การเดินทางท่องเที่ยวด้วยยานพาหนะดูเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้ ไม่ว่าจะท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม ก็ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับยานพาหนะต่างๆ ที่ใช้เดินทางนั่นล่ะ ยกเว้นเลือกที่จะเดินด้วยเท้าไปหรือขี่ม้านั่นละ ซึ่ง Car Camping ถือว่าเป็นหนึ่งรูปแบบของการเดินทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และถือว่ามีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวอีกต่างหาก
Exotic Quixotic พร้อมพาคุณเดินทางไปกับเรื่องของ Car Camping จากจุดเริ่มต้นไปสู่จุดเปลี่ยนต่างๆ แต่ทำไมความนิยมชมชอบการท่องเที่ยวแบบนี้ถึงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรียกได้ว่ากาลเวลาความเปลี่ยนแปลงไม่สามารถทำลายความชื่นชอบความนิยมในเรื่องนี้ลงได้
หากจะให้หาคำนิยามของการท่องเที่ยวแบบนี้ คงเป็นอะไรที่ยากเย็นพอสมควร แต่ถ้าให้พูดแบบภาพรวมกว้างๆ ก็คือ การท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ และก็จะใช้รถยนต์เป็นที่หลับนอนพักผ่อนค้างคืนด้วยนั่นเอง ซึ่งไม่มีข้อจำกัดในเรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ บางคนอาจมีแค่หมอนกับผ้าก็เพียงพอในการท่องเที่ยวพักผ่อนแล้ว แต่บางคนก็เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายเช่นกัน และมันไม่มีใครผิดถูกอย่างแน่นอนสำหรับเรื่องนี้
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์แบบ Car Camping เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา โดยเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1900 เมื่อรถยนต์ได้กลายเป็นพาหนะที่ใครๆ ก็สามารถซื้อมาครอบครองใช้งานได้ ประกอบกับถนนหนทางที่ได้รับการพัฒนาที่ดีกว่าในอดีต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการใช้รถยนต์เดินท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ตามมาด้วยเริ่มมีการพัฒนาดัดแปลงอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ ที่จะช่วยการเดินทางการพักผ่อนมีความสะดวกสบายขึ้น
กระแสความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 1910 - 1920 เรียกได้ว่า Car Camping ได้รับความนิยมอย่างสูงมากๆ จนถึงมีการตั้งกลุ่มองค์กรที่มีชื่อว่า Tin Can Tourists ขึ้นมา ซึ่งมันเป็นการรวมตัวกันของบรรดานักเดินทางด้วยรถยนต์ในการไปตั้งแคมป์ตามสถานที่ต่างๆ โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะนิยมใช้แบบเป็นรถพ่วงดัดแปลง (Caravans) หรืออาจจะเป็นเต็นท์ชั่วคราวก็ได้เช่นกัน สำหรับช่วงเวลานั้น กลุ่มคนเหล่านี้จะมีชื่อเรียกว่า Tin Can Tourists หรือแปลเป็นไทยก็ประมาณว่า ‘นักท่องเที่ยวกระป๋อง’ อ้างอิงจากรูปร่างหน้าของรถนั่นเอง
เมื่อมีความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวกองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เติบโตเป็นเงาตามตัว เริ่มจากอุทยานแห่งชาติที่จะเป็นจุดหมายหลักในการท่องเที่ยว ก็เริ่มมีแนวทางในการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้ เช่นเดียวกับบรรดาสถานประกอบการเอกชนที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในของจุดหมายเช่นกันแต่ละสถานที่ก็ล้วนมีความพิเศษอยู่ในตัวเอง ตลอดจนพยายามสร้างจุดขายต่างๆ ขึ้นมา นอกจากนี้บรรดาอุปกรณ์เสริมในการตั้งแคมป์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพัฒนาออกแบบให้สอดคล้องกับกระแสการท่องเที่ยวลักษณะนี้
ทั้งนี้เริ่มมีบริษัทต่างๆ ได้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาจำหน่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์บนหลังคา อุปกรณ์ทำครัวแบบพกพาสำหรับตั้งแคมป์ เฟอร์นิเจอร์สำหรับตั้งแคมป์ขนาดกะทัดรัด และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่จะทำให้การตั้งแคมป์สะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งมันยังเป็นเรื่องของแฟชั่นอีกต่างหาก ตัวอย่างเรื่องนี้ที่ชัดเจนเรื่องแฟชั่นก็อย่างแบรนด์ Coleman ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเรา โดยราคาค่าตัวของอุปกรณ์ต่างๆ เรียกได้ว่าเอาเรื่อง!
