สำหรับเดือนแห่ง Love & Sex Education นี้ บทกาลเรื่องราวของความรัก (Love) คงต้องยกให้นักเขียนท่านอื่นจัดการไป พอมาถึงเรื่องของ Sex ทางเราได้คว้าหมับเอาไว้จองตัวเอาไว้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดือนกุมภาพันธ์
BDSM เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ผมสนใจมาตลอด ครั้งแรกที่ได้ใกล้เคียงกับเรื่องราวของ BDSM มากสุดคงจะเป็นการได้ทำงานกับ Unnamedminor หญิงสาวนักมัด Shibari ที่เป็นประตูบานแรกของการได้รู้จักกับ Sub-Culture นี้อย่างจริงจัง ครั้งแรก
ผมรวบรวมความกล้าเพื่อเข้าสู่โลกของ BDSM อีกครั้งด้วยการข้อความติดต่อขอพูดคุยกับ Mistress Midori นายหญิงระดับตำนานแห่ง House of Dominance เธอให้การตอบรับเป็นอย่างดีจนกระทั่งเราได้มาถึงที่ดันเจี้ยนลับใจกลางเมือง แต่เธอกลับปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์พร้อมยกหน้าที่นี้ให้กับ Mistress Crystal ที่เป็นถึง Mistress มือวางอันดับสองของดันเจี้ยนแห่งนี้ ด้วยเหตุผลที่เธอเกรงว่าบริบททางสังคมที่เธอเติบโตขึ้นมา มันอาจจะไม่ตรงกับภาพของสังคมปัจจุบันแล้ว เธอจึงให้ Mistress รุ่นใหม่เป็นตัวแทนดีกว่า ส่วนเธอจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแทน
ผมจึงได้เริ่มวางเครื่องอัดเสียงและเริ่มต้นบทสนทนาในวันนี้
“คิดว่าผมเป็น Dominatrix หรือ Submissive”
เธอปรายมองเราอย่างถ้วนถี่ถึง 2 ครั้ง “มักเกิ้ล” (หัวเราะ)
อาจจะต้องบอกกันเสียก่อนว่าบทสัมภาษณ์นี้ คงจะไม่พูดถึงเรื่อง BDSM คืออะไร? ย่อมาจากอะไร? แต่จะเป็นเรื่องราวของคนที่มีรสนิยม BDSM ที่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้นเธอหาได้เงินจากสิ่งที่เธอรัก อิจฉาไหมละ
House of Dominance
กว่าจะเป็น Mistress Crystal
“รู้จักคำว่า BDSM มาตั้งแต่เด็ก เพราะอ่านเจอในการ์ตูน ก็เกิดความสนใจแต่ปัญหาคือไม่รู้ว่าจะต้องไปค้นหาหรือศึกษาเรื่องราวเหล่านี้จากที่ไหน จนมีวันหนึ่งเพื่อนมาชวนเข้าคอมมูนิตี้ BDSM คงเพราะเห็นว่าเราเป็นคนที่โลกกว้างประมาณหนึ่ง รับรู้อะไรแล้วเข้าใจง่าย open-minded เขาเลยชวนเราไป จนกระทั้งได้เข้าไปทำความรู้จักกับเรื่องพวกนี้จริงๆ เหมือนเลเวลมันก้าวกระโดดเลย เรามีความเข้าใจโลก BDSM มาประมาณหนึ่งแล้ว เราเห็นสังคมการเพลย์ การทำข้อตกลง ความปลอดภัย ภาพมันไม่ได้โหดร้าย รุนแรง แบบในภาพจำที่เคยผ่านๆ มา แต่มันคือการทำอะไรที่เป็นระบบ”
“ช่วงแรกที่เข้าไปเหมือนได้เข้าค่ายลูกเสือเลย ฐานผูกเงื่อน ฐานจุดไฟ (หัวเราะ) เราเข้าไปลองในบทบาทของ Submissive (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า Sub) มันก็สนุกดี แต่พอถึงเวลาเราได้ลองบทบาท Dominance (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า Dom) มันเบิกบาน ใจฟู เหมือนเห็นแสงสว่างขึ้นมาทันที เราเลยรู้สึกว่าการที่ได้ก้าวเข้ามาในวงการนี้มันเกิดมาจากการทดลองอะไรใหม่ๆ การค้นหาตัวเอง ซึ่งในแต่ละเจเนอเรชันมันก็จะแตกต่างออกไป อย่าง Mistress Midori ที่เป็นเจ้าของดันเจี้ยนแห่งนี้ เธอก็พบตัวตนจากการเกเร อยากเอาชนะผู้ชาย จนค้นพบตัวตนและเส้นทางที่ทั้งหมดก็ต้องใช้เวลาจากบริบทสังคมในยุคนั้น ซึ่งมันก็จะแตกต่างกันไป”
ความยินยอม ทาส และความรัก
