ถือว่าเป็นควันหลงแบบจางๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ‘อาจารย์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ คนล่าสุด ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นต้องเกี่ยวข้องกับรถยนต์อย่างแน่นอน ถึงในแม้ปัจจุบัน อ.ชัชชาติจะมีภาพที่นำเสนอให้ดูเหมือนไม่ได้ขับรถยนต์แล้วก็ตาม ซึ่งเวลาไปไหนมาไหนก็นั่งรถตู้ส่วนตัวบ้าง (มีคนขับรถ) นั่งรถสาธารณะ นั่งรถไฟฟ้า ตลอดจนนั่งเรือก็มีให้เห็นอยู่ตลอด อีกทั้งภาพลักษณ์ในปัจจุบันก็เป็นคนชอบวิ่งออกกำลังกาย เรียกได้ว่าดูห่างไกลจากการขับรถยนต์ด้วยตนเองพอสมควร
แล้วทำไม อ.ชัชชาติ ต้องเกี่ยวข้องกับรถยนต์?
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะไม่รู้อย่างแน่นอน ว่าในอดีตช่วงสมัยวัยรุ่น อ.ชัชชาติก็เป็นคนขับรถยนต์เช่นกัน ซึ่งถ้าขับใช้งานทั่วไปแบบคนธรรมดาก็คงไม่มีอะไรให้พูดถึงอย่างแน่นอน ตัวของอาจารย์เรียกได้ว่าเพิ่มไปอีกสเต็ป ขับแบบมีกลุ่มมีแก๊งเลยทีเดียว
ต้องท้าวความกลับไปในวันที่ อ.ชัชชาติ ได้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพ และก็เกิดกระแส ‘ชัชชาติ ฟีเวอร์’ ขึ้นมามากมาย ซึ่งในวงการยานยนต์ก็มีที่สะสมหนังสือรถเก่า ได้นำเอาข้อมูลในอดีตมานำเสนอในช่วงปี พ.ศ. 2528 จากนิตยสาร ‘นักเลงรถ’
คอลัมน์ที่มีชื่อว่า ‘ชุมทางนักเลงรถ’ จากนิตยสารนักเลงรถ ซึ่งได้ออกไปสัมภาษณ์กลุ่มรถที่มีชื่อว่า ‘Dromfnade’ โดยไฮไลต์ในเรื่องนี้อยู่ที่รายชื่อสมาชิกของกลุ่ม ได้ปรากฏชื่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (ทริป) กับรถยนต์คู่ใจอย่างทาง Toyota DX สีไข่ไก่ เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มรถนั่นเอง ซึ่งจริงๆ ก็ไม่แปลกอะไรเพราะในปีนั้น ตัวของอาจารย์มีอายุ 19 ปี มันเป็นช่วงวัยรุ่นนั่นล่ะ
แม้จะไม่มีข้อมูลการสัมภาษณ์หรือรูปรถของอาจาร์ยออกมา แต่ก็มีคอมเมนต์ของคนที่เรียนจุฬาฯ ในรุ่นเคียงได้ออกมาเล่าสั้นๆ ถึงสไตล์การแต่งรถของอาจารย์ว่าเป็นแบบ ‘แรลลี่’ โดยมีการยกสูง พร้อมด้วยชุดแต่งสเกิร์ตแบบจัดเต็ม และยังเคยมีการลงแข่งขันกิจกรรมจุฬาแรลลี่อีกด้วย
Toyota DX หรืออีกชื่อเรียกก็คือ Corolla KE70 เป็นดาวเด่นยอดนิยมในช่วงยุค 80’s ก็ว่าได้ อาจเป็นเพราะตัวถังมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 4 ประตูซีดาน, รุ่น 5 ประตูสเตชั่นแวกอน, รุ่น 2 ประตูคูเป้ และรุ่น 4 ประตู การที่มีตัวถังของรถให้เลือกมากมาย ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในการตัดสินใจอีกด้วย แม้ว่าไม่ใช่ทุกตัวถังจะมีจำหน่ายในไทย
บางคนมีครอบครัวใหญ่ การซื้อ Corolla KE70 รุ่น 5 ประตูสเตชั่นแวกอนไปใช้งานก็ดูเป็นอะไรที่เหมาะสม แต่ถ้าใครเป็นขาซิ่ง หรือช่วงเวลาที่ยังเป็นวัยรุ่นอย่าง อ.ชัชชาติ ในตอนนั้น รุ่น 2 ประตูคูเป้ และรุ่น 4 ประตู ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมแบบปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน แต่น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นรถคันจริงๆ ของอาจารย์ ว่ามันรุ่นไหนกันแน่
Corolla KE70 เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2522 โดยโฉมนี้ทำตลาดในระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 4 ปี และทางบริษัทก็มีการปรับโฉมใหม่ไปเป็น AE80 ซึ่งในขณะนั้น Corolla KE70 ยังคงเป็นรถเก๋งที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลังอยู่ สำหรับเครื่องยนต์ของรถในไทยนั้นมีแค่ 1.3 ลิตร มอบพละกำลังที่ 75 แรงม้า พร้อมจับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบ 4 สปีด
