Identity

เพราะเรื่องเซ็กซ์ไม่จำเป็นต้องพูดในที่ลับ! ‘DAY/DM CAFE’ พื้นที่แห่งการปรึกษา ที่ชวนเปิดบทสนทนา (เรื่องเพศ) ตั้งแต่ตอนกลางวัน

บ่อยครั้งเหลือเกินที่เรื่องเพศถูกมองว่าเป็นเรื่องน่าอาย เวลามีใครยกหัวข้อนี้ขึ้นมาในบทสนทนา ก็คงมีบ้างที่จะแสดงท่าทีขัดเขิน หัวเราะ หรือไม่นำไปคิดเป็นจริงเป็นจัง และยังมีผู้คนอีกมากที่มีความรู้เรื่องเพศน้อยเกินจำเป็นเสียจนน่าตกใจ – นี่คือผลพวงของการทำให้เพศเป็นเรื่องต้องห้ามมานานหลายช่วงอายุคน

แต่ในปัจจุบัน ประเทศไทยของเราก็มีสถานที่แห่งหนึ่งที่เปิดให้ผู้คนมาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้ตอนกลางวันแสกๆ ในรูปแบบของร้านกาแฟขนาดเล็ก

เพียงแค่เปิดประตูเข้าไปใน ‘Day/DM Cafe’ คาเฟ่อายุขวบปีแห่งหนึ่งในย่านเยาวราช เราก็จะได้ยินคำต้อนรับ และรอยยิ้มจาก ‘เอช’ – ประติมา รักษาชนม์ และ ‘แต๋ม’ – วิสุทธิ์รัตน์ รุ่งนพคุณศรี คู่รักนักเพศวิทยา อาจารย์พิเศษด้าน Sex Innovation และเจ้าของ ‘คาเฟ่พูดเรื่องเพศ’ แห่งนี้ ซึ่งถือเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ และจุดเชื่อมโยงผู้คนจากทุกคอมมูนิตี้ที่ต้องการจะปรึกษาเรื่องเพศ ทั้งสองคนเน้นย้ำกับเราตั้งแต่เนิ่นๆ เลยว่า ‘ที่นี่ต้อนรับทุกคนจริงๆ’

จากผู้ให้คำปรึกษา สู่การสร้างพื้นที่สบายใจในการคุยเรื่องเพศ

บทสนทนาสบายๆ เริ่มต้นขึ้นบนโต๊ะทรงกลมพร้อมโกโก้เย็นรสกลมกล่อมฝีมือคุณแต๋ม และของประดับร้านที่สรรค์สร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนของเล่นผู้ใหญ่ เราจึงหยิบมันขึ้นมาพูดคุยกับทั้งสองคนถึงความสนใจในด้านนี้ ที่ทำให้พวกเขาได้กลายเป็นนักเพศวิทยาเต็มตัว จนมาเปิดคาเฟ่เพื่อโอบรับทุกคนที่ต้องการที่พึ่งพิงเรื่องเพศโดยเฉพาะ

“ด้วยความที่เราเป็นเพศหลากหลายคนหนึ่งที่ต้องการมีความสุขทางเพศ เรากับน้องแต๋มก็ศึกษาเกี่ยวกับเซ็กซ์ทอย และสั่งมาลองใช้ แต่ปรากฏว่ามีอยู่ชิ้นหนึ่งที่ใช้งานไม่ได้ ส่งเสียงดังผิดปกติมากๆ เหมือนว่ามีชิ้นส่วนภายในที่หลุดออกมาจากแผง มันทำให้รู้สึกว่า ชีวิตของเราอยู่บนความเสี่ยง ไม่มีความปลอดภัยเลย เพราะเซ็กซ์ทอยยังไม่ถูกกฎหมาย และไม่มีการควบคุมคุณภาพสินค้าประเภทนี้ด้วย” คุณเอชเกริ่นก่อนคุณแต๋มที่นั่งอยู่ข้างกันจะเสริมขึ้นมาว่า

