Art

WEBTOON "วันทองไร้ใจ" ในวันที่ไม่รักใครสักคน! By MU

The Latest Reinterpretation of Wanthong Takes the Shape of a Webtoons Series

ใครจะอยากเป็นคนไม่ดี ผิดที่ใจไม่จำว่ามันไม่ควรรักใคร (ดา เอ็นโดรฟิน ได้ร้องประกอบละครเรื่อง วันทอง 2021 ไว้) แต่ WEBTOON เรื่อง "วันทองไร้ใจ" ได้พลิกบทบาทตัวเองใหม่ ด้วยการขอแก้ตัวให้พ้นจากข้อครหา 'หญิงสองใจ' ที่โดน 'ผู้ชายสองคน' แย่งกันจนต้องโทษประหาร ด้วยการไม่รักและเลือกใครสักคน! ผลงานของนักเขียน MU หรือ ‘คุณมุ’ นักวาดและนักเขียนฟรีแลนซ์ ที่เริ่มต้นวาดและเขียนตั้งแต่วัยเรียน จนกลายเป็นงานหลักในปัจจุบัน โดยทำผ่านเว็บตูนและเว็บคอมมิคต่างๆ เพียงเพราะอยากให้โลกรู้ว่า นางวันทองไม่ได้สองใจและเลวร้ายอย่างที่ใครหลายคนคิด

จุดเริ่มต้นในการเป็นนักเขียน

"หลายปีก่อนมีเว็บไซต์ชื่อ Exteen ให้ทุกคนสามารถสร้างบล็อคของตัวเองได้ นักวาดหลายคนก็สร้างบล็อคและโพสงานตัวเองในนั้น ส่วนตัวก็วาดการ์ตูนเรื่องและโพสในบล็อคตัวเองเป็นตอนๆ เหมือนกันค่ะ วาดไปวาดมาก็มีสำนักพิมพ์ติดต่อขอไปรวมเล่ม ก็เลยเดินสายงานเขียนมาตั้งแต่ตอนนั้น"

ที่มาของชื่อ 'MU'

"มาจากชื่อเล่นจริงๆ ค่ะ เมื่อก่อนตอนเล่นเว็บบอร์ดก็เคยมีชื่อในอินเทอร์เน็ต แต่เวลาออกหนังสือในงานหนังสือ แล้วเขาประกาศชื่อคนเขียนเป็นชื่อในเน็ตแล้วรู้สึกเขิน ภายหลังเลยเปลี่ยนเป็นใช้ชื่อเล่นตัวเองไปเลยดีกว่า"

จุดเด่นของงานเขียน

"น่าจะเป็นการเขียนงานจากข้อมูลค่ะ ส่วนตัวชอบเขียนงานโดยตั้งต้นจากข้อมูลความรู้ เอามาย่อยให้เป็นการ์ตูน มากกว่าเริ่มจากตัวละครหรือเซตติ้งแบบหลายๆ คน แต่จุดเด่นนี้ก็เคยกลายเป็นข้อเสียนะคะ มีช่วงหนึ่งที่ใส่ใจกับความรู้มากไปจนความสนุกด้อยลง ต้องฝึกเขียนให้สนุกโดยลดการยึดติดข้อมูลอยู่พักหนึ่ง ถึงกลับมาเขียนแบบที่ชอบได้อีกครั้ง"

เรื่องที่แต่งเรื่องแรก?

"ถ้าเรื่องแรกแบบไม่ตีพิมพ์นี่คงเป็นสมับประถมค่ะ วาดเป็นเรื่องใส่สมุดอ่านเองคนเดียว เกี่ยวกับเด็กหญิงฝาแฝดสองคนที่หน้าเหมือนกัน เนื้อหาไม่มีอะไรแค่ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไปเรียน ไปเข้าค่าย เหมือนเป็นไดอารี่ส่วนตัวมากกว่า แทนที่จะเขียนเป็นตัวหนังสือ แต่เราเล่าผ่านตัวละคร ส่วนเรื่องแรกที่ได้ตีพิมพ์ เป็นเรื่อง 'มะม่วงหิมพานต์' หรือ 'หิมพานต์ Academy' ของสำนักพิมพ์ บันลือบุ๊กส์ ที่เขียนตอนเรียนมหาลัยช่วงปี 3-4 เกี่ยวกับกินรีน้อยขี้สงสัยชื่อมะม่วง กับผองเพื่อนในป่าหิมพานต์ที่ต้องไปเรียนโรงเรียนประถมแห่งเดียวกัน"

