ในบรรยากาศของการกางเต็นท์ ทำอาหาร นั่งสนทนาใต้ไฟสลัว นอนหลับเงี่ยหูฟังเสียงลม แมลง เหล่าแมกไม้ จากนั้นก็ปล่อยตัวให้แสงดาวโอบอุ้มหุ้มห่อยามค่ำคืน หรือที่เราเรียกว่าการพักผ่อนแบบแคมปิ้งนั้น มันไม่ใช่กระแสสังคมที่พุ่งพรวดและดับลงอย่างรวดเร็ว แต่เป็นวัฒนธรรมกลางแจ้งที่อยู่มานานนับแต่ต้นศตวรรษที่ 20 และพีคขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในภาวะโควิด-19
รายงานของ Kampgrounds of America (KOA) ระบุว่า ในปี 2020 อเมริกาเหนือมีผู้ตั้งแคมป์กว่า 94.5 ล้านราย โดยมีชาวอเมริกันกว่า 48.2 ล้านรายตั้งแคมป์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีดังกล่าว คิดเป็นผู้ตั้งแคมป์หน้าใหม่ถึง 10.1 ล้านราย กระแสเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งในยุโรปและเมืองไทย ข้อมูลจาก บริษัท เทรคกิ้งไทย จำกัด เผยว่าลานกางเต็นท์ของเอกชนมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นับเฉพาะในรัศมี 500 กิโลเมตรจากรุงเทพฯ จะพบลานกางเต็นท์กว่า 500 จุด และจุดหมายปลายทางสุดคลาสสิกคงหนีไม่พ้นชลบุรี
เราจะพบลานแคมปิ้งเปิดใหม่หลากสไตล์เกือบทุกอำเภอของชลบุรี ทิวทัศน์มากมายมีให้เลือก แม้เดือนเมษายนแห่งสยามประเทศจะขึ้นชื่อว่าอากาศร้อนหูดับตับไหม้ ทว่าจังหวัดริมทะเลก็ยังมีลมโกรกทั้งเช้าสายบ่ายเย็น มีแคมป์กราวด์มากมายรอให้จิ้มเลือกใช้บริการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกดับความอบอ้าว
แต่เราอยากคุยกับวัยรุ่นพื้นที่ถึงมุมมองวัยรุ่นต่อกระแสแคมปิ้ง เมื่ออุปกรณ์เท่ๆ มันแพงเหลือเกิน จะมีวิธีลิสต์ของยังไงให้เหมาะกับเงินในกระเป๋า โดยที่มุมมองของเติ้ล (23 ปี @chaleamp0ng) ทาม (23 ปี @timerscouser) และบ่เอิ้น (19 ปี @borernn) อาจทำให้เราพบว่าการแคมปิ้งหาใช่เรื่องยุ่งยาก ถ้าหากเราต้องการหลบลี้หนีสังคมเมืองจริงๆ
ช่วยเล่าประสบการณ์ตั้งแคมป์ครั้งแรกให้ฟังหน่อย
เติ้ล : ตอนนั้นประมาณ ม.5-6 ไปกับที่บ้าน ไปเขาใหญ่ ก็รู้สึกว่ามันลำบาก นอนพื้นก็แข็ง ตอนนั้นไม่เข้าใจว่ามันสนุกตรงไหน
ที่ทำให้เราไปต่อคงเป็นที่พ่อแม่ เพราะพ่อแม่ชอบไปแคมป์ เราก็ไปเรื่อยๆ กับเราเป็นคนชอบธรรมชาติอยู่แล้ว พอเราเริ่มไปเรื่อยๆ เราก็ซึมซับธรรมชาติมากขึ้น มันเริ่มมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราอยู่แคมป์ได้สบาย ไม่ลำบาก ทำให้เราเริ่มสนุกกับการไปตั้งแคมป์
