Identity

EQ Human: “พี่ป๊อด” จาก Moderndog สู่ Balloon Boyการค้นหาตัวเอง และการเติบโตที่เอาพลังบวกเป็นตัวตั้ง ‍

“ทุกๆ เพลงมันก็คือการทำความเข้าใจชีวิต”

“พี่ว่าพี่เป็นคนมีความรับผิดชอบเว้ย” พี่ป๊อดพูดถึงชีวิตในวัยเรียนกับการเป็นเด็กเรียนเก่งแต่ซนพอควร “ครูห้ามเอาของเก็บไว้ในห้องเรียน พี่มีความไม่ดีอย่างนึง ก็คือจริงๆ พี่จะเอาชุดลูกเสืออะ ใส่ไว้ในห้องแล้วจะเอามาแต่งเฉพาะวันที่มีชั่วโมง ปรากฏวันนั้นครูดันตรวจเช็กแบบเปิดตู้หมดแล้วก็เจอทั้งหมดสิบสามชิ้นน่ะ พี่ก็เลยโดนฟาดสิบสามที” วันนี้ EQ และ Converse รวมพลังกันมาเพื่อพูดคุยกับพี่ป๊อดถึงสาเหตุ และที่มาที่ได้ของความคิดสร้างสรรค์แม้ในวันที่เหนื่อยใจ

หนึ่งในศิลปินที่ไม่น่ามีคนไทยคนไหนไม่รู้จักคือ พี่ป๊อด Moderndog กับความเก่งกาจด้านดนตรี จากเด็กเรียนดีที่โดนครูตีเพราะชุดลูกเสือ ชีวิตการเรียนครุศาสตร์สายงานศิลป์ที่เปิดโลกกว้างให้เห็นแรงบันดาลใจมากมาย และความหมายของการกลับมาทำเพลงอีกครั้งในวันนี้ เพราะความลื่นไหลของเสียงดนตรีที่มอบอิสระให้กับศิลปินอย่างพี่ป๊อด ที่วันนี้มาพูดถึงพัฒนาการด้านงานเพลง ศิลปิน Alternative Rock ของวง Moderndog การตั้งใจทำเพลงให้คนหยุดฟัง การหยุดพักงานดนตรีเพราะความสำเร็จที่มาพร้อมกับความกดดันที่มอบให้ตัวเอง และการหวนคือสู่วัยเด็กของตัวเองทำให้มีไฟกลับมาทำงานเพลงของตัวเองอีกครั้งด้วย Balloon Boy การไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์ที่เคยส่งผลกับความรักในงานประพันธ์ของเขาจนได้ค้นพบกับความรู้สึกดีๆ กับเพลงที่คุณแม่เปิดทุกเช้าให้ชื่นใจ

จากนักเรียนที่เรียนเก่งสุดๆ แต่ซ่า สู่นักศึกษาครุศาสตร์ วิชาอาร์ต เพลงของ Moderndog เป็นเพลงที่พูดถึงมุมมองชีวิตเยอะมากตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงตอนนี้ มันมีการเปลี่ยน มันมีการเติบโตขึ้น แล้วมันก็มีข้อสรุป ตั้งแต่ชื่อเพลง ดนตรี และองค์ประกอบอื่นๆ ที่มันเหมือนเป็นคำถาม คำตอบ และบทสรุปในแต่อัลบั้ม 

“ผมว่าเพลงแรกที่ผมแต่งเลยนะของ Moderndog ชื่อเพลงชีวิตเนาะ ‘ชีวิตไม่ง่ายดายเลยสักนิดแต่ชีวิตไม่ยากเย็นอย่างที่คิด ก็ชีวิตคือชีวิตคงต้องคิดกันให้ดี ยังมีอะไรอีกมากมายที่เราจะต้องเจอ ยังมีอะไรอีกมากมายที่เธอจะต้องทำ ให้รู้อยู่ดูให้เข้าใจ ให้รู้อยู่ดูกันต่อไป’ แล้วหลังจากนั้นน่ะทุกๆ เพลงมันก็คือการทำความเข้าใจชีวิตแล้วมาถึงชุดสุดท้ายของ Modern Dog เนาะ มันมีเพลงนึงที่ร้องอยู่แค่สองประโยคอะ คือ ‘ลอยมา ลอยไป’ เนี่ยคือคำตอบ ทุกสิ่งผ่านมาแล้วก็ผ่านไป”

