การกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างจากอัลบั้มแรกไปถึง 3 ปี กับวง Zweed n’ Roll วงอัลเทอร์เนทีฟ ที่คาแรกเตอร์มีความชัดเจน เพียงแค่อินโทรขึ้นมาก็รู้ได้เลยว่า "เพลงนี้ของวง Zweed n’ Roll แน่ ๆ" พร้อมกับเมโลดี้ที่ชวนให้ดำดิ่งและล่องลอยไปพร้อมกัน แถมยังแฝงไปด้วยความหวานปนขมที่หลาย ๆ คนชื่นชม และยังได้น้ำเสียงของพัด ที่ทั้งทุ้ม หนักแน่น ผสานรวมกันกลายเป็นดนตรีในสไตล์ที่หลายๆ คน ชื่นชอบ
Resurrection อัลบั้มล่าสุดของพวกเขาที่ผ่านการ บ่มเพาะ ตกผลึก และหล่อหลอม ถูกถ่ายทอดออกมาเป็น 12 บทเพลง และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับมิวสิกวิดีโอล่าสุด "ฟื้น" ที่อยากจะชวนให้ทุกคนลืมตาตื่นและฟื้นไปกับพวกเขาอีกครั้ง!
Zweed n’ Roll ประกอบไปด้วยสมาชิก 5 คน ได้แก่ พัด สุทธิภัทร สุทธิวาณิช (นักร้องนำ) ปูน ณัฐพัชร์ สมิตนุกูลกิจ (กีตาร์) มิน ณัฐกร ศิลวัฒน์ (กีตาร์) นิว นิติ นิติยารมย์ (เบส) และ ทัน ธรรม์ ดำรงรัตน์ (กลอง)
การทำงานครั้งใหม่และครั้งแรก ภายใต้ชายคา Warner Music Thailand
พัด : พัดว่าความแตกต่างคือ เรามีคนจัดการหลังบ้านให้ ด้วยความที่เราทั้งหมดเรียนดนตรีมาและไม่ได้มีความถนัดอย่างอื่นมากนัก พอมีคนเข้ามาช่วยในหลายๆ ด้าน มันเลยทำให้พวกเราทำงานได้ไวมากขึ้นค่ะ
นิว : ก็เหมือนได้ความคิดเห็นต่างๆ เพิ่มขึ้น นอกจากเรื่องดนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกผมและเพื่อน ๆ ต้องการอยู่แล้วครับ
ยังคงเป็น Zweed n’ Roll เหมือนวันแรกที่เริ่มทำวง
พัด : แทบไม่มีการตีกรอบเลยค่ะ จุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเราไปด้วยกันได้ ค่ายเขามองเห็นความออริจินัลของเราอยู่แล้ว เขาไม่อยากจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งจุดนี้คือข้อดีและความโชคดี ที่ได้เจอค่ายที่มีเป้าหมายเดียวกันค่ะ
นิว : ก็เหมือนกรอบ เราก็ช่วยกันดู ช่วยกันตีด้วยกัน ด้วยการที่เรามาทำงานเป็นทีม
ก้าวเข้าปีที่ 10 ของวง มองความเป็น Zweed n’ Roll เหมือนหรือต่างไปจากเดิมหรือไม่?
พัด : พัดว่าการทำงานของพวกเราจริงจังขึ้น และเราก็โตขึ้น ด้วยอายุที่มัน 10 ปีแล้วด้วยค่ะ จริงจังมากขึ้น
ถ้าเปรียบ Zweed n’ Roll เป็นเด็กอายุ 10 ขวบ หน้าตาและลักษณะนิสัยของเขาจะเป็นอย่างไร?
พัด : ถ้าเปรียบเป็นเด็กคนหนึ่ง หน้าจะเป็นเด็กที่หน้าตาดี และมีทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ขาดอยู่อย่างเดียวคือ ความรักค่ะ
ช่วงที่ทิ้งห่างจากการทำเพลงไปประมาณ 3 ปี จากอัลบั้มแรก I’m 20 จนอัลบั้มล่าสุด Resurrection เป็นยังไง?
