การแลนดิ้งลงจอดทำตลาดอย่างเป็นทางการของ BYD SEAL ในเมืองไทย ไม่ใช่แค่เพียงกระแสแต่คือ 'ปรากฏการณ์' เป็นมากว่าแค่รถไฟฟ้ารุ่นใหม่หนึ่งรุ่นที่เปิดตัว เป็นผู้แสดงตัวคือหนามยอกของรุ่นรถน้ำมันอย่างชัดเจน และสำคัญที่สุด! คือเป็นรถที่ยกระดับขีดจำกัดขุมกำลังระดับทะลุ 500 แรงม้า กับตัวท็อปสุดของรุ่น BYD SEAL AWD PERFOMANCE ที่จ่ายเงินไม่ต้องถึง 2 ล้านบาท
เปิดตัว เปิดราคา กับเสียงฮือฮาและยอดจองถล่มทลายที่ใช่ว่ารถทุกรุ่นที่เปิดตัวใหม่จะสามารถทำได้เทียบเท่า กับราคารุ่นท็อปสุด 1.599 ล้านบาท ม้าระดับ 500 ตัวกับราคารถพอๆ กับรถ D-Segment อย่าง Camry, Accord ที่ให้กำลังมาอยู่แค่ระดับ 200 ตัวต้นๆ มองผิวเผินมันดูช่างคุ้มค่าเสียยิ่งกระไร แต่อีกมุมมันก็แอบน่ากังวลกับพละกำลังมหาศาลนี้เหมือนกัน ม้าดุแต่คนขี่เอาไม่อยู่ แข้งขาไม่ค่อยแข็งแรง จะเกิดความเสี่ยงอะไรที่ตามมาบ้าง EQ จะพาทุกคนค่อยๆ ไปไล่ดูกัน
ม้าถูก!
เป็นเรื่องน่ายินดีกับคนไทยที่สามารถ ‘ซื้อม้า' ได้ถูกกว่าเมื่อก่อน อย่าพึ่งเข้าใจผิดว่าเป็นสารเสพติดที่ตอนนี้ราคาถูกเหมือนกัน เม็ดละไม่กี่บาท!
แต่บริบทนี้หมายถึง 'แรงม้า' ในรถยนต์เพียงหนึ่งคัน ทางแบรนด์จีนเข้ามาสะเทือนวงการไม่ใช่แค่ร้อยหรือสองร้อยอย่างรถญี่ปุ่นแบบแต่ก่อน แต่เป็นพลังมอเตอร์หน้า-หลัง สามารถรีดแรงม้ามาให้มากกว่า 500 ตัว กับรุ่น BYD SEAL AWD Performance
เก๋งซีดานไซซ์เทียบเท่าตลาด D-Segment เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD ผ่านมอเตอร์ 2 ตัว หน้า-หลัง ให้แรงม้าสูงสุดที่ 530 ตัว พร้อมกับแรงบิดอีกกว่า 670 Nm ทำงานร่วมกับ BYD Blade Battery ความจุ 82.56 kWh ชาร์จ DC สูงสุด 150 kW
เมื่อคำนวณราคาม้าต่อตัวของ BYD SEAL AWD Performance เทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่แรงม้าเยอะและมีขายในบ้านเรา
- SEAL AWD Performance ม้าตัวละ 3,016 บาท
- Honda Accord 2023 ราคา 1,799,000/ 207 แรงม้า : ม้าตัวละ 8,690 บาท
- Ford Ranger RAPTOR V6 ราคา 1,919,000/ 397 แรงม้า : ม้าตัวละ 4,833 บาท
- Tesla Model3 Long Range AWD(Dual Motor) ราคา 1,899,000/ 441 แรงม้า : ม้าตัวละ 4,306 บาท
ม้าถูกที่สุดเมื่อเทียบกับหลายๆ รุ่น ตกตัวละ 3 พันนิดๆ ราคาตัวรถเข้าไปในกลุ่มรถซีดานที่เปิดตัวมาในราคาไล่เลี่ยกลุ่มรถ Camry หรือ Accord โดยตรง แต่ในสองรุ่นพี่ใหญ่ที่เป็นเหมือน 'ไอคอน' ของตลาดรถเมืองไทยมาช้านาน แรงม้ายังไต่ๆ อยู่แค่ 200 ตัวต้นๆ เท่านั้น
“แน่นอนว่า SEAL ‘จ้องจะเล่นคุณอยู่’ ไม่เกรงใจรุ่นพี่ ตั้งราคามาท้าชนเน้นๆ ขายถูกกว่าแบบเตะตัดขาแต่ได้ม้าเยอะกว่า ขายความเป็นรถ EV ไม่มีห่วงเรื่องน้ำมันขึ้นลง”
ที่สำคัญ! และเรียกเสียงฮือฮามากที่สุดคือ 'ตัวท็อป' ให้แรงบิดกับแรงม้ามาอย่างบ้าคลั่ง 0-100 ขึ้นต้นด้วยเลข '3' มองสเปคเผินๆ แรงม้าแรงบิดนึกว่าเป็น Mercedes-AMG C 63 S Coupe ที่ขายกันอยู่เป็นสิบล้านเสียอีก
“ความเร็วสูงสุด Top Speed 190 km/h ถูก Locked ไว้ใน BYD SEAL ทุกรุ่นย่อย เหมือนเป็นคำบอกกล่าวคร่าวๆ หรือเปล่าว่า ไปทำให้วิ่งแรงกว่านั้น 'กูไม่เกี่ยว' ไม่รับผิดชอบนะ”