การเติบโตของพี่ป๊อดในฐานะศิลปินทำให้เข้าใจมุมมองในการทำเพลง หรือทุกอย่างมากขึ้น มันก็มีส่วนทำให้มีความยากเวลาเขียนเพลงมากขึ้นได้เหมือนกัน เพราะความเคยชินกับมันในการเป็นศิลปิน และพอโตขึ้น ได้เรียนรู้เรื่องอารมณ์มากขึ้น ความชินแรกมุมมองต่ออารมณ์เหล่านั้นมันก็เปลี่ยนไป เสมือนการเขียนเพลงเป็นภาพแทนตัวโน้ต

“ถามเก่งนะ ทำการบ้านโคตรเยอะอะ คำตอบคือ… มีผลเพราะว่ามันเหมือนกับคือจริงๆ ความเป็นเพลงอะมันคือเรื่องของการเรียกร้องอะไรบางอย่างเนาะ การร่ำร้องละกัน ร้องเพลงก็ไม่ต่างจากการร่ำร้องแต่เมื่อถึงจุดนึงของชีวิตที่มันแบบว่าเมื่อกระทบแล้วมันไม่ได้อยากรู้สึกร่ำร้องอะ นึกออกป๊ะ แบบเวลาสมมุติว่าเจออะไรขึ้นมาแล้วแบบ ‘อืม’ คือพี่ยังคิดว่าหรือเพลงกูจะร้องแค่ ‘อืม’ เออหรือไม่ก็เป็นบรรเลงไปเลยแต่สิ่งที่พี่เลือกที่จะถ่ายทอดช่วงหลังอะมันเป็น painting ไปเลยอะเพราะมันไม่ต้องมี ประธาน กริยา กรรม ไม่มีใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร

การทำดนตรีของพี่ป็อดทั้งการได้มาของแรงบันดาลใจ และวิธีการคิดแบบนอกกรอบ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินด้านทำเพลง นักวาดภาพ หรืออื่นๆ ความคิดนอกกรอบถือเป็นเรื่องสำคัญ คล้ายกับวิธีการสร้างสรรค์ของรองเท้า Converse ใครจำ Converse รุ่น Chuck 70 ที่เป็นการออกแบบลาย Glitch ได้ไหม? ถ้าจะมีอะไรโชว์ถึงความคิดสร้างสรรค์แบบนอกกรอบก็รองเท้าตัวนี้แหละ แถมการนำเอาแนวความคิดแบบงานศิลป์สายอื่นเข้ามาประยุกต์ในพื้นที่สร้างสรรค์ของเราช่างเป็นเรื่องน่าคิดตามจริงๆ

อัลบั้มของ Moderndog เปรียบเหมือนช่วงวันต่างๆ ของชีวิตพี่ป๊อด และสมาชิกในวง ความรู้สึก ความรักในการทำเพลง และความเครียด ความกดดันที่มาจากการมีชื่อเสียงจนตั้งใจทำเพลงให้คนหยุดฟัง และความต่างจากการทำเพลงของพี่ป๊อดในฐานะ Balloon Boy ที่พาพี่ป๊อดกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

“แต่ละชุดน่ะมันคือผมในวัยต่างๆ เพราะฉะนั้นน่ะผมก็พอจะเข้าใจว่า เราอาจจะอยู่ในเอ่อช่วงวัยนั้นหรือสิ่งที่ต้องเจออะไรอย่างเงี้ย ชุดหนึ่งอะเราประสบความสำเร็จมาก แล้วการที่แบบเด็กอายุยี่สิบสามยี่สิบสี่มันประสบความสำเร็จมากมันพีคเนี่ยมันกดดันนะ แบบแล้วชุดสองจะเป็นยังไงวะมันจะเหมือนกับมันจะมีความคาดหวังสูงทั้งตัวเองทั้งคนรอบข้างแล้วพอถึงชุดสามเรารู้สึกว่าเราอยากจะลดความกดดันเนี้ยโดยการทำเพลงที่คนเลิกฟัง คือตั้งใจให้คนเลิกฟัง ซึ่งพี่อะมาเข้าใจว่าตอนนั้นตอนที่พี่เป็นเด็กพี่ไม่ได้เข้าใจระบบความคิดนี้นะแต่พี่มาประมวลว่า อ๋อ เวลานั้นน่ะคือพี่ต้องการที่จะใช้ภาษาอังกฤษนะ Downsize ที่แปลว่าลดขนาด Downsize Expectation โดยการทำเพลงให้มัน Abstract แล้วคนก็จะรู้สึกว่า ’ทำอะไรวะเนี่ย’  ”