เครื่องยนต์อาจไม่ได้หวือหวาพิเศษกว่าคู่แข่งในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ช่วงล่างของ Corolla KE70 ก็ถือเป็นจุดขายได้ เพราะทางบริษัทได้เลือกใช้คอยล์สปริง 4 ล้อ ซึ่งในแง่ของสมรรถนะก็ตอบโจทย์กว่าช่วงล่างที่เป็นแหนบหลังเหมือนกับ Corolla รุ่นเก่าๆ ที่ขายมาก่อนหน้า อีกทั้งโฉมนี้ยังได้รับความนิยมเอาไปทำแท็กซี่อีกด้วย ทำให้อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ หาซื้อได้ง่าย ตลอดจนร้านซ่อมก็มีให้เลือกใช้บริการมากมาย
เพราะองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่ผลักดันทำให้ Corolla KE70 กลายเป็นรถยนต์รุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาที่ไม่แพง ขับง่าย อะไหล่มีเยอะแยะ อู่ไหนก็ซ่อมได้ มันจึงเป็นรถยนต์คันแรกของใครต่อใคร และดูเหมือนว่า อ.ชัชชาติ ก็ไม่ได้รับการยกเว้นในข้อนี้
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป
ในปัจจุบัน อาจารย์ยังคงชอบความเร็วอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่ว่าเปลี่ยนจากรถยนต์สี่ล้อไปสู่การวิ่งด้วยสองเท้าเป็นหลัก นอกจากนี้อาจารย์ก็ยังคงแอบซิ่งอยู่เล็กน้อยด้วยการปั่นจักรยาน ซึ่งตอนที่มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน หลังจากได้รับตำแหน่ง ก็ปรากฏชื่อของจักรยานรุ่น Specialized Tarmac S-Works Ultralight ซึ่งมีมูลค่าอยู่ถึง 150,000 บาท
ว่ากันว่ารถจักรยาน Specialized Tarmac S-Works Ultralight ได้รับการยกย่องว่าเป็นเหมือนซูเปอร์คาร์ของรถจักรยาน ซึ่งตัวรถมีน้ำหนักเพียงแค่ 6.07 กิโลกรัมเพียงเท่านั้น และน้ำหนักที่เบาของเฟรมรถและวงล้อคาร์บอน ถือว่าเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้รถมีราคาที่สูงนั่นเอง ยังไม่นับงานดีไซน์ออกแบบที่ดูพิเศษกว่ารถจักรยานทั่วไปในท้องตลาด
หากไม่ปฏิเสธตนเองเมื่อมีอายุที่มากขึ้น รูปแบบการใช้ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปให้เหมาะสมกับช่วงวัย ซึ่งในช่วงวัยรุ่น คุณอาจชื่นชอบการขับขี่รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ด้วยความบ้าระห่ํา แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น ความชื่นชอบนั้นจะคงอยู่เช่นเดิม เพียงแต่ว่าหากคุณจะทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงหรือบ้าระห่ํา ก็จะมีเรื่องของหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบต่างๆ ที่ค่อยดึงสติหรือความห้าวหาญลงไปนั่นเอง ยังไม่นับเรื่องสุขภาพที่ไม่ได้ดีเหมือนกับช่วงวัยรุ่นอีกด้วย
มันก็ไม่แปลกอะไรที่ได้เห็น อ.ชัชชาติ เลือกกิจกรรมการวิ่งออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต หากลองมองไปที่รายละเอียดต่างๆ ในการวิ่ง ก็พูดได้ว่าไม่ต่างจากการขับขี่ในช่วงวัยรุ่นของใครหลายๆ คนนั่นล่ะ เพราะตัวเลข pace ของอาจารย์อยู่ที่ประมาณ 5 (1 กม. จะใช้เวลาวิ่งประมาณ 5 นาที) ซึ่งเปรียบเทียบได้ว่ามีความซิ่ง ความแรงพอสมควรก็ว่าได้ หากมองเป็นรถยนต์ที่ใช้ขับขี่ก็ถือว่ามีสมรรถนะในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
อ้างอิง