“หลังจากนั้นเราก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกของมัน พอเกิดเป็นความสนใจขึ้นมาก็มีเป้าหมายว่า อยากให้หลายๆ คนได้รู้ว่า เซ็กซ์ทอยมันมีแบรนด์นะ มีวิธีการตรวจเช็กด้วยว่า คุณภาพดีหรือไม่ดี เพราะอย่างนั้นเราจึงให้คำปรึกษากับเพื่อนเรื่องนี้ และขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ทั้งในแง่ของคน และขอบข่ายเรื่องที่ปรึกษาค่ะ”

“ส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเปิดคาเฟ่ก็เพราะมีคนเข้ามาปรึกษาค่อนข้างเยอะ และเวลาศึกษาหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็เกิดการตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อมูลนี้ถูก ประกอบกับตอนนั้นน้องแต๋มอยู่ในแวดวง BDSM และรู้จักกับแอดหมา เพจ Thailand BDSM ที่สอนคอร์ส Clinical Sexologist ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เลยเกิดเป็นไอเดียขึ้นมาว่าหรือต้องไปเรียน? จากนั้นก็สมัครเรียน และได้เป็นนักเพศวิทยา เพื่อส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องต่อไปค่ะ” คุณเอชเล่าต่อ

“การแก้ความเชื่อที่ผิดมันยากกว่าการปลูกฝังความรู้ใหม่ เพราะฉะนั้น ถ้าเราให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง ลูกค้าจะปลอดภัย อย่างน้อยก็มีชุดความคิดที่เปิดโลกทัศน์ และรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อเซฟตัวเอง” – เอช

“มีครั้งหนึ่งพวกเราได้ไปเข้าร่วม Workshop ซึ่งจัดในบาร์ ส่วนตัวเรารู้สึกกระอักกระอ่วนเพราะไม่ชอบบุหรี่ แสง หรือผับบาร์ มันทำให้รู้สึกว่า คอนเทนต์เรื่องเพศเข้าถึงได้ยาก ถ้าไม่ใช่ในสถานที่แบบนี้ ซึ่งเราไม่ออกจากบ้านหลัง 6 โมง (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าควรจะทำอะไรสักอย่างให้การเรียนรู้เรื่องเพศเข้าถึงง่าย แล้วก็อยากสร้างพื้นที่ให้กับคนที่ไลฟ์สไตล์เหมือนกับเรา จุดประสงค์แรกคือ จะสร้างเป็นสเปซให้คนมาพูดคุย และทำ Workshop เฉยๆ แต่คิดไปคิดมาก็อยากกินกาแฟด้วย เราเลยคุยกันว่าทำเป็นร้านกาแฟไหม จะได้เปิดบทสนทนากับลูกค้าง่ายขึ้น กลายมาเป็นคาเฟ่อย่างที่เห็นทุกวันนี้ค่ะ”

พื้นที่สบายใจในตอนกลางวัน และ HUB สำหรับสุขภาวะทางเพศในช่องแชท

“ชื่อ Day/DM มาจาก Day ที่แปลว่าเวลากลางวัน เพราะเราเป็นพื้นที่ที่เปิดให้พูดเรื่องเพศในตอนกลางวัน ขัดกับปกติที่เพศหรือเซ็กซ์มักจะถูกทำให้เป็นเรื่องลับๆ ที่พูดคุยหรือทำกันในตอนกลางคืน ซึ่งเรามองว่าเรื่องนี้สามารถเอามาคุยกันได้ตลอดเวลา อันนี้ก็เป็นที่มาของดีไซน์ร้านด้วยที่ตกแต่งให้มีลักษณะแบบบ้าน คนที่เข้ามาจะได้รู้สึกเหมือนมาบ้านเพื่อน ประกอบกับความชอบของพวกเราสองคนที่ตรงกับสีเอิร์ธโทน เฟอร์นิเจอร์ไม้ เอชเองก็เคยพูดว่า “ในเมื่อคนที่อยู่ที่นี่เยอะที่สุดก็คือเจ้าของร้านอย่างเรานะ งั้นก็ทำแบบที่เราสบายใจดีกว่าไหม” พอบรรยากาศมันดูสบาย ดู Relax คนที่เข้ามาปรึกษาก็จะได้รู้สึกสบายใจ นั่งได้นานๆ ค่ะ“ แต๋มกล่าว