ทาม : ประสบการณ์ครั้งแรก น่าจะเป็นช่วงเด็กๆ ไปกับที่บ้าน แต่มันคงไม่ได้ตั้งแคมป์แบบ full option เป็นเชิงๆ กางเต็นท์นอนตามอุทยาน ถ้าเป็น full option ก็ไปกับเพื่อนตอนโตมาหน่อยที่ราชบุรี
บ่เอิ้น : ตั้งแคมป์ครั้งแรก ไปกับเพื่อนๆ ไปที่ตั้งแคมป์ของเอกชน อยู่ไม่ไกลบ้านมาก มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ ทางที่ตั้งแคมป์ก็มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น พายเรือ ตีแบต ตกปลา ทำให้การตั้งแคมป์ครั้งแรกของผมสนุกมากและก็ผ่านไปได้ด้วยดี ถึงแม้จะมีหมามาคาบรองเท้าไป
เสน่ห์ของการตั้งแคมป์คืออะไร
เติ้ล : เอาจริงก็เริ่มตั้งแต่เราได้แพ็คของ ผมต้องบอกก่อนว่าอุปกรณ์แคมปิ้งมันเหมือนของสะสมที่เราได้เอาของที่เราชอบไปใช้ ซึ่งถ้าเราไม่ไปแคมป์ เราก็จะไม่ได้ใช้เลย อย่างเช่นตะเกียง และการได้ไปเลือกสถานที่ที่เราจะนอน เราเลือกนอนตรงไหนก็ได้ที่เราชอบ ทำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ได้เข้าถึงความสงบที่ต่างไปจากในเมือง
ทาม : การตั้งแคมป์มันให้ฟีลอยู่กับคนใกล้ตัว ไม่ต้องไปวุ่นวายอะไรกับใคร เตรียมตัวไม่ยาก สำหรับผมคือเต็นท์หลังนึง หมอนใบนึง ชุดเครื่องแต่งกายแค่นี้พอ ไม่ต้อง full option อะไรมากมาย
บ่เอิ้น : เสน่ห์คือการได้ไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ และได้อยู่กับธรรมชาติไม่ติดแหง็กอยู่กับสังคมเมือง
เช็คลิสต์สำคัญ ไอเทมที่ควรมีสำหรับมือใหม่ (ของที่มีแล้วดูโปร)
เติ้ล : เอาจริงๆ แค่มีเต็นท์ ถุงนอน ไฟสักดวง ก็สามารถแคมป์ได้แล้ว ที่เหลือก็จะเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เป็นเรื่องของกิเลสล้วนๆ
ทาม : อย่างแรกคือเต็นท์สำคัญสุด ที่นอน หมอน แล้วก็ไฟ เป็นพวกตะเกียง แล้วก็เก้าอี้ โต๊ะ ไว้นั่งทำกิจกรรมกัน ถ้า full option เขาก็จะมีที่ดริปกาแฟ ที่ทำอาหาร เครื่องครัว สำหรับผมก็ 3-4 อย่าง เต็นท์ ที่นอน ฟูก เก้าอี้ โต๊ะ แล้วก็ที่ดริปกาแฟ นิดๆ หน่อยๆ พอสมเหตุสมผล
บ่เอิ้น : ของที่สำคัญก็มีเต็นท์ ไฟพกพา ที่นอนพกพา อาหารที่ไม่เน่าเสียง่าย เก้าอี้ โต๊ะ แต่ก็มีไอเทมที่มีก็เฟี้ยวอย่างเช่น ตะเกียงวินเทจ เครื่องต้มกาแฟ อุปกรณ์เสริมต่างๆ
ทำอะไรกันบ้างในพื้นที่แคมปิ้ง