แรงบันดาลใจในการเขียน

"ส่วนมากมาจากข้อมูลค่ะ อย่างเรื่องคัลเจอร์ช็อกของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในป่าหิมพานต์ แต่หลังๆ จะชอบอ่านนิยายแนวทะลุมิติ เกิดใหม่ในร่างคนอื่น ก็เลยเขียนเกี่ยวกับแนวนี้มากขึ้น อย่างแนวทะลุมิติส่วนมากนางเอกจะทะลุเข้าไปในนิยาย ในเกม แล้วแก้ไขเนื้อหาในนั้น งั้นวรรณคดีไทยก็ต้องมีบ้างแล้วสิ"

ระยะเวลาในการเขียน

"6 วันครึ่งถึง 7 วันค่ะ คือส่งงานวันศุกร์เย็น เสาร์บ่ายก็เริ่มวาดตอนถัดไปเลย วนๆ ไป"

"วันทองไร้ใจ" มีเค้าโครงเรื่องและแรงบันดาลใจมาจากไหน

"จากนิยายจีนแนวทะลุมิติทั้งหลายค่ะ ทั้งย้อนเวลามาเป็นตัวเองตอนเด็กบ้าง ทะลุมิติเข้ามาเป็นคนอื่นในนิยายบ้าง แล้วแก้ไขชะตาชีวิต เปลี่ยนอนาคต ตัวเอกในเรื่องแนวนี้มักได้รับความไม่ยุติธรรมจนต้องตาย ก็เลยคิดถึงนางวันทองว่าน่ามีใครทะลุมิติไปเป็นนางวันทองบ้างนะ แต่แนวคิดแบบนี้ไม่ได้คิดคนเดียวนะคะ ก่อนหน้าเราก็มีคนอื่นที่คิดแบบเดียวกันและเขียนออกมาเหมือนกัน แสดงว่าตอนเรียนวรรณคดีคงอัดอั้นกับนางวันทองหลายคน"

ที่มาของชื่อ "วันทองไร้ใจ"

"มาจากสำนวน “วันทองสองใจ” ค่ะ อย่างละครวันทองของช่อง ONE วันทองรักขุนแผนคนเดียว ก็เลยเป็นแฮชแท็ก #วันทองไม่ได้สองใจ ใช่มั้ยคะ แต่ในเรื่องของเรา นางเอกไม่เลือกทั้งขุนช้างและขุนผนทั้งสองคนเลยค่ะ ก็เลยเป็นไร้ใจแทน"

ชอบตัวละครไหนมากที่สุดใน "วันทองไร้ใจ"

" ‘ปรงทอง’ ค่ะ เพราะตัวละครอื่นต้องสู้ชีวิตแล้วชีวิตสู้กลับกันหมด เลยสร้างปรงทองมาเป็นโอเอซิสเยียวยาใจในเรื่อง"

เสียงตอบรับจากผู้อ่าน

"น่าพอใจมากค่ะ บอกตามตรงว่าตั้งแต่วาดรูปมา เรื่องนี้มีคนอ่านมากที่สุดแล้ว ดีใจมาก คงเพราะแทบทุกคนเคยเรียนเรื่องขุนช้างขุนแผนมาก่อน เคยข้องใจว่าทำไมวันทองต้องตายด้วย เรื่องนี้เลยเหมือนมาคลายความอัดอั้นตันใจสมัยเรียนมั้งคะ อีกส่วนหนึ่งก็เพราะได้พื้นที่เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนติดตามจำนวนมากอยู่แล้ว ก็เลยดีกว่าวาดและโพสต์เองในช่องทางตัวเองหลายเท่าด้วย"

ข้อดีและข้อเสียของการเป็นนักเขียน

"ส่วนตัวมีนิสัยไม่ชอบพูดชอบคุย ไม่ถนัดการพบปะผู้คนค่ะ งานเขียนที่ได้แต่อยู่ในบ้านตัวเอง โฟกัสแค่งานตัวเองเลยตอบโจทย์มาก ก่อนหน้านี้เคยทั้งวาดส่ง สำนักพิมพ์และพิมพ์ขายเอง ถ้าในแง่ผลตอบแทนก็ไม่คุ้มเท่าไหร่ นอกจากได้ทำสิ่งที่รักและสบายใจ แต่พอได้มาวาดเว็บตูน เพราะได้รับการสนับสนุนจากการจ่ายตอนล่วงหน้าของทุกคน ทำให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งด้านการเงินและกำลังใจผ่านคอมเมนต์เลยค่ะ ทุกวันนี้สามารถจ้างผู้ช่วยมาช่วยวาดได้เพราะทุกคนเลย"