รถ Hight Performance หรือมีแต่แรงม้าที่ส่วนอื่นไม่สอดรับ
ท่ามกลางความตื่นเต้นแทนตลาดรถเมืองไทยที่คนไทยจะได้ขับรถแรงม้าเยอะๆ ระดับครึ่งพันม้าโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินแพงๆ อีกมุมกลับเป็นความกังวลเกี่ยวกับตัวรถที่อาจ 'รับไม่ไหว!' กับจำนวนม้าขนาดนั้น จึงทำให้ต้องกลับไปส่องสเปคความต่างของรุ่นกลาง SEAL Premium กับแรงม้า 313 เทียบกับรุ่นท็อป 530 แรงม้าใน BYD SEAL หน่อยว่าให้อะไรมาพิเศษแตกต่างกันบ้าง
- เซ็ตติ้งช่วงล่างแบบ Performace
- โช้กอัพด้านหน้าและหลังแบบ Frequency Selective Damping
- มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว หน้าหลังช่วงเพิ่มบาลานซ์ให้กับตัวรถ
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
- iTAC ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ
ดูแหม่งๆ ไปสักหน่อยกับรถพื้นฐานโครงสร้างเดียวกัน อีกคัน High Performance กว่ากับแรงม้าที่ถึงอีก 200 กว่าตัว แต่โช้กดีกว่าหน่อยแต่ยังไม่ใช่โช้กอัพไฟฟ้า แค่มีระบบปรับแรงดันตามลักษณะการขับขี่เพิ่มมาให้ มีระบบควบคุมเสถียรภาพรถเพิ่มมาให้ ดีกว่าที่การขับขี่แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (เกือบจะตลอดเวลา) และการบาลานซ์น้ำหนักรถที่ดีขึ้นจากตัวมอเตอร์หน้าหลัง ซึ่งเป็นผลดีข้างเคียงเท่านั้นจากมอเตอร์ 2 ตัว
“นอกนั้นเหมือนตัวรถเหมือนกันหมด ช่วงล่างแบบระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ที่ด้านหน้า และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ สเปคชุดเบรกไม่ต่างกัน แม้กระทั่งสเปคยางยังเท่ากันเลย 235/45 R19 รถ 300 ม้า กับรถ 500 ม้า”
หรือเป็นไปได้ไหมว่า สเปคเท่านี้ที่ BYD ให้มา อาจจะเพียงพอแล้วกับความเร็วสูงสุดที่ทางค่ายได้ล็อกเอาไว้ที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถึงยังไงกับรุ่น SEAL AWD Performance ที่ความแรงระดับภาคภูมิถึงขั้นติดเพลตไว้ท้ายรถ '3.8S' ควรจะให้เบรกที่สมรรถนะพิเศษกว่ามาเป็นอย่างน้อย เผื่อไว้หน่อยในจังหวะไม่คาดฝันทั้งเผลอหรือตั้งใจกดคันเร่ง ยังมีเบรกที่ 'เอาอยู่' มั่นใจได้มากกว่า ดูเปรียบเทียบง่ายๆ ในพวกรุ่นแรงพิเศษของทั้ง Mecedes, BMW บรรดารถตระกูล 'AMG' หรือ 'M' ที่แรงม้ากระโดดขึ้นมาจากรุ่นธรรมดา ทำไมรถเหล่านั้นถึงให้เบรกที่ขนาดใหญ่กว่ารุ่นธรรมดามาละ แค่นี้ก็พอเห็นความเสี่ยงได้ง่ายๆ แล้ว
รถสันดาปกับมอเตอร์ไฟฟ้า 'ความแรง' ที่ต้องปรับตัว
ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักแข่งรถที่ควบม้าระดับเกิน 500-1000 ตัวเป็นนิจ ว่าคิดเห็นยังไงกับการมีรถที่พละกำลังขนาดนี้ออกมาขายในราคาที่เอื้อมถึงได้ ความคิดเห็นของเขาก็บอกว่า ถ้าไปอยู่ในมือของคนขับรถทั่วไปที่ขับปกติ ใช้ความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลย รถมันเอาอยู่ได้สบายอยู่แล้วสำหรับเรื่องสมรรถนะ
