Daily Pickup

MOXiE!: ฉันจะปฏิวัติโรงเรียนนี้!

MOXiE! เป็นภาพยนตร์ Netflix Original แนวดราม่าคอมเมดี้ สัญชาติอเมริกัน กำกับโดย เอมี่ โพห์เลอร์ (Amy Poehler) นักแสดงเบอร์ใหญ่ และเขียนบทโดย Tamara Chestna และ Dylan Meye ดัดแปลงบทภาพยนตร์จากนิยายชื่อเดียวกันในปี 2017 เขียนโดย Jennifer เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทันที่ฉายบนสตรีมิ่งชื่อดังอย่าง Netflix ในวันที่ 3 มีนาคม 2021 นำแสดงโดย แฮดลีย์ โรบินสัน (Hadley Robinson) , อลิเซีย ปาสคัล-เปญา (Alycia Pascual-Pena), ลอเรน ไซ (Lauren Tsai), แพทริก ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Patrick Schwarzenegger) และนิโค ฮิรากะ (Nico Hiraga) 

Moxie เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักเรียนมัธยมต้นชื่อวิเวียน (รับบทโดย แฮดลีย์ โรบินสัน) โรงเรียนของเธอมีชื่อเสียงจาก 'The List' การจัดอันดับที่ทำขึ้นโดยแก๊งชายหนุ่มของโรงเรียนเพื่อตัดสินว่าผู้หญิงคนไหนเป็น 'สาวน่า xx ที่สุด' 'น่าเกรงขามที่สุด' หรือแม้แต่ 'เชื่อฟังมากที่สุด' มันเป็นเรื่องเหยียดเพศ และบิดเบี้ยวในหลายๆ ระดับ แต่ดูเหมือนไม่มีใครในโรงเรียนที่สนใจจะทำอะไรกับเรื่องนี้เลย แต่เมื่อวิเวียนพบกับนักเรียนใหม่อย่างลูซี่ (รับบทโดย อลิเซีย ปาสคัล-เปญา) ที่กล้าจะยืนหยัดต่อสู้กับมิทเชลล์ วิลสัน (รับบทโดย แพทริก ชวาร์เซเน็กเกอร์) นักฟุตบอลจอมอวดดี โดยรายงานพฤติกรรมการล่วงละเมิดของมิทเชลให้ครูใหญ่ทราบ อีกทั้งเธอค้นพบคอลเล็กชั่นของที่ระลึกจากยุค Riot Grrl ของแม่ (รับบทโดย เอมี่ โพห์เลอร์) วิเวียนก็รู้สึกอยากลุกขึ้นมาต่อต้านวัฒนธรรมประหลาดๆ ของโรงเรียน เธอตีพิมพ์นิตยสารชื่อ Moxie ที่เธอเริ่มเผยแพร่อย่างลับๆ ในห้องน้ำโรงเรียน นิตยสารนำไปสู่การก่อตั้ง Moxie club และก้าวไปสู่การเคลื่อนไหวบางอย่างที่เร่งปฏิกิริยาสำหรับการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียน แม้ว่าครูใหญ่จะต่อสู้กับเธอก็ตาม ในไม่ช้าทั้งโรงเรียนก็ถามกันว่า 'ใครคือม็อกซี' 

