Auto

พูดคุยกับ “บังซิส” ในโรงรถแห่งความฝัน ที่พร้อมปั้นทุกจินตนาการให้เกิดขึ้นจริง

“คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” มักถูกใช้เป็นวลีอวดอ้างถึงความสามารถที่เทียบเท่ากับระดับสากล สื่อได้ถึงความพยายาม ฝีมือ และความชาตินิยมเล็กๆ ที่มีอยู่ในสายเลือดของทุกคน เช่นเดียวกับคนที่ทำรถบ่อยๆ เมื่อเจอช่างหลากแขนงหรือกลุ่มเพื่อนที่ถูกคอ ก็มักจะได้ยินประโยคที่ว่า “ช่างไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” เพราะเมื่อลงงานจริงและเห็นขั้นตอนการทำ ก็จะพบว่าช่างไทยเก่งๆ จัดการได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการ ซ่อม แก้ แปลง หรือแม้กระทั่งการ ‘สร้างรถสักคัน’ ซึ่งอาจจะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวในจินตนาการของบางคนเท่านั้น แต่ผู้ชายคนนี้สามารถเหลาความคิดของคุณ ผสมเข้ากับพื้นฐานของวิศวกรรม คลุกเคล้าด้วยฝีมือของทีมงานทั้งด้านไฟเบอร์ คาร์บอนเคฟล่า เหล็กตัวถัง หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสร้างชิ้นส่วนอะไหล่ให้ออกมาเป็นรถคันหนึ่งที่วิ่งได้

วันนี้เราจะมาคุยกับ ‘บังซิส – กฤษดากร อัลซากอฟ’ แห่งช็อปลับย่านชานเมือง ‘PK Custom’ ผู้สร้างรถงานเทียบ replica ได้ จะเป็นซูเปอร์คาร์แบรนด์ดังรุ่นไหนก็เหมือนเป๊ะ และยังสร้างโซฟาแต่งบ้านจากแลมโบกินี่คันจริง งานคัสตอมใดๆ เขาก็สรรค์สร้างให้ได้หมด แม้กระทั่งรถที่มีมากกว่า 4 ล้อ และวันนี้ EQ จะพาทุกคนไปคุยกับเขากัน

จุดเริ่มต้นของการสร้างโรงรถ

บังซิสเล่าว่าเมื่อก่อนเขาทำงานอยู่ฝ่ายอะไหล่ให้กับทีมมอเตอร์สปอร์ต แต่ไม่ชอบทำงานอยู่กับโต๊ะ วันหนึ่งก็จับพลัดจับผลู ได้ไปคลุกคลีกับทีมช่าง บวกกับได้มีโอกาสไปช่วยทีมงานในทีมแข่งอยู่บ่อยครั้ง เลยทำให้รู้จักตัวรถมากขึ้น ยิ่งรถแข่งในทีมส่วนใหญ่จะเป็นซูเปอร์คาร์ เขาก็รอบรู้ถึงรายละเอียดของรถพวกนี้แทบทุกชิ้น

“เดิมอยู่สายมอเตอร์สปอร์ต เป็นฝ่ายอะไหล่ แต่เบื่อนั่งโต๊ะ ก็เลยไปคลุกคลีกับช่าง  ไปซ่อมอะไหล่แล้วก็ดูเขาอยู่ตลอดที่ทำงาน หลังๆ มีโปรเจกต์มาจากเจ้านาย เป็นงานที่ไม่มีใครอยากทำเพราะเป็นรถแปลกๆ หาอะไหล่ไม่ได้ แถมสภาพรถเยินมาก ซ่อมให้กลับมาเหมือนเดิมยาก แต่ด้วยความที่เราเป็นฝ่ายอะไหล่ หากไม่มีก็ต้องหาให้ได้ ส่วนการประกอบกับการซ่อม ช่างบ้านเราที่เก่งๆ มีเยอะอยู่แล้ว ส่วนในการแปลงก็แทบจะทำได้หมด” 