เติ้ล : ก็ไปดูธรรมชาติ ไปทำกิจกรรม outdoor ที่ทำให้เราได้เสพธรรมชาติมากขึ้น
ทาม : นั่งคุย เล่าเรื่องความหลัง เล่าอะไรไปเรื่อยเปื่อย คงเป็นเสน่ห์อย่างนึงของการตั้งแคมป์ มันทำอะไรไม่ได้มาก ก็นั่งล้อมวง ทำอาหาร เล่นกีต้าร์ ฟังเพลง กินเบียร์ อะไรประมาณนี้
บ่เอิ้น : ทำกิจกรรม outdoor กับเพื่อน เช่น เดินป่า เล่นน้ำ พายเรือ ตั้งแคมป์ ถ่ายรูป ทำอาหาร นั่งเล่าเรื่องต่างๆ แล้วก็เข้านอน
มีเมนูโปรดเวลาตั้งแคมป์ไหม
ทาม : ต้มมาม่า เอากามาต้มมาม่า ทอดไข่ กินง่ายๆ
บ่เอิ้น : ไข่ดาว เพราะเป็นอาหารที่ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก
เติ้ล : ผมทำอาหารไม่เป็น ก็จะหามาจากข้างนอก กินมาจากข้างนอกให้เรียบร้อย แต่เมนูเด็ดที่ชาวแคมป์จะต้องกินก็คือหมูกระทะเลยครับ เพราะเดี๋ยวนี้สถานที่ตั้งแคมป์ส่วนใหญ่ เขาก็จะเตรียมขายไว้ให้นักท่องเที่ยวที่มาแคมป์
ถ้าชอบฟังเพลงหรือเล่นดนตรีตอนแคมป์ ขอลิสต์สัก 4-5 เพลง
เติ้ล : เอาจริงๆ เพลงก็ฟังได้ทุกแนวนะแล้วแต่คนจะชอบแนวไหนเลย แต่ถ้าจะให้แนะนำเพลงที่ฟิลเข้ากับบรรยากาศตั้งแคมป์ ก็คงเป็นแนว folk song ที่ชิวๆ
อันนี้ศิลปินที่ชอบฟังนะ selina and sirinya, Natural walkway, uncle tree, เขียนไขและวานิช, WHATFALSE
https://www.youtube.com/watch?v=j3DigipQ_hQ
ทาม : ข้อนี้สำคัญจัดถ้าเราไปตั้งแคมป์ คงต้องใช้เพลงฟีลแคมป์อะเนาะ ได้ทุกเพลงครับ แล้วแต่เรา แต่คงต้องเป็นดนตรีแนว folk แนวอินดี้ แนวที่ฟังแล้วฟีลมันได้ เพลย์ลิสต์ของเราคงเป็นพวกเขียนไขฯ, คณะขวัญใจ, WHATFALSE, สุขเสมอ, ธาดา หลายวงเลย
https://www.youtube.com/watch?v=VXk9dipXgTg
บ่เอิ้น : เพลงที่สามจากซ้ายมือ, รักสบาย, กลัวใจ, เกลียดฤดูฝน, ยิ้มแย้มแก้มแดง
https://www.youtube.com/watch?v=eaUhi6b8jRw
คิดว่าการตั้งแคมป์แตกต่างจากการพักผ่อนรูปแบบอื่นยังไง ทำไมไม่ไปพักผ่อนสบายๆ ในรีสอร์ทหรือโรงแรม
เติ้ล : ทุกวันนี้เวลาเราไปเที่ยว เราทำอะไรชีวิตมันก็ง่าย แล้วดูเร่งรีบไปหมด แต่การไปแคมป์ทำให้เราได้ค่อยๆ กางเต็นท์ ค่อยๆ จัดที่พักตามที่เราชอบ ทำให้เราได้ใช้ชีวิตช้าลง ค่อยๆ ทำนู่นทำนี่ ให้เราได้อยู่กับตัวเอง ได้ทำให้เราเข้าใกล้ธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เปิดเต็นท์ไปก็เจอเลยครับ ใกล้ชิดมาก