“แต่เขาว่าที่น่ากังวลคือ บรรดา ‘พ่อน้องๆ All-New กลายพันธุ์’ หรือวัยรุ่นจูนซิ่งมีปัญญาแต่งรถจูนม้า 200-300 ตัว ที่ห้าวๆ เนี่ยสิ อาจต้องระวังในการขับ เพราะบางคนอาจจะไม่คิดหน้าคิดหลัง ตั้งใจซื้อรถคันนี้มาเพื่อหวังเป็น King Of The Road ในทุกเส้นทาง รถน้อยรถหนาแน่นก็พร้อมมุดพร้อมดูด แหม... ก็เลข 3.8s ติดที่ท้ายรถขนาดนี้ มันช่างน่ารัญจวนใจให้ทะลุทะลวงไปในทุกช่องว่างของถนนเสียจริงๆ นี่นา”
กับรถกำลังขนาดนี้ แถมต้นกำเนิดขุมกำลังยังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าประเภท 'สะกิดเป็นโดน' ความผิดพลาดพร้อมเกิดขึ้นได้ทุกวินาที มันไม่เหมือนรถเครื่องยนต์สันดาปที่หากบอกว่าม้า 500 ตัว กว่าจะมาครบ 500 ต้องรอในช่วงจังหวะเกียร์ท้ายๆ รอบเครื่องค่อยๆ ไต่มา ลากรอบเครื่องถึงแรงม้ากว่าจะมาครบ คนขับค่อยๆ ปรับตัวเตรียมใจรับมือได้ แต่นี่รถไฟฟ้าเป็นเหมือนการ 'ถาโถม' ม้ามากันเป็นคอกเพียงในไม่กี่วิ. เมื่อกระทืบคันเร่ง แต่ทั้งช่วงล่าง ระบบเบรก หรือแม้แต่ตัวผู้ขับขี่เองอาจยังไม่พร้อมจะรับมือความผิดพลาดนั้น
'ทักษะผู้ขับขี่' ส่วนสำคัญที่หลายฝ่ายต้องร่วมมือ
คำถามคือจะมีลูกค้า BYD SEAL สักกี่คนที่เคยขับรถระดับ 500 ม้ามาก่อน? เพราะฉะนั้นอาจไม่ใช่แค่ 'ใครก็ได้' ที่ขับหรือเปล่าสำหรับรถรุ่นนี้ จากคนที่เคยขี่รถสันดาป อีโค่คาร์ หรือ D-Segment พลังม้าร้อยสองร้อยตัวแบบค่อยๆ ไล่ความแรงตามรอบเครื่องยนต์ ต้องกระโดดมาเป็น 530 ที่แรงกระชากมาแบบวาร์ปสไตล์มอเตอร์ไฟฟ้า มันย่อมแตกต่างอยู่แล้ว
“ดังนั้นความกังวลนี้เป็นเรื่องที่หลายส่วนต้องช่วยกันระวังและป้องกัน เซลล์ก็ไม่ใช่จะขายอย่างเดียวต้องบอกถึงข้อควรระวัง หรือแม้กระทั่งทางค่ายผู้ผลิตเอง จำเป็นหรือยังที่ต้องมีแถม Package คลาสการขับขี่เพื่อเพิ่มทักษะให้กับผู้ที่จะเป็นเจ้าของรถแรงระดับนี้”
หรืออาจจะไปถึงขั้นการปรับตัวของ กรมขนส่งฯ, กฎหมายจราจร เมื่อเทคโนโลยีของรถยุคนี้มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้น รถแรงม้าสูงๆ ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยากเกิน ถึงเวลาหรือยังที่ต้องปรับเงื่อนไขการสอบใบอนุญาตการขับขี่ขั้น Advance กับผู้ที่จะขับรถที่พละกำลังสูงๆ ไปจนถึงเรื่องการแก้ไขข้อกฎหมายในการใช้ความเร็ว บทลงโทษที่หนักขึ้นให้ก่อนเหยียบคันเร่งได้ฉุกคิด ทุกอย่างล้วนสอดคล้องต้องเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและวัตถุ
สินค้าดี ราคาคุ้มค่า ใครใคร่ซื้อ… ซื้อ ใครใคร่ขับ… ขับ แต่หนึ่งสิ่งสำคัญมองข้ามไม่ได้ในความเป็นมนุษย์ที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมคือ 'ความรับผิดชอบต่อสังคม' อย่าคิดว่าอุบัติเหตุมันจะเกิด ขี่อะไรก็ต้องเกิด, อย่าคิดว่าคนมันขับรถประมาท ขี่รถไถก็เสี่ยงตายพอๆ กัน แต่จะดีกว่าไหมถ้าเรารู้ทันความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องร้ายๆ ได้ ใครจะเล่นรุ่นนี้ BYD SEAL AWD PERFOMANCE ซื้อได้ คุ้มค่าราคาค่าตัวแน่นอน แต่สิ่งที่อยากวอนคือทำความคุ้นเคยกับคอกม้าที่รวมตัวอยู่ในรถคันนี้ให้ดี ก่อนที่จะแตะคันเร่งแรงขึ้นกว่าครั้งก่อนหน้า คุณต้องมั่นใจว่าพร้อมรับมือมันได้