“ด้วยความที่เราเป็นฝ่ายอะไหล่มาก่อน ก็รู้ว่าถ้าไม่มีอะไหล่จะทำงานยาก และอะไหล่บางตัวก็หาซื้อไม่ได้ ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ เราก็อาศัยวิชาที่เรียนเรื่องการเขียนแบบในการสร้างวัสดุต่างๆ มาดูว่าต้องสร้างมันยังไง ใช้ประสบการณ์ในการเข้าไปคุยกับโรงกลึง ช่างไฟเบอร์ ช่างสี ช่างโป้ว แทบทุกช่างที่เป็นองค์ประกอบในการสร้างรถสักคัน ซึ่งคนไทยทำได้หมด คนไทยดัดแปลงเก่งมาก โปรเจกต์แรกตอนนั้นเป็นรถ HMMWV หุ้มเกาะแบบทหารที่วิ่งไม่ได้เลยในตอนแรก หลังคาไม่มี อะไหล่ไม่ครบ แต่ทำเสร็จจนตอนนี้วิ่งฉิวเป็นปกติแล้ว” 

ต่อยอดสู่การเป็นผู้สร้างและพัฒนา

นั่นคือจุดเริ่มต้นในการพบแนวทางของบังซิส ที่ทำให้เขารู้จักการสร้าง การหาชิ้นส่วนอะไหล่รถที่ว่าหายาก สู่การต่อยอดให้ได้เรียนรู้เรื่องการสร้างชิ้นงานด้วยไฟเบอร์ คาร์บอนเคฟล่า หรือแม้แต่การปรินต์ 3D และเขาก็ออกมาเปิดช็อปคัสตอมของตัวเองที่บ้าน ซึ่งเน้นการสร้างงานเกี่ยวกับรถยนต์ ปั้นรถ หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายของรถยนต์เป็นส่วนประกอบ

“งานหลักๆ ของเราจะเป็นงานคัสตอม ก็คือทำตามแบบที่ลูกค้าต้องการ งานไฟเบอร์ งานปั้น งานคาร์บอน งานประกอบเครื่อง บิลด์รถ หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ก็ทำได้หมด”

“อย่างคันที่ทำอยู่เป็น Lamborghini Aventador ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ อยากได้เป็นชุด body kit เพื่อนำไปประกอบกับรถของเขา ซึ่งเป็นงานระดับเกรด replica หมายถึงว่าพื้นฐานมันจะแค่ดูเหมือนจากภายนอก ไม่ได้เหมือนทั้งหมดจรดภายใน ด้วยความที่เราเป็นช่างมาก่อน พอได้จับรถคันจริงแบบละเอียด เราจะรู้ว่ามีเรื่องของกลไกมาเกี่ยวข้องแทบทุกชิ้น เพราะฉะนั้นทุกชิ้นงานจะต้องมีความละเอียด แต่ละชิ้นที่ประกบเข้าด้วยกันต้องมีความปราณีต ไม่งั้นพอประกอบออกมาจะเหมือนเป็นรถการ์ตูน ไม่ดูเป็นรถซูเปอร์คาร์” 

“ทำมาเรื่อยๆ มันก็มีเรื่องกลไกกับความแข็งแรงของวัสดุเข้ามาเกี่ยวข้อง เราก็เลยพัฒนาต่อยอดขึ้นมา เดิมทีลูกค้าไม่ได้สั่ง แต่เขามาเห็นและชอบกับผลงานแรกเริ่ม ก็เลยเพิ่มงบให้มาพัฒนาต่อ พองานสวยขึ้นเขาก็แฮปปี้ และเขารอได้”

บังซิสเล่าให้ฟังว่า งานส่วนใหญ่ที่ลูกค้าชาวต่างชาติสั่งเข้ามา มักจะมีลูกค้าที่เป็นอู่ด้วยกันเองมาจ้างให้สร้าง แล้วนำไปต่อยอดตามความต้องการ แต่ความจริงแล้ว บริการของที่นี่