“Unorthodox” มินิซีรีส์ความยาว 4 ตอนจบ ผลงานของผู้กำกับหญิงชาวเยอรมัน ‘มาเรีย ชเรเดอร์’ (Maria Schrader) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอัตชีวประวัติของ ‘เดโบราห์ เฟลด์แมน’ (Deborah Feldman)
ซีรีส์เรื่องนี้เปรียบเสมือนประวัติศาสตร์ที่คาบเกี่ยวอยู่กับความเป็นปัจจุบัน โดยเล่าเรื่องผ่าน ‘เอสตี้’ เด็กสาวชาวยิว วัย 19 ปี ที่อาศัยอยู่ในชุมชนชาวยิวเคร่งศาสนา ย่านวิลเลียมสเบิร์ก นิวยอร์ก ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีอินเทอร์เน็ต และถูกคนในสังคมตีกรอบเอาไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบใด การแต่งงานเป็นแบบคลุมถุงชน ภรรยาต้องอยู่ภายใต้อำนาจของผู้เป็นสามี การเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการแต่งงานกลับกลายเป็นการผูกมัดเธอให้ห่างไกลจากคำว่าอิสระมากขึ้น สายตาของครอบครัวที่คอยจับจ้องพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเธอและครอบครัว เธอจึงเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เป็นอยู่ เอสตี้จึงตัดสินใจหลีกหนีจากสิ่งที่กักขังไว้ เพื่อตามหาอิสรภาพของตัวเธอเองในเมืองที่ชาวยิวเกลียดชังมากที่สุดอย่าง กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน
มินิซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวของภาษา ประเพณี และพิธีกรรมที่ดูแปลกตา ในช่วงแรกเราจะถูกฉาบด้วยชื่อและเรื่องราวเกริ่นนำที่เกี่ยวข้องกับศาสนา การมีอยู่ของพระเจ้า การกระทำนอกรีต แต่ความจริงแล้วเมื่อรับชมไปซักพักจะเข้าใจว่าเรื่องพยายามจะสื่อถึงสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของผู้หญิงในชุมชน และการตามหาอิสรภาพที่แท้จริงมากกว่า หรือพูดในอีกมุมหนึ่งว่า
สิ่งที่เอสตี้ต้องการหลุดพ้นอย่างแท้จริงไม่ได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับพระเจ้าเลย เพราะเธอยังศรัทธาในพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ในทางกลับกัน เป็นคนในสังคมต่างหากที่เธอต้องการจะหลีกหนี
ซึ่งซีรีส์นี้ ได้หลอมรวมเอาทั้งสองมุมมองนี้เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
เป็นอิสระจากอดีต
เรื่องนี้แฝงไปด้วยสัญญะหลายอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการเป็นอิสระของเอสตี้ และสอดแทรกความตลกร้ายที่เกี่ยวกับการก้าวข้ามผ่านอดีตของประเทศเยอรมันต่อชาวยิวอยู่เป็นระยะ เหมือนต้องการจะสื่อว่า การจะก้าวไปข้างหน้าได้ต้องหลุดพ้นจากพันธนาการของอดีตให้ได้เสียก่อน แม้ชีวิตเอสตี้ในประเทศเยอรมันจะเป็นการสร้างเส้นเรื่องใหม่ที่แตกต่างจากในหนังสือของเฟลด์แมน ก็ยังคงมีความเปลี่ยนแปลงของเอสตี้ที่ต้องการความเป็นอิสระไว้เช่นเดิม