“เราไม่รู้เลยนะเว้ยว่าเรามีแฟนเพลงที่ตามเราอะคือแค่นายบอกว่า Balloon Boy เราก็เซอร์ไพรส์แล้วเพราะว่าเราไม่คิดว่าจะมีใครฟัง Balloon Boy เว้ย คนที่ฟังเยอะที่สุดคือแม่พี่เว้ย ทุกเช้า สามปีมาแล้วอะสี่ปีแล้วด้วยซ้ำแม่เปิดทุกเช้าแล้วพี่รู้สึกว่าโอ้โหดีใจมากที่ได้ทำชุดนี้เพราะว่าทำให้แม่ได้ฟังแต่ว่าที่บ้านมีแผ่นคาเฟ่ไงแล้วก็แม่หยิบมาแล้วแม่แบบ แม่มึนน่ะเราก็รู้สึกว่าไอ้ Balloon Boy เนี่ยทำให้แม่เราได้ฟังเพลงเราอะไรเงี้ย แต่ Balloon Boy ก็จริงๆ มันก็มันก็มีอะไรในนั้นมันก็มันก็ค่อนข้าง Deep นะเออเพียงแต่ว่ามัน Deep ในรูปลักษณ์ที่ผ่อนคลายอะ ตอนนั้นมันคือช่วง Pandamic ช่วง Covid ก็เลยนั่งทำแบบอยู่ในบ้านที่นั่นแล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนแล้วก็มิกซ์กันแบบกับรุ่นน้องที่เป็น Sound Engineer เนี่ยเขาก็จะอยู่ที่กรุงเทพแล้วเราก็ใส่หูฟังคนละอันแล้วก็นั่งมิกซ์ผ่านซูมอะ”

แม้จะมีอุปสรรคแค่ไหน ไม่ว่าจะความเครียด ความกดดัน ไหนจะโควิด แต่พี่ป๊อดก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อแฟนๆ แต่ที่สำคัญที่สุด เพื่อจิตวิญญาณความเป็นศิลปินในตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นการทำเพลงแนวใหม่ หรือการเข้าไปดึงเอาเด็กชายป๊อในตัวออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ Converse ต้องการจะสนับสนุนในวงการสาย Creative ของประเทศไทย และพี่ป๊อดถือว่าเป็นหนึ่งในศิลปินสาย Converse ที่ทุกคนสามารถมองเป็นตัวอย่างได้ ถ้าใจเรายังรักมันอยู่ ความคิดสร้างสรรค์มันก็ไม่มีจุดสิ้นสุด

ศิลปะไม่ว่าจะในแขนงไหนต่างต้องใช้ใจ และพลังในการค้นหาตัวเอง ไม่ว่าใครจะเก่งแค่ไหน ดังแค่ไหน การคิดงานไม่ออก หรือการไม่แน่ใจกับงาน ถึงว่าเป็นหนึ่งในระบบการทำงานของทุกศิลปิน มันเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่ทุกคนทำได้คือการเลือกที่จะมองปัญหาเหล่านั้นเป็นแง่บวก เสริมพลังรักให้กับงาน เสริมพลังรักให้ตัวเอง เพราะถ้าเรากังวลกับงานศิลปะที่เราสร้าง มันก็แสดงว่าเรานั้นใส่ใจกับมัน และงานศิลปะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเรา และวันนึงงานที่เรากังวลกับมันนั้น ก็อาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ที่ได้เห็นมันด้วย

“ก็จะบอกว่าพยายาม Positive ไว้ละกัน ความเชื่อของเราตอนนี้นะเราเชื่อในพลังบวกอะพลังที่มันเป็นพลังดีงามอะเราเชื่อเราเชื่อในความรักอะ เราเชื่อในความรักเราคิดว่าความรักคือคำตอบสำหรับแบบทุกอย่างเลย รักในการทำงาน รักในสิ่งที่เราเชื่อ หรือรักในการมีชีวิต สมมุติว่าเครียดไม่อยากอยู่แล้วโว้ยอะไรอย่างเงี้ยก็ตัวเองไม่อยากอยู่ก็รักพ่อแม่ก็ได้ อยู่เพื่อพ่อแม่ก็ได้อะไรอย่างเงี้ยขอให้มีความรักไว้เป็นแก่นน่ะ เราคิดว่ามันรอดเว้ย”

ขอบคุณพี่ป๊อดสำหรับการพูดคุยกับพวกเราในวันนี้

และขอบคุณ Converse Store Siam Center สำหรับสถานที่

และ Collection สวยๆ