“ส่วน DM ก็คือ Direct Message คนที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่ร้านก็สามารถขอคำปรึกษาทาง DM ได้ ในเร็วๆ นี้เราจะรวมทีมนักเพศวิทยา และสหวิชาชีพที่มีองค์ความรู้กว่า 10 คนมาสื่อสารประเด็นเรื่องเพศในแอคฯ Day/DM Consultant รับให้คำปรึกษาเป็นจริงเป็นจังเลยค่ะ อาจจะมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยสำหรับเคสที่มีความซับซ้อน อย่างเช่น โรค Vaginismus ที่ต้องการความช่วยเหลือเฉพาะด้านจริงๆ เพราะฉะนั้นก็จะมีทั้งเครือข่ายในลักษณะของสังคม และการแพทย์ด้วย เราวางตัวเองเป็น Hub ที่ตอบโจทย์ปัญหาเรื่องสุขภาวะทางเพศค่ะ น่าจะเปิดเต็มตัวภายในเดือนหน้า (กรกฎาคม)”

ทีมนักเพศวิทยาที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับ ‘เพศ’

“นักเพศวิทยาของร้านเรามีทั้งหมด 5 คนค่ะ ก็คือพวกเราที่เป็นเจ้าของร้าน และเพื่อนอีก 3 คน พวกเพื่อนๆ ก็จะผลัดกันมาที่ร้าน หรือถ้ามีคนขอนัดคิวมาก็จะดูว่าเคสนี้ตรงความถนัดของใคร แต่ถ้าเคสไหนเกินขอบข่ายที่เราสามารถให้คำปรึกษาได้ ก็จะส่งต่อให้กับคนอื่นๆ ในเครือข่ายต่อไปค่ะ อาจจะเป็นเพื่อน รุ่นพี่ หรือคลินิกที่รู้จักกัน และคัดกรองมาแล้ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราก็ให้คำปรึกษาไปก่อนได้แบบเบื้องต้น ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องเซ็กซ์ หรือเซ็กซ์ทอย แต่รับปรึกษาในเรื่องของอัตลักษณ์ทางเพศ ความสัมพันธ์ ครอบครัว และ Self-esteem ด้วย เยอะมากที่มีเคสประมาณนี้เข้ามาค่ะ”

WORKSHOP ดีไซน์พิเศษ เพื่อเป็นพื้นที่ทดลองเรื่องเพศ

นอกจากทีมนักเพศวิทยาแล้ว อีกไฮไลต์เด่นของทางร้านก็คือ Workshop ที่หาไม่ได้จากร้านทั่วไป เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ได้มีกิจกรรมพิเศษ Bangkok Pride Photo Workshop ที่ร่วมมือกับช่างภาพผู้ผลักดันสิทธิมนุษยชนของกลุ่มคนเพศหลากหลาย ‘จูน’ – วรรษมน ไตรยศักดา แต่ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ Sessions เกี่ยวกับเซ็กซ์ทอย การวาดภาพนู้ด และ BDSM ซึ่งได้มีการเปิดให้ผู้คนได้เข้ามาทดลองเอาประสบการณ์เป็นรอบๆ ไป