อีกจุดเด่นจุดขายอีกอย่างของการท่องเที่ยวแบบ Car Camping ก็คงเป็นเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องที่พัก คุณจะไม่เสียค่าโรงแรมค่าห้องอีกต่อไป ค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักจะมีเพียงค่าที่หรือค่าไฟเพียงของสถานที่นั้นๆ อีกทั้งถ้าคุณเตรียมอุปกรณ์ทำอาหารไว้ในการท่องเที่ยวด้วยแล้วล่ะก็ ก็จะประหยัดได้ทั้งค่าห้องพักและค่าอาหารไปได้ในนั่นเอง ทั้งหมดนี้ก็จะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่มีกับรถที่ใช้งานเป็นหลัก
ในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ ก็จะนิยมใช้ Caravans ในการท่องเที่ยวเดินทาง ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นบ้านมีล้อก็ยังได้ ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน ห้องอาบน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า และพื้นที่ทำครัวเป็นต้น โดยทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับราคาของรถ Caravans นั่นล่ะ สำหรับข้อเสียหลักๆ ของรถประเภทนี้ก็คือ มันเป็นแบบ ‘พ่วงลาก’ ที่คนขับรถยนต์ต้องมีฝีมือในการขับขี่พอประมาณ การเลี้ยวที่มีวงกว้างทำให้ต้องมีระยะเพื่อ การถอยหลังจอดที่ต้องใช้ฝีมือพอสมควร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นข้อเสียที่ปฏิเสธไม่ได้
นอกจากนี้ยังมีรถยนต์อีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยจะเป็นการดัดแปลงรถกระบะ รถบรรทุกคันใหญ่ให้กลายเป็นรถบ้านเคลื่อนที่ได้ ซึ่งเรื่องของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เรียกได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างกับพวก Caravans แต่ยกเว้นเรื่องราคาค่าดัดแปลงที่จะสูงกว่านั่นเอง อย่างไรก็ตามรถลักษณะนี้ก็ยังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สิ่งสำคัญของเรื่องนี้ก็คือการขับขี่ที่ไม่ต้องใช้ทักษะหรือฝีมือเทียบเท่ากับแบบแรก
สำหรับในไทยที่นิยมในปัจจุบันก็จะเป็นการนำรถยนต์มาดัดแปลงเป็นรถบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเลือกนำเอารถตู้มาดัดแปลง (ไม่เน้นมีห้องน้ำ) เช่นเดียวกับรถกระบะก็ถูกนำมาใช้ดัดแปลงเช่นกัน แต่พวกรถบรรทุกขนาดใหญ่จะไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ารถขนาดเล็ก ตลอดจนต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่เฉพาะอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีบ้างกลุ่มที่นิยมแบบเป็นเต็นท์หลังคารถอีกด้วย ส่วนความรู้สึกก็จะใกล้เคียงกับการนอนเต็นท์มากที่สุด และค่าใช้จ่ายก็ดูเหมือนจะน้อยที่สุดถูกที่สุดอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ไหนรูปแบบไหน สิ่งที่เหนือของการท่องเที่ยวแบบ Car Camping คือสามารถไปได้ในทุกฤดู ไม่ว่าจะหน้าฝน หน้าร้อน หรือหน้าหนาวก็ตาม เพราะกลุ่มคนที่นิยมการท่องเที่ยวลักษณะนี้ล้วนจะต้องมีอุปกรณ์ที่ทำให้เรื่องสภาพอากาศไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ตัวอย่างที่ชัดเจนก็เป็นเครื่องปรับอากาศนั่นเอง
Car Camping ถือว่าเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของการเดินทางผจญภัยและการพักผ่อน เพราะการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ลักษณะนี้จะมอบให้ได้ทั้งประสบการณ์กลางแจ้งที่ยอดเยี่ยม โดยที่ไม่ต้องลำบากเหมือนกับการนอนเต็นท์แต่อย่างใด คุณสามารถดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติในขณะที่เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายในเวลาเดียวกัน ซึ่งเรียกได้ว่าความสะดวกสบายแทบไม่ต่างจากการอยู่โรงแรมเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการท่องเที่ยวอย่างมาก
สุดท้ายนี้การท่องเที่ยวแบบ Car Camping มันไม่มีกรอบใดๆ มาบังคับคุณได้ เพียงแค่มีรถยนต์ที่ใช้เดินทางขับขี่ก็สามารถทำได้แล้ว ในส่วนความสะดวกสบายหรืออุปกรณ์อำนวยช่วยเหลือต่างๆ ก็เชื่อมโยงกับความพอใจนั่นล่ะ คุณอาจจะมีเพียงหมอนสักใบกับผ้าห่มสักผืนก็เพียงพอในการท่องเที่ยวเดินทางแล้ว ขอเพียงแค่คุณออกเดินทางเพียงเท่านั้น...