใจทำเพลงให้ โดยมีไอเดียตั้งต้นเป็น เพลงที่สามารถเปิดในคลับมากกว่าเป็นเพลงโปรโมตภาพยนตร์

Clayton กล่าวว่า ในทางเทคนิค เพลงต้นฉบับนั้นอยู่บนพื้นฐานของเพลงบลูส์ ซึ่งเป็นดนตรีสไตล์ยุค 60s แต่เมื่อต้องปรับให้แตกต่าง จึงเปลี่ยนจังหวะเป็น 5/4 ซึ่งทำให้การเน้นย้ำของบีทเปลี่ยนไป และทำให้เต้นตามยากขึ้น รวมทั้งทำให้สมูธขึ้นด้วยดนตรีแบบอเมริกาใต้ ซึ่งแม้จะประสบความสำเร็จ แต่ก็คงไม่สามารถนำไปเต้นในคลับได้ ดังนั้น Clayton และ Mullen จึงทดลองทำเพลงอีกเวอร์ชันหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นเวอร์ชั่นที่เต้นตามได้ในที่สุด

นอกจากจะผ่านกระบวนการอัดเสียงในหลายพื้นที่ ทั้งดับลิน ลอนดอน และนิวยอร์กแล้ว เพลงธีม Mission: Impossible จากฝีมือของสมาชิก U2 ยังถูกรีมิกซ์ออกมาเป็นหลายเวอร์ชัน และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy Awards สาขาดนตรีบรรเลงป็อปยอดเยี่ยม เมื่อปี 1997

Mission: Impossible II / Take a Look Around โดย Limp Bizkit

ต่อมาในปี 2000 เพลงธีม Mission: Impossible กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับภาพยนตร์ Mission: Impossible 2 ทว่าคราวนี้ เพลงนี้กลับมาในชื่อ Take a Look Around และศิลปินที่สร้างสรรค์เพลงในเวอร์ชั่นแร็ป-ร็อก ก็คือ Limp Bizkit จากโจทย์ที่ต้องการให้นำเพลงธีมเวอร์ชันคลาสสิกของ Lalo Schifrin เมื่อปี 1966 มาดัดแปลงใหม่ให้ทันสมัย และสนุกขึ้นตามสไตล์ร็อก

Take A Look Around เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับภาพยนตร์ ด้วยอินโทรกีตาร์แบบ Mission: Impossible ในยุคคลาสสิก ผสมผสานกับดนตรีกระแทกใจ และเสียงร้องกวนประสาทของ Fred Durst นักร้องนำ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตทั่วโลก จนหลายคนแซวว่าเพลงดังกว่าหนังไปแล้ว

นอกจากนี้ Take A Look Around ยังกลายเป็นหนึ่งในแทร็กของอัลบั้ม Chocolate Starfish and the Hot Dog Flavored Water และทำให้อัลบั้มนี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะในยุโรป ส่งผลให้ Limp Bizkit กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ และเพลงนี้ยังได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัล Grammy Awards สาขาดนตรีฮาร์ดร็อกยอดเยี่ยม ประจำปี 2001 ด้วย

Mission: Impossible III โดย Michael Giacchino และ Impossible โดย Kanye West

ปี 2006 แฟรนไชส์ Mission: Impossible กลับมาอีกครั้งในภาคที่ 3 กำกับโดย J. J. Abrams ซึ่งได้ยกเอาทีมงานโปรดักชั่นคู่บุญมาร่วมงานกันในโปรเจกต์นี้ หนึ่งในนั้นคือ Michael Giacchino นักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์มือทอง และใช้เวลาในการอัดเพลงประกอบภาพยนตร์ทั้งหมดนานถึง 8 วัน ที่ Sony Scoring Stage ในแคลิฟอร์เนีย พร้อมวงออร์เคสตราจำนวน 112 ชิ้น

นอกจากเพลงจากฝีมือของ Giacchino แล้ว Tom Cruise ยังขอให้ Kanye West แร็ปเปอร์ชื่อดัง มาทำซิงเกิลชื่อ Impossible ฟีเจอริ่งกับ Twista, Keyshia Cole และ BJ เป็นเพลงธีมอีกเพลงหนึ่ง นอกเหนือจากเพลงธีมหลักของภาพยนตร์ แต่ไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้มซาวนด์แทร็ก

Impossible เดิมเป็นเพลงที่ต่อยอดมาจากอัลบั้ม Kamikaze ของ Twista ซึ่ง West ค้นพบว่าเหมาะที่จะนำมาใช้ใน Mission: Impossible และอ้างว่าใช้เวลาทำเพลงนี้นานถึง 50 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม Impossible กลับมีชื่ออยู่ในลิสต์ 20 เพลงห่วยที่ทำโดยแร็ปเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่ ในปี 2013 โดยนิตยสาร  Rolling Stone ให้คะแนนเพลงนี้อยู่ที่ 2 เต็ม 5 พร้อมบรรยายว่า “มันไม่เวิร์ก บีทที่เร็วไม่เข้าที่เข้าทาง และไรม์ไม่บ่งบอกว่ามีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”

Mission: Impossible - Rogue Nation โดย MIYAVI

สำหรับ Mission: Impossible - Rogue Nation ซึ่งเป็นภาคที่ 5 ได้ Joe Kraemer มาทำเพลงประกอบ ส่วนเพลงธีมนั้น ได้ MIYAVI ร็อกเกอร์ และมือกีตาร์สุดเท่ชาวญี่ปุ่น มาเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ และบรรเลงกีตาร์

ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ Mission: Impossible - Rogue Nation ที่ญี่ปุ่น MIYAVI ได้ให้สัมภาษณ์ร่วมกับ Tom Cruise ถึงบทบาทในการทำเพลงธีมนี้ว่า เขาตื่นเต้นมากที่ได้มีโอกาสทำเพลงธีมในตำนานเพลงนี้ และภารกิจนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาเช่นกัน