นิว : หลังจากปีแรกๆ พวกเราก็เริ่มทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งเราก็ไม่ได้วางแผนอะไรมาก เหมือนทำซิงเกิ้ลไปเรื่อยๆ ก่อน ซึ่งยังไม่ได้มองว่าจะทำอัลบั้มกัน จนมาถึงคอนเสิร์ตใหญ่ และเกิดสถานการณ์โควิดขึ้น จึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างกัน ทำให้พูดคุยกันน้อยลง ไม่มีงานเล่น ซึ่งช่วงนั้นก็เคว้งคว้างอยู่ ซึ่งก็เป็นผลที่ทำให้เกิดอัลบั้มนี้ขึ้นมาเหมือนกัน ซึ่งเราพยายามจะกลับมาจากสิ่งเหล่านี้
พัด : น่าจะเป็นการทบทวนตัวเอง ตอนอยู่ที่บ้านมากกว่า เพราะเราไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ เป็นการตกผลึกโดยแต่ละคนตกผลึกกันเอง
ในอัลบั้ม Resurrection มีเพลงไหนที่ย้อนกลับไปฟังอีกครั้งแล้วรู้สึกต่างไปจากครั้งแรกที่ฟัง?
พัด : ของพัดเป็นเพลง "ทุกวัน" ค่ะ รู้สึกว่าเมื่อก่อนไม่ค่อยรับรู้ถึงเพลงเท่าไหร่ เพราะเพลงนี้มีพวกเครื่องสายที่มีความสว่างเข้ามา ซึ่งเราไม่ค่อยได้รู้สึกถึงมันเท่าไหร่ แต่อาจจะเป็นเพราะว่า ตอนนี้มันรู้สึกสว่างขึ้นมั้งคะ ก็เลยมองเห็นแสงมากขึ้น
ปูน : ของผมมีเพลงชื่อว่า "Fighter" ครับ จำได้ว่าฟังพัดเล่นกับกีตาร์ตัวเดียวครั้งแรกมันก็เพราะไปอีกแบบหนึ่ง แต่ตอนนี้ในเพลงมันสมบูรณ์แล้ว มีความเกรี้ยวกราดมากขึ้นครับ รู้สึกว่าต่างไปจากเดิมค่อนข้างเยอะครับ
สิ่งใหม่ในอัลบั้ม Resurrection
นิว : มีเพลงไทยมากขึ้น อันนี้น่าจะชัดเจนที่สุด
นิว : เหมือนเราต้องการอยากจะสื่อสารกับคนฟัง เหมือนเราไปทัวร์แล้วรู้สึกว่าเพลงเราทำงานอะไรออกไปได้บ้าง ตอนแรกเรามีเพลงไทยน้อย แล้วเราจะเห็นเวลาเขาร้องเพลงตาม แล้วเพลงของเราก็ค่อนข้างจะมีจังหวะมากขึ้น เรารู้สึกไม่อยากให้มันเนือยไปด้วยตัวเราเอง
พัด : กระชับมากขึ้นค่ะ เข้าใจง่ายมากขึ้น
นิว : รึเปล่า (หัวเราะ)
พัด : ให้ไปคิดเอาเอง
ช่วยเล่าการทำงานกับ Shane Edward ว่าเป็นยังไงบ้าง