‘เด็กม.ปลาย ก็คือ เด็กม.ปลาย’ ไม่ว่าจะยุคไหน มีเด็กที่เป็นที่นิยม มีผู้ต้องการเป็นที่นิยม มีคนที่ถูกทิ้ง เราจะเห็นวงจรวัฏจักรนี้ในหนังไฮสคูลทั่วไป และ Moxie เองก็เช่นกัน ถ้าหากใครอยากจะดูเรื่องนี้แล้วตั้งความหวังไว้ว่า ต้องเป็นหนังที่เฟมินิสต์จ๋าแน่ๆ บอกเลยว่า ล้างความคิดนั้นออกไปได้เลย ถามว่าเรื่องมันโยงไปถึงความเฟมินิสต์ไหม มันก็มีบ้าง แต่สำหรับตัวนักเขียนรู้สึกว่า ตัวบทเน้นไปที่เรื่องความสัมพันธ์ การเติบโต และความกล้าของวัยรุ่นมากกว่าเยอะ ทำให้น้ำหนักเรื่องการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเฟมินิสต์ที่ดึงดูดเราจากทีเซอร์นั้นเหลือแค่ 30 เปอร์เซ็นของเรื่องเห็นจะได้ และพูดตามตรง หนังเรื่องนี้ไม่ได้ห่างไกลจากแนวสตรีนิยมในปัจจุบันมากนัก มันรู้สึกเอ๊ะอ๋อที่เห็นวิเวียนกลายเป็นจุดศูนย์กลางของ 'การปฏิวัติ' หลังจากที่เราที่เป็นคนดูจะรู้สึกว่า ลูซี่วางรากฐานสำหรับการต่อต้านวัฒนธรรมบ้าๆ ในโรงเรียน แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้รับการสนับสนุน หรือเครดิต มันเป็นเรื่องเจ็บปวดที่ต้องเห็นวิเวียนเงียบในขณะที่ถูกเพื่อนร่วมชั้น และครูคุกคาม เช่นเดียวกับที่ไม่สนใจลูซี่ตั้งแต่แรก มันน่าโมโหที่เห็นว่าตัวละครของวิเวียนเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นทรงพลัง ในขณะที่ลูซี่เปลี่ยนจากทรงพลังเป็นตัวละครกลืนๆ ไปเลย แต่ก็พยายามเข้าใจ เพราะสุดท้าย ‘ตัวเอก ก็คือ ตัวเอก’ คำพูดนี้ยังคงใช้ได้เสมอ

หาก Moxie ลงเอยด้วยการที่วิเวียนเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการปฏิวัติเฟมินิสต์ แทนที่จะกล่าวสุนทรพจน์ที่กล้าหาญ และจำเจเหมือนหนังมัธยมทั่วไป ก็คงจะกลายเป็นบทเรียนที่ปฏิวัติวงการ และจำเป็นสำหรับเด็กสาวเด็กชายทั่วโลก แทนที่เรื่องราวของเด็กผู้หญิงผิวขาวที่เพิ่งตื่นรู้เกี่ยวกับเฟมินิสต์อีกเรื่องหนึ่ง ผู้เขียนเลยรู้สึกว่าน่าเสียดายที่มันไม่เน้นประเด็น และเป้าหมายตามที่คาดหวังไว้มากนัก เรื่องราวของ MOXiE! มีศักยภาพมากพอที่จะเป็นภาพยนตร์แนวสตรีนิยมที่คนยุคนี้ต้องการ แต่ด้วยบริบทสังคมมัธยม มันเลยอาจจะยังไปไม่ถึงตรงนั้น

แต่ในทางกลับกัน Moxie อาจเป็นภาพยนตร์ที่เราสามารถดูได้เพลินๆ นักเขียนคิดว่าเราทุกคนรู้จักวิเวียน หรือบางทีคุณเองก็อาจจะเป็นวิเวียน ที่สามารถเรียนรู้ได้จากก้าวที่ผิดพลาด ยิ่งเราอายุน้อย เราก็มีโอกาสเรียนรู้ และผิดพลาด เพื่อวันหนึ่งที่เราเติบโตจะได้พร้อมใช้สิทธ์ใช้เสียงของตัวเองมากขึ้น กล่าวได้ว่า เราสามารถยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง เปล่งเสียงของเราให้ดัง ถ้าเกิดเราเงียบแล้วเราจะเติบโตไปเป็นคนแบบไหน? ผู้ใหญ่ที่เฉยเมยเมื่อเห็นสิ่งที่ผิดในสังคม แต่ไม่คิดจะแก้ไขอะไร อย่างนั้นหรือ?