อุปสรรคสำคัญของการเป็นนักเขียน

"หลายอย่างเลยค่ะ ทั้งความเห็นของคนรอบข้างที่ไม่คิดว่าอาชีพนี้จะทำเงินได้ ทั้งใจเราเองที่เคยท้อแท้เลิกวาด หรือคอมเมนต์จากคนมากมายที่บางครั้งก็มีข้อความบั่นทอนกำลังใจ แต่ก็ผ่านมาได้เพราะความดื้อค่ะ เพราะชอบวาดรูปจริงๆ ถึงจะเคยเลิกวาดไปพักนึง สุดท้ายก็กลับมาวาดอีก พยายามบริหารการเงินให้ดี ให้ไม่เดือดร้อน ให้เลี้ยงตัวเองได้ ส่วนคอมเมนต์ต่างๆ นี่เคยใช้วิธีเลือกที่จะรับค่ะ อันไหนที่มีรูปประโยคบั่นทอนใจก็ปัดทิ้งไปก่อน เอาที่ใจเรารับไหว เราไม่สามารถฟังและทำตามทุกคนได้จริงๆ ค่ะ"

ฝากคำแนะนำถึงนักเขียนหน้าใหม่

"คงเป็นเรื่องการรับความคิดเห็นจากคนอ่านค่ะ ส่วนตัวเคยฟังทุกคอมเมนต์และพยายามทำตามทุกความเห็นมาก่อน กลัวว่าถ้าไม่ฟังจะโดนว่าว่าอีโก้สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดมาก เราต้องเลือกและคัดกรองคอมเมนต์ให้ได้ คำติต่างๆ ถ้าอันไหนยังทำไม่ได้ ก็เอาไว้เรื่องหน้า จำไว้ว่า เราไม่ได้จะเขียนแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวในชีวิต โอกาสพัฒนาตัวยังมีเสมอ ส่วนอันไหนถ้าเราไม่อยากทำตามก็ไม่ต้องทำ ต้องยึดตัวเองเป็นหลักก่อน เชื่อมั่นในตัวเองค่ะ"

จากงานเขียนหลายๆ เรื่องคิดว่าตัวละครตัวไหนที่คล้ายกับเรา

"แต่ละตัวละคร ถ้าไม่ได้มีต้นแบบเป็นพิเศษ หรือ เอามาจากวรรณคดีเลย อย่าง ขุนช้าง ขุนแผน ส่วนมากจะมีความเหมือนเราคนละนิดคนละหน่อยค่ะ อารมณ์แบบเจออะไรมาคล้ายๆ กัน" 

ตัวละครที่ชอบที่สุด

"คงเป็น 'ปรงทอง' อีกล่ะค่ะ เพราะคล้ายเราตรงที่มีน้องชายหนึ่งคนเหมือนกัน ในฐานะพี่สาว ตอนเด็กๆ ก็พยายามทำตัวโตกว่าและคอยสั่งสอน แต่พอน้องโตก็กลายเป็นน้องมีความรับผิดชอบมากกว่าพี่แทน (หัวเราะ)"

จากซ้ายไปขวา: ปรงทอง - วันทอง - เปลวคำ

งานเขียนที่รักมากที่สุด

"เรื่องที่กำลังวาดคือเรื่องที่รักที่สุดค่ะ (หัวเราะ) เดี๋ยวพอวาดเรื่องใหม่ ก็คงไปรักเรื่องใหม่มากที่สุด"

แพลนงานเขียนเรื่องใหม่

"มีพล็อตในหัว 2-3 เรื่องนะคะ แต่ยังไม่ได้กำหนดแน่ชัดค่ะ คงต้องรอให้เขียนวันทองไร้ใจจบก่อนค่อยคิดอีกที"

แพลนการทำงานในอนาคต

"ตอนนี้ยังไม่มีเป็นพิเศษค่ะ อาจจะเขียนเว็บตูนไปเรื่อยๆ เพราะพล็อตเรื่องในหัวก็แอบมีให้เขียนได้เรื่อยๆ จนกว่าจะมีอะไรมาจุดประกายมั้งคะ"

ถ้าให้นิยามงานของนักเขียน 'MU'

"เอ่อ…การ์ตูนความรู้ที่ไม่ใช่การ์ตูนความรู้ มั้งคะ"

https://www.youtube.com/watch?v=WQ57pePlrbo

https://www.youtube.com/watch?v=WQ57pePlrbo

ติดตามผลงานของนักเขียน 'MU' ได้ที่

Webtoon: วันทองไร้ใจ

Comico: XxX Travelers Festival

Twitter: @Mululeee

“No one wants to be the bad guy / Wrong of me to slip up and fall in love,” Da Endorphine sings on the soundtrack of “Wanthong,” a 2021’s TV adaptation of Thai folklore “Khun Chang, Khun Phaen.” In this period drama, Wanthong, originally depicted as an immoral woman stuck in a love triangle, is reinterpreted as a person with her own agency who chooses to fight for her freedom and let her voice be heard.