“คนจะชอบเข้าใจว่า Dom จะต้องดุ ต้องขี้โมโห หงุดหงิด ทำร้ายคนอื่น แต่จริงๆ แล้ว หัวใจของ BDSM มันคือ Consent (ความยินยอม) เราไม่ได้ไป BDSM เรี่ยราดใส่ใคร มันมีช่วงเวลาของการเพลย์ที่ได้ตกลงกันเอาไว้ระหว่าง Dom กับ Sub เล่นเวลาไหน เล่นกันแบบไหน ทำอะไร ไม่ทำอะไร ระดับของการเพลย์ที่ต้องมีจังหวะของมัน คนที่เข้ามาเพลย์ก็จะต้องมั่นใจในการกระทำของตัวเองว่าอยากเล่นจริงๆ พร้อมรายละเอียดอีกเยอะมาก ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ไปทำแบบนี้เรี่ยราดกับใครแน่ๆ กับคนอื่นที่อยู่เหนือการเพลย์เราก็ยังเคารพสิทธิ เสรีภาพ ให้เกียรติกันปรกติ
เพราะส่วนตัวของเราแล้ว เราไม่ได้ชอบเรียกใครว่าเป็นทาสด้วย ไม่ได้อยากกดใครให้ดูต้อยต่ำหรือไร้ศักดิ์ศรีขนาดนั้น แต่เราเป็นผู้กระทำและผู้ถูกกระทำของกันและกัน”
คงเพราะคำว่ากันและกัน ที่ผมเห็นถึงความโรแมนติกในการเพลย์ของเธอ ผมเลยเอ่ยคำถามนี้ออกมา “เคยตกหลุมรักทาสไหม”
“แน่นอน ทุกวันนี้ก็เป็นแฟนกันอยู่ จริงๆ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมฯ พอเข้ามหาลัยก็ห่างหายกันไป จนเราเห็นผู้หญิงคนนึงใน Facebook ก็สวยอยู่แต่ทำไมคนนี้หน้าคุ้นๆ จัง เลยลองทักไปคุยดูสรุปว่าเป็นเพื่อนเราจริงๆ เราก็เปิดตัวตั้งแต่แรกเลยว่าเป็น Dom นะ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเขาเป็น CD (Cross-Dresser) จากนั้นก็เริ่มคุยเรื่องอุปกรณ์ ของเล่น คุยไปคุยมาก็ชวนเล่นกัน ด้วยแนวการเล่นที่ค่อนข้างตรงกันมาก เขายังไม่มีประสบการณ์ เราก็ไม่ใช่มือใหม่ แต่ไม่ถึงกับเชี่ยวชาญ เลยมีเขาเป็นหนูทดลอง ลองทุกอย่าง เล่นทุกอย่าง จนความสัมพันธ์มันเริ่มพัฒนาจนเป็นแฟนกันในทุกวันนี้
เมื่อความชอบกลายมาเป็นอาชีพ
คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักและ Mistress Crystal ก็ได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักมาเป็นเวลามากกว่า 3 ปี
“เราเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นอาชีพได้เมื่อตอนที่ทำแล้วได้เงิน (หัวเราะ) ก่อนหน้านี้เป็นนายหญิงฟรีแลนซ์ และเริ่มทำที่ House of Dominace ก่อนโควิดนิดหน่อย ก็จะได้เห็นความพลุกพล่าน ความคึกคักของที่นี่อยู่ซักพักหนึ่ง ก่อนที่มันซาลงไปเพราะโรคระบาด เรื่องเงินที่มาทีหลังเลยนะ อย่างที่เล่าไปทุกอย่างมาจากความชอบ แต่พอเราก้าวมาถึงจุดหนึ่งที่มี Sub ผู้ชายทักเข้ามาอยากเล่นด้วย ในช่วงแรกเราไม่มีวิธีคัดกรองคน เคยเลือกจากรูปร่างหน้าตา เคยเลือกจากลักษณะท่าทาง ก็ยังไม่พอใจ จนมีคนเสนอเงินให้ แล้วรู้สึกว่ามันจบเลยจริง” (หัวเราะ)
“ไม่ได้จะบอกว่าหน้าเงิน หรือเห็นแก่เงินนะ แต่เงินมันสามารถคัดกรองคนที่อยากเล่นกับเราได้ ลูกค้าที่มาขอฟรีก็จะเป็นอีกแบบ ลูกค้าที่มาพร้อมเงินก็จะมีความพร้อม ความเข้าใจ อีกแบบ ที่เรารู้สึกว่าเราปลอดภัยที่จะเล่นกับเขา อีกอย่างทุกวันนี้ทาสชายเยอะมากเลยนะ นายหญิงส่วนใหญ่เขาก็มีทาสประจำกันล้นมืออยู่แล้ว 3-4 คน พอ Supply กับ Demand มันไม่สมดุลกัน เราก็มีสิทธิที่จะเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา”
“พอเราเริ่มทำงานแบบได้เงินสิ่งที่ตามมาคือความเป็นมืออาชีพ ความพึงพอใจของลูกค้าต้องเป็นที่หนึ่ง ความปลอดภัยในการเพลย์ ความรู้ในการจัดการกับ Worst Case ที่จะเกิดขึ้น การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การเก็บความลับของลูกค้า ความครีเอทีฟในการทำงาน จนไปถึงการพัฒนาการเพลย์ในรูปแบบใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ก็เป็นหน้าที่ที่ Pro Dom ควรจะทำได้”
“โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยอันนี้เราว่ามันสำคัญมากจริงๆ นะ ถ้าคุณเข้ามาเพลย์ในดันเจี้ยน ไม่ว่าจะเป็นของ House of Dominance หรือตามสุขุมวิท พัฒน์พงศ์ เขาจะมีการดูแลความปลอดภัยเบื้องต้นอย่างเช่นการ Breath Control (ควบคุมลมหายใจ) Mistress ก็ต้องสังเกตอาการให้ดี เคยมีเคสที่มีคนเล่นเองแล้วเสียชีวิตเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือที่เคยเป็นข่าวดาราฮอลลีวู้ดเสียชีวิตจากการเพลย์ด้วยตัวคนเดียวก็เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย”
“เมื่อพูดถึงลูกค้าที่เข้ามา เธอคิดอยู่นานเพื่อเรียบเรียงไม่ให้ความลับถูกเปิดเผย “หลากหลายมาก มีตั้งแต่สุภาพ ให้เกียรติเรามากๆ จนไปถึงลูกค้าหื่นกาม ถือเงินมาแล้วจะฟาดได้ทุกอย่าง คิดว่าจะทำอะไรก็ได้ เป็น Sub ที่กร่างมาก แต่พวกกร่างๆ มักจะชอบให้สบถคำหยาบใส่ แล้วก็ชอบเล่น Anal Play (เล่นทวารหนัก) น่าจะมีจุดร่วมอะไรบางอย่างที่คล้ายๆ กัน
สำหรับในบางเซกชั่น เราก็เข้าไปส่วนลึกของจิตใจของ Sub ก็มีนะ คงจะพูดไม่ได้ว่ามันคือการบำบัดไหม แต่เป็นการให้กำลังใจในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งดีกว่า มี Sub หลายคนที่เข้ามาในภาวะความเครียด เขาอยากจะมาปลดปล่อยตัวเอง อยากจะร้องให้ พอเข้ามามันเป็นความประดังประเดของความรู้สึก ที่ถูกกดดันมา ความตึงเครียดของสถานการณ์ พอมันรวมกันมันก็มีหลายคนที่ระเบิดความรู้สึกเบื้องลึกออกมา เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เราฟัง เป็นเรื่องที่ไม่กล้าบอกใคร เรื่องอึดอัดใจ เหมือนเซกชั่นเปิดใจ after care เราก็กอด ปลอบ เราก็รู้สึกดีนะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการที่ทำให้เขาได้ระบายออกมา เพราะสุดท้ายแล้ว Mistress Crystal ก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึก มีจิตใจ รสนิยม BDSM มันคือส่วนหนึ่งของชีวิต แต่อีกใจก็รู้สึกว่าเอ๊ะ ตรงนี้เรามาทำอะไรกันนะ (หัวเราะ)”
เส้นบางๆ ของ Sex Work
“ทุกครั้งที่มีการเพลย์จะมีการตกลงกันก่อนเสมอ” ทำให้เราเกิดคำถามว่าการตกลงกันนี้ เป็นลายลักษณ์อักษรหรือมีสัญญาร่างขึ้นโดยเฉพาะเลยหรือไม่
“ไม่ค่ะ เป็นการตกลงกันปากเปล่าถึงขอบเขต ความยินยอมพร้อมใจ Safe word และอื่นๆ อีกหลายอย่างสำหรับการเพลย์ในแต่ละครั้ง แต่การตกลงทั้งหมดมันไร้ค่าและไม่มีผลทางกฎหมาย เพราะเราก็ต้องยอมรับว่ากฎหมายไม่ได้คุ้มครองเราทั้งฝ่าย Dominance และ Submissive เราทำงานกับอารมณ์ของคน เรือนร่าง งานของเรามันมีการ Orgasm เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความพึ่งพอใจ เราปฏิเสธตัวเองไม่ได้เลยว่างานที่ทำอยู่มันเป็น Sex Worker เพราะฉะนั้นเรื่องของการผลักดันกฎหมายในส่วนนี้เราสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ก็เข้าใจว่าโสเภณียังยากเลย พวกเราที่อยู่ใต้ดินลึกลงมาอีกก็คงจะต้องอยู่ในขั้นต่อไปที่จะได้รับการยอมรับตามกฎหมาย”
ขอบคุณ
Unnamedminor
House of Dominance
Mistress Midori
Mistress Crystal