“เราอยากให้สิ่งที่เรียนมาได้กระจายออกไปนอกวงของคณะแพทยศาสตร์ ก็เลยเริ่มดีไซน์ Workshop ขึ้นมาโดยเริ่มจากเรื่องที่ถนัดก่อน ก็คือเซ็กซ์ทอย เพราะเป็นเรื่องที่ถนัด และทำให้เราเป็นที่รู้จักด้วย จุดประสงค์คืออยากให้ทุกคนเปิดใจว่า ใครๆ ก็สามารถมีความสุขทางเพศได้ มันเป็นเรื่องของสุขภาพ เราก็เอาสิ่งที่สอนในคอร์ส Sexology มาปรับให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย กลายมาเป็น Workshop แรกของทางร้าน ก่อนจะดีไซน์เพิ่มขึ้นมาอีก เช่น Workshop BDSM แล้วก็วาดภาพนู้ด”

“Workshop ที่เราจัดขึ้นมา ทั้ง BDSM และวาดภาพนู้ด เราวางไว้ให้มันเป็นพื้นที่ทดลอง ไม่ใช่สำหรับเพื่อ Educate อย่างเดียว เช่น วาดภาพนู้ด ผู้ที่มาเข้าร่วมก็ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านศิลปะ เราจัดเพื่อให้ได้วาด และสะท้อนความคิดกับตัวเองว่า มองแบบเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า ส่วน BDSM ก็จัดเพื่อให้คนมาทดลองประสบการณ์ เพราะการเพลย์มันต้องมีคนมาเล่นด้วย แต่การจะหาคนที่ไว้ใจมาร่วมเพลย์ไม่ใช่เรื่องง่าย อาจจะไม่ปลอดภัย ก็เลยร่วมมือกับเพื่อนที่มีองค์ความรู้ตรงนี้ เปิดให้คนได้ลองเข้ามาสำรวจตัวเองว่า ชอบแบบไหน ปฏิเสธอย่างไร และให้ความรู้โดยทีมกฎหมายของเราว่า ถ้าถูกกระทำโดยไม่ยินยอมจะเรียกร้องอย่างไรได้บ้าง”

คุณเอชและคุณแต๋มเล่าต่อไปถึงกลุ่มคนที่ลงทะเบียนมาร่วมค้นหาตัวเองกัน ณ พื้นที่แห่งนี้ ซึ่งมีหลากหลายช่วงอายุ ตั้งแต่เจนฯ Z ไปจนถึงเจนฯ X แถมยังมีทั้งกลุ่มคนรักต่างเพศ และ LGBTQ+ เรียกได้ว่ากว้างขวางเลยทีเดียว

“มีคนที่แสดงออกชัดเจนว่าเป็นเพศหลากหลายค่อนข้างเยอะเลยค่ะ บางคนก็พาแฟนมาด้วย เราอยากทำให้ตรงนี้เป็น Safe Zone สำหรับทุกคน เราต้อนรับคนทุกเพศจริงๆ เพราะนี่ไม่ใช่คอมมูนิตี้เฉพาะสำหรับใคร ในอนาคตก็อยากจัด Workshop อื่นๆ อีก เช่น ปั้นอวัยวะเพศ ภาษารัก มีอีกเยอะเลยค่ะ”

พื้นฐานความรู้เรื่องเพศที่ดี ‘ต้อง’ มาจากระบบการศึกษา

“ในมุมของเราที่เป็นนักเพศวิทยา และทำงานสายการศึกษามาก่อน เรามองว่า สิ่งที่สังคมควรจะแก้ไขโดยเร็วก็คือ เพศศึกษา ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญมากๆ เลยค่ะ เรื่องบางอย่างถ้ารู้ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น มันก็จะเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้คนได้ หลายๆ คนก็คงจะมีความรู้จนไม่ต้องมาขอคำปรึกษาจากเราด้วยซ้ำ ทุกวันนี้บางคนก็ยังไม่รู้ว่ายาคุมกินอย่างไร หรือกินยาคุมแล้วยังกินยาคุมฉุกเฉินซ้ำอีกด้วยความกลัว และไม่รู้ ทั้งที่มันเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ”