ทาม : มันไม่สบายกว่านอนโรงแรมแน่นอน แต่เหมือนได้อยู่กับตัวเอง ได้ใช้ชีวิตใกล้กับธรรมชาติ ได้ฮีลใจ นอนเต็นท์มันไม่สบายอยู่แล้ว อากาศบ้านเรามันก็ร้อน แต่เหมือนเราได้ทำอะไรที่ adventure กว่าชีวิตปกติ
บ่เอิ้น : ตั้งแคมป์มันน่าตื่นเต้นมากกว่าและเรารู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ แล้วมันก็มันกว่าไปนอนโรงแรม และพอกลับไปก็จะมีเรื่องเล่ามากมาย
ทำไมต้องคุยเรื่องชีวิตท่ามกลางธรรมชาติและแสงตะเกียง
บ่เอิ้น : มันให้ความรู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องเครียดในสังคมเมืองครับ
ทาม : ยิ่งโตเราก็รู้สึกว่า ไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวาย มานั่งคุย 3-5 คน แล้วแต่กลุ่มที่เราไป คุยกันเรื่องอดีต มันเหมือนได้ปลดทุกข์สำหรับแต่ละคน เหมือนทุกคนมีเรื่องเครียดอยู่แล้ว สำคัญคือมานั่งคุยเงียบๆ กับธรรมชาติ ถ้าไปนั่งร้านเหล้ามันก็ไม่ใช่
เติ้ล : คงเพราะเราได้ไปกับเพื่อนสนิท คนที่รู้ใจ ได้ไปใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ชีวิตมันไม่ต้องมีอะไรมาก มันก็มีความสุขแล้ว มีแค่เรา ธรรมชาติ เพื่อนฝูง แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ
ถ้าเปรียบเป็นการชาร์จแบต แคมปิ้งชาร์จไฟเรามากน้อยกี่เปอร์เซ็นต์
เติ้ล : 100% เลยครับ
ทาม : เอาไปสัก 80-90% พลังใจนะ อีก 10% 5% อาจจะติดร้อน ติดลำบากนิดหน่อย
บ่เอิ้น : 90% อีก 10% เหนื่อยเก็บแคมป์
มองว่ากระแสแคมปิ้งในชลบุรีมีแนวโน้มยังไง มันเติบโตควบคู่กับวัฒนธรรมกลางแจ้งแบบอื่นรึเปล่า
เติ้ล : มีแนวโน้มที่ดีนะในชลบุรี เพราะชลบุรีมีทิวทัศน์ที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นทะเล ภูเขา ลำธาร อ่างเก็บน้ำ มีหมดเลย ชลบุรีมีที่สวยๆ เยอะ ไม่แพ้จังหวัดอื่นเลย คิดว่าเติบโตนะ เพราะเวลาเราไปกลางเต็นท์ เราก็จะหากิจกรรมทำ กิจกรรมที่ทำก็จะอยู่ละแวกเต็นท์ พวกกิจกรรม outdoor พาย sup board ได้ไปเห็นธรรมชาติในมุมที่แปลกใหม่มากขึ้น
ทาม : ตอนที่แคมป์ใหม่ๆ บ้านเรายังไม่มีเอกชนเปิดเยอะขนาดนี้ ชลบุรีมีทั้งป่าทั้งทะเล ใกล้กรุงเทพฯ ครบเครื่อง อากาศถึงจะร้อนบ้างหนาวบ้าง แต่มันก็เติบโต ยิ่งแถวบ้านผม (บางพระ) มีลานเพิ่มเยอะมาก
บ่เอิ้น : ผมคิดว่ามีสิทธิที่จะเติบโตได้มากขึ้นอีก แต่อาจจะเป็นแค่บางช่วงฤดู ถ้าเกิดว่ามีสถานที่แคมป์แปลกใหม่มาก็ไม่แน่