However, “Wanthong” is not the only adaptation we’ve seen of late. Illustrator/freelance writer Mu has put her own spin on the classic tale with
Webtoons comic series Wanthong Rai Jai [“heartless Wanthong”]. In this version, the protagonist subverts all expectations by choosing to be with neither Khun Chang nor Khun Phaen. 

How did you get started?
“I had my own blog on Exteen several years ago where I’d regularly post my drawings and comic series. One day, a publishing house got in touch, saying that they wanted to publish my stuff. That’s how I got started.”

Where did your name come from?
”It’s actually my nickname. Before switching to Mu, I used to go by my screenname but it was a bit embarrassing, especially when they announced it at book fairs. 

What makes your drawings unique?
“I draw stories based on research. Unlike most illustrators, I prefer to start from a piece of information rather than from a character or a setting. This sometimes backfires because when I’m too focused on facts, it can get in the way and make the story less enjoyable.”

What was the first story you drew?
“I drew my first story when I was in primary school. It’s about two identical twin girls who did everyday things together. It’s a bit like a diary but instead of telling stories through words, it’s through drawings. My first published story is called ‘Mamuang Himapan’ or ‘Himapan Academy.I wrote it when I was in my third or fourth year of uni. It’s about a curious kinnaree* called Mamuang and her group of friends from the mythical Himapan forest who go to the same school.

*A part-human-part-bird creature from Hindu and Buddhist mythology.

Where does your inspiration come from?
“It mostly comes from what I’ve read. Lately, I’ve been getting into time- travel novels where female protagonists travel through dimensions to fix something.”

How long does it take you to draw?
“Almost a week. I usually submit my drawings on Fridays late afternoon and start drawing a new episode the following afternoon. It’s a routine like that”

Can you tell us about the inspiration behind “Wanthong Rai Jai”?
“It was inspired by all these Chinese time-travel novels where the protagonist either time-travels to her childhood or time-warps as someone else to change a certain scenario. These characters are often misjudged and end up dead, so I thought maybe someone should go back in time to fix Wanthong’s situation. I’m actually not alone in this – there have been people who have written similar stories before. I think we all had something to say about the original storyline we’d learned in school.”

What about the title “Wanthong Rai Jai”?
”It’s a rift on the expression ‘Wanthong Song Jai” [“two-hearted Wanthong”] and the TV drama hashtag #WanthongOnlyLovesKhunPhaen. My Wanthong is none of those things. She chooses neither men so that’s why she’s heartless.”

Who’s your favorite character in “Wanthong Rai Jai”?
“I love Prongthong because, unlike other characters who have to struggle a lot, she’s like the oasis for comfort.”

How has the feedback been?
“It’s been really positive. It’s easily my most read story in my entire career. I think the reason why it resonates with a lot of people because we all felt a bit iffy about [Wanthong’s] death. Webtoons is also a really popular platform which helps drawing even more readers.”


Pros and cons of being an illustrator/writer
”I’m not good at talking or socializing with people so this job really suits my personality and my passion . The only downside is that the income tends to be low. It’s gotten better now that I’m working with Webtoons, though, because of its deposit system. I’m so grateful for my supporters.”

“Doing what I do comes with a few other obstacles. People have told me that I won’t be able to make a living off it. I used to get discouraged by all the negative comments but I try to not let it faze me. I love drawing too much to give it up. I’m more selective in choosing which comments to read and accept the fact that I can’t possibly please everyone.”


Advice for aspiring illustrator/writer?
”I used to listen to every comment I got because I didn’t want to come across as cocky. I was so wrong! I have to keep in mind that there’ll always be room for improvement and ignore some of the comments sometimes. You don’t need to do everything people tell you to do. Believe in yourself.”

Which character do you identify with the most?
“Most characters are taken from the original. I identify with all of them in a different way because we’ve been through a similar thing.”

From left to right: Prongthong, Wanthong, Plewkum

What’s your most loved story?
“The one that I’m working on right now. It’ll probably change when I go work on a new series, though.”

Any new series in the works?
“There’s a few in my head, but nothing’s set in stone yet. I think I’ll wait until I finish ‘Wanthong.’”

Future plans
“Nothing in particular. I’m probably going to keep drawing for Webtoons for now because I still have lots of stories to tell.”

How would you define your work?
“Maybe something that goes beyond educational comics.”