“เรามองว่าการให้ความรู้ตรงนี้สำคัญเป็นอันดับหนึ่งเลยค่ะ การศึกษาเป็นประตูด่านแรกสุดที่ควรจะแก้ไขให้ถูกต้อง และไม่สร้างบาดแผลให้กับเด็กเหมือนที่ผ่านมา” – แต๋ม

“เพราะว่าใส่ใจในการศึกษา และอยากทำให้ความรู้กระจายไปทั่วถึงจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องการทำแท้ง การคุมกำเนิด หรืออะไรก็ตามที่เด็กมีสิทธิ์จะเข้าถึง เราก็เลยทำองค์กร NGO ขึ้นมา ชื่อ ‘ไข่คน’ เพื่อให้ความรู้องค์รวม และพัฒนาหลักสูตรในเรื่องของเพศศึกษา หลักๆ เราจะนำข้อมูลที่ถูกต้องมาสื่อสาร ให้ครูได้สอนในสิ่งที่ใช่ และเกิดผลประโยชน์ต่อตัวนักเรียนจริงๆ ที่สำคัญคือ หลักสูตรของเราจะมีความถูกต้อง สนุก และไม่ตีตราตัดสิน ผลักดันให้เกิดการตระหนักรู้เรื่องสิทธิทางเพศด้วย ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่อย่างน้อยที่สุดก็อยากให้คนรู้ว่ามีองค์กรเกี่ยวกับเพศศึกษาอยู่ค่ะ”

นอกจากนี้คุณเอชยังเสริมอีกด้วยว่า ที่ตั้งชื่อว่า ‘ไข่คน’ ก็เพราะเราทุกคนมีไข่ ไม่ว่าจะเป็นไข่ที่หมายถึงถุงอัณฑะ หรือรังไข่ สมบูรณ์หรือไม่ มนุษย์ทุกเพศก็มีไข่เหมือนกัน ไม่เว้นแม้แต่ Intersex (ผู้ที่มีลักษณะทางเพศ อวัยวะเพศ หรือโครโมโซมที่ไม่ตรงกับเพศชาย หรือหญิง) ตอนนี้องค์กรยังอยู่ในขั้นตอนของการเริ่มต้น แต่ว่าครอบคลุมถึงคนทุกกลุ่มตั้งแต่ชื่อเรียก สมกับที่เป็นเจ้าของคาเฟ่แห่งนี้จริงๆ

แค่โยนทิ้งทุกกรอบความกลัว เดินเข้ามา ก็พร้อมให้คำปรึกษาเสมอ

“ถ้ายังไม่รู้จะคุยกับใคร มาคุยกับเราก็ได้ค่ะ อยากให้คุณมาคุยกับเรานะ จะได้ท้าทายความคิดของตัวเองด้วยว่า ความไม่กล้าพูดคุยนั้นมาจากตรงไหน และปัญหานั้นจะถูกคลี่คลายเพราะความสงสัยได้ ไม่สำคัญว่าคุณเป็นใคร เราจะพูดกับคุณด้วยโทนที่เป็นมนุษย์ ยังไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องเพศทันทีก็ได้ แค่ก้าวเข้ามาคุณก็เก่งมากๆ แล้วที่ทุบกรอบของตัวเองออกมา ยินดีต้อนรับเสมอ”

หากใครอยากจะแวะมาจิบกาแฟ พูดคุยปรึกษากับคุณเอช คุณแต๋ม และกลุ่มนักเพศวิทยาประจำร้าน สามารถเดินทางไปโดยรถไฟฟ้า MRT ลงสถานีวัดมังกร คาเฟ่ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลเจ้าหลีตี้เมี้ยว เมื่อถึงแล้วจะเจอกับสถานที่อันอบอุ่น เรียบง่าย และปราศจากคำตัดสิน ที่มีชื่อเรียกว่า ‘Day/DM Cafe’

ติดตาม Day/DM Cafe ได้ที่

Facebook: Day/DM Cafe
Instagram: daydm_cafe
Twitter: Daydm_Cafe / Day/DM Consultant