ถ้าเคยตั้งแคมป์ริมทะเล ช่วยเล่าเสน่ห์ของมันหน่อย
บ่เอิ้น : มันมีลมทะเลพัดตลอด มีวิวทะเลที่กว้างใหญ่มองยังไงก็ไม่สิ้นสุด
ทาม : เคยแต่ไปนั่งกินฟีลแคมป์ริมทะเล แล้วกลับมานอนบ้าน ตัวก็จะเหนอะๆ หน่อย
เติ้ล : ยังไม่เคยตั้งริมทะเล แต่คิดว่าสนุก เพราะไปแคมป์แต่ละที่ไม่เหมือนกันเลย ที่เดียวกันแต่กางคนละจุด ก็ยังให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีเสน่ห์ในแบบของมัน
ไอเทมแคมปิ้งมันราคาแพงอะ มือใหม่งบน้อย ทำไงดี
เติ้ล : มือใหม่อาจจะยังไม่ต้องซื้อก็ได้ครับ เดี๋ยวนี้ที่แคมป์เขาก็จะกางไว้ให้เราเช่าเลย เราก็ลองไปเช่าดูก่อน ลองไปพักแบบนั้นดูก่อนก็ได้ เราจะได้รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบการแคมปิ้ง ถ้าเราชอบ เราก็ค่อยจัดเลยครับ ถ้าไม่ชอบ เราก็จะไม่ต้องเสียตังค์ซื้อ
ทาม : เอาตรงๆ มันไม่เกี่ยวนะราคาแพงราคาถูก มันเพราะกระแสโซเชียลมากกว่า ความจริงเก้าอี้ เต็นท์ มันใช้ได้เหมือนกันหมด เหมือนของตกแต่งบ้าน งบน้อยก็เอาของที่จำเป็นก่อน
บ่เอิ้น : มือใหม่ก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้ของราคาแพง แต่เราสามารถเลือกซื้อของจากแหล่งขายของทั่วไปแล้วเอามาปรับใช้กับการตั้งแคมป์ก็ได้
แนะนำที่ตั้งแคมป์ในชลบุรี
เติ้ล : เอาจริงๆ ชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีที่ตั้งแคมป์เยอะมากและก็หลากหลายมากจริง ๆ ตั้งแต่ทะเล ภูเขา อ่างเก็บน้ำ ลำธาร จนไปในป่าเลย คือถ้าให้แนะนำ ก็มีตั้งแต่สัตหีบ เป็นทะเลไล่มาถึงบางพระ ถ้าเขาเขียว แถวนั้นก็จะเป็นลำธาร เป็นภูเขา ไปบ้านบึงก็จะเป็นอ่างเก็บน้ำหนองน้ำเขียว ที่บ่อทองก็จะเป็นในป่า ถ้าใครสนใจเรื่องกางเต็นท์จะมี facebook page นึงชื่อ จุดกางเต็นท์ สนใจก็ลองดูได้
ทาม : มีเกลื่อนมากตอนนี้ แถวเขาเขียวมี 4-5 ที่ ริมทะเลก็แถวสัตหีบ จำชื่อไม่ค่อยได้ แต่ถ้าแนะนำก็ของอาผมเลย We Camping เขาเขียวครับ
บ่เอิ้น : หาดนภาธาราภิรมย์ (หาด EOD)
อยากฝากอะไรถึงวัยรุ่นที่ยังไม่เคยแคมปิ้ง
เติ้ล : ก็ลองไปดูกันครับ คุณอาจจะหลงรักธรรมชาติ กลายเป็นชาวแคมป์ตัวยงก็ได้
บ่เอิ้น : อาจจะติดใจก็ได้นะ
ทาม : ของพวกนี้อยู่ที่ความชอบส่วนบุคคล ถ้าไม่เคยลอง แต่อยากจะลองสักครั้ง อาจชอบก็ได้ อยากให้ทุกคนลองดู อาจจะชอบแล้วเปลี่ยนมุมมองลบที่ว่าตั้งแคมป์มันลำบากก็ได้ครับ