ปูน : ถือว่าเปิดโลกมากครับ เพราะเป็นการทำงานครั้งแรกกับโปรดิวซ์เซอร์ แล้วเราไม่เคยสัมผัสกับประสบการณ์ของมืออาชีพระดับนี้มาก่อนเลย ซึ่งความเป็นมืออาชีพของเขาไม่ใช่ต้องตึงเครียด เขาทำให้เรารู้สึกเป็นกันเองด้วยในความเป็นมืออาชีพของเขาครับ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้ค่อนข้างราบรื่นครับ ซับพอร์ตเราทุกด้านเลยครับ เยี่ยมมาก ๆ ครับ
พัด : เราไม่เคยทำงานกับคนอื่น ๆ มาก่อนด้วยค่ะ ปกติเราจะทำกันเองแค่ 5 คน แล้วพอมี Shane เข้ามา เหมือนเป็นตาที่ 3 ที่มองเห็นสิ่งที่เรามองไม่ค่อยเห็น แล้วเขาดึงสิ่งทีดีที่สุดของพวกเราออกมา ให้กำลังใจ และทำให้เห็นสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ เพราะเราไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง
นิว : เหมือนเขาช่วยดึงศักยภาพของพวกเราออกมาได้ บางทีพวกเราเล่นแบบไม่ตั้งใจหรือร้องออกมาดีรึเปล่า เขาก็จะบอกพวกเราว่า เอาเลย..เต็มที่เลย ทำให้ดีที่สุด เดี๋ยวส่วนที่เหลือเขาจะจัดการให้เอง พวกเราก็ใส่แบบเต็มที่ไปเลย
MV ฟื้น เรามีส่วนร่วมในการดีไซน์ด้วยรึเปล่า หรือ อยากจะสื่อสารอะไรกับคนดู
พัด : ส่วนของ MV เป็นเรื่องราวที่ผู้กำกับ Alisa กับทีมเป็นคนเรียบเรียงและเขียนขึ้นมาค่ะ พัดคิดว่าไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะด้วยการตีความของเขา จากที่เขาฟังเพลงของเราแล้ว พัดคิดว่ามันตรงกับภาพที่เราคิดไว้
สัญญะต่าง ๆ ในเอ็มวี ทั้งสีขาว-ดำ ดอกกุหลาบขาว ชุดสีขาว การเปลือยเปล่าร่างกาย หยดนํ้า
พัด : พัดคิดว่า สีขาว หรือ การเปลือยเปล่า มันเป็นความบริสุทธิ์ และถ้าสังเกตในเอ็มวี จะมีพวกมือสีดำ ๆ มันน่าจะเกิดจากพวกหลุมดำหรือประสบการณ์ในชีวิตที่ค่อยๆ กลืนกินเราไปทีละนิด จนทำให้วันหนึ่ง เราอาจจะพบกับแสงสว่างที่เข้ามา ทำให้เรามองเห็นอะไรที่กว้างขึ้น
ได้ เอม ภูมิภัทร มาเล่น MV รู้สึกยังไง?
พัด : ดีค่ะ ดีใจที่เขามาเล่นให้ เพราะเขาเป็นนักแสดงที่เก่งค่ะ และมีเอิงเอยอีกคนด้วยค่ะ ทั้งสองคนเป็นคนที่เพอร์ฟอร์มสายตาและร่างกายได้ดีมากค่ะ
ถ้าไม่ใช่ ”ฟื้น” แต่ละคนจะให้เพลงนี้ชื่อว่าอะไร?