การเริ่มต้นชีวิตของเอสตี้ในกรุงเบอร์ลินทำให้เธอได้พบเจอกับสิ่งต่างๆ ที่เธอไม่เคบยพบเจอมาก่อน เอสตี้ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่จากสถาบันดนตรี แม้ว่าจะพบกันเป็นครั้งแรกผู้คนเหล่านี้เปรียบเสมือนแม่น้ำที่ไหลพาเอสตี้ไปพบกับสิ่งใหม่ๆ เรื่องราวของความเท่าเทียมกันทางเพศ LGBTQ+ ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ต่างศาสนา ความเชื่อ และความคิด ทรงผมสั้นเกรียนที่เธอไม่เคยชอบกลับกลายเป็นแฟชั่นของที่นี่ ลิปสติกสีแดงที่ไม่มีวันได้พบเจอในย่านวิลเลียมสเบิร์กกลับทำให้เธอดูดีเมื่อได้ลองมัน ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ ที่เคยเป็นการกระทำนอกรีตในชุมชน จะทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกะเทาะกรอบออกมาเจอกับโลกใบใหม่ ที่ใกล้เคียงกับคำว่าอิสรภาพที่เธอต้องการมากขึ้น
ครั้นจะไม่พูดถึงฉากนี้เลยก็ไม่ได้ กับอารมณ์ ความรู้สึกที่ล้นออกมา จนกระทบกับตัวตนของผู้เขียน จังหวะที่เอสตี้ถอดวิกและลอยตัวเหนือผืนน้ำในทะเลสาบที่มีเรื่องราวความหลัง เหมือนกับกำลังบ่งบอกว่าเธอพร้อมแล้ที่จะดำเนินชีวิตโดยปลดล็อกจากอดีต เรื่องราวที่ผ่านมาจากชุมชนที่เธอเคยอยู่นั้นได้เลือนหายละลายไปกับสายน้ำ
การตัดสินใจที่ถูกต้อง
“Unorthodox” ดำเนินเรื่องราวสลับกันไปมาระหว่างอดีตของเอสตี้และชีวิตใหม่ในเบอร์ลินได้น่าสนใจ ในชุมชนที่เธอจากมาเธออาจจะเป็นได้แค่ภรรยาของ ‘ยันกี้ ชาปีโร’ เท่านั้น แต่ในเมืองแห่งอิสรภาพนี้ เธอสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ เธอสามารถเล่นเปียโน ร้องเพลงในที่สาธารณะ เริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่โดยไม่มีใครมาคอยจ้องและแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา แม้สามีของเธอจะมาตามให้เธอกลับไป เธอก็ได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะไม่มีทางกลับไปเด็ดขาด เพราะเอสตี้ได้สัมผัสแล้วว่าการใช้ชีวิตที่แท้จริงเป็นอย่างไร
เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนจบของซีรีส์ แม้จะเป็นตอนจบปลายเปิดที่ไม่ได้ให้คำตอบอะไรกับเรามากมายเกี่ยวกับอนาคตของเอสตี้นัก แต่จากเรื่องราวทั้งหมดที่ดำเนินมา 4 ตอนนั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้เรามองเห็นการเติบโต และการพัฒนาของตัวละครนี้แล้ว เข็มทิศที่ได้เป็นของขวัญการเริ่มต้นใหม่จากครูสอนเปียโนซึ่งเราเห็นตั้งแต่ต้นเรื่อง และสายตาที่มองมันด้วยความสับสนหลงทางของเอสตี้ ได้เปลี่ยนไปเป็นสายตาแห่งความดีใจที่เอ่อล้นในตอนจบ เพราะทั้งหมดนี้ เธอมาถูกทาง และได้ตัดสินใจถูกต้องแล้ว
หลังจากดูซีรีส์เรื่องนี้จบ ยังทำให้เรากลับย้อนมามองตัวเองว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้ และการต่อสู้เพื่อตัวเองนั้นสำคัญกว่าสิ่งใด คนดูหลายคนอาจจะเห็นตัวเองผ่านเรื่องราวของเอสตี้ก็เป็นได้ ถ้าหากเอสตี้กล้าที่จะออกมาเพื่อใช้ชีวิตที่เป็นของตัวเองแล้ว ผู้หญิงหรือใครก็ตามที่กำลังเผชิญกับสิ่งที่เอสตี้เป็นอยู่ ก็สามารถก้าวออกมาเพื่อใช้ชีวิตของตัวเองได้เช่นกัน
ติดตามและอัปเดตเรื่องราวใหม่ๆ จากพวกเราได้ที่ Exotic Quixotic