พัด : "เพราะเธอ" ค่ะ
มิน : "ความหมาย" ครับ เพราะก่อนหน้านี้จะมีเพลง "อยากมีความหมาย" เพลงนี้ก็น่าจะ คาบเกี่ยวกัน
นิว : ผมคิดว่าเพลง "แสง" เพราะมันรู้สึกกลับมาอีกครั้งได้เพราะแสงนี้
ทัน : "น้ำตา" แล้วกันครับ เพราะนึกถึงความเศร้าในเพลง ผมรู้สึกว่ามันมีความสุขจน มันเศร้า
ปูน : ของผมชื่อเพลง "ส่องแสงวรรณวิจิตร" ครับ (หัวเราะ) เหมือนว่าตอนที่เล่นเพลงนี้ครั้งแรก ๆ แล้วเนื้อเพลงคำว่า ส่องแสง..........มันติดหูผมครับ แล้วมันดันไปคล้องจองกับพิธีกร FM 99 ครับ คุณทรงศักดิ์ วรรณวิจิตร หรือพี่เจ๋ง เขาพากย์บอลแล้วผมก็ได้ยินชื่อเขาบ่อย ก็เลยเหมือนร้องกรอกหู "ส่องแสงวรรณวิจิตรกับมาเหมือนเดิม"
ความทรงจำไหนของ Zweed n’ Roll ที่อยากให้ “ฟื้น” คืนมาอีกครั้ง
พัด : ความทรงจำที่ได้ออกไปเล่นดนตรีค่ะ เพราะว่าเราไม่มีงานมาประมาณ 2 ปีได้แล้วคะ
นิว : มันเหมือนชีวิตหายไปเยอะครับ แบบเราเป็นนักดนตรีและเราก็อยากเล่นมาตลอด แล้วพอวันหนึ่งมันไม่ได้เล่น รู้สึกขาดหายไปเยอะ แค่กลับมาเล่นและได้เจอคน ก็คงรู้สึกว่าได้ "ฟื้น" แล้ว
คำว่า Zweed ก็แปลว่าหวานด้วยเหมือนกัน เรามองจุดไหนเป็นความหวานของวง?
พัด : เมโลดี้ค่ะ เพราะค่อนข้างหวาน
นิว : เห็นด้วยครับ รู้สึกอบอุ่น
หลายเพลงของวงช่วยเยียวยาคนฟัง แล้ว Zweed n’ Roll เคยใช้เพลงของตัวเองในการฮีลตัวเองด้วยหรือไม่?
พัด : มากเลยค่ะ เพราะสำหรับพัดนะ ด้วยการที่พัดแต่งเพลงออกมา มันเป็นการฮีลและระบายตัวเอง บำบัดตัวเองไปในตัว
ปูน : มีส่วนมากเลยครับ เพราะพอเวลาที่ผมท้อ บางทีผมก็ฟังเพลงตัวเองครับ ซึ่งมันก็ไม่ได้ดีขึ้น (หัวเราะ) แต่ชอบครับ
ถ้าให้เลือก 1 เพลง ทีบอกความเป็น Zweed N’ Roll จะเลือกเพลงอะไร
นิว : คงเลือกเพลง "ไม่มีอะไรเหมือนเดิม" เพราะบอกทั้งเรื่องเพลงและส่วนของดนตรีออกมาได้ดี
พัด : เห็นด้วยค่ะ เพราะเป็นการเล่าเรื่องที่ไม่ได้เป็นสูตร ปกติเพลงจะมีท่อน Verse Pre- Chorus Chorus Bridge พัดว่าความเป็น Zweed N’ Roll คือการเล่าเรื่องที่ เราเล่าไปตั้งแต่ 1 ถึง 100 ค่ะ โดยที่เราไม่ต้องย้อนกลับมา
Zweed n’ Roll คือวงดนตรี...............
นิว : Zweed n’ Roll คือ Alternative Band จากกรุงเทพ ครับ
มิน : Zweed n’ Roll คือ วงดนตรีที่ขี้เล่น เผื่อจะลบภาพความอึมครึมของเราได้บ้าง เพราะจริง ๆ เราก็มีมุมนั้นเหมือนกัน
ทัน : Zweed n’ Roll คือ พิซซ่า กรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ชีส
พัด : Zweed n’ Roll คือ วงดนตรีบำบัด บำบัดกันเองด้วยค่ะส่วนใหญ่
ปูน : Zweed n’ Roll คือ วงดนตรีที่เรียบง่ายครับ
ติดตามและอัปเดตผลงานของวงทั้งหมดได้ที่
Facebook: Zweed n' Roll
Instagram: zweednroll
ฟังอัลบั้ม Resurrection ได้ที่ https://zweednroll.lnk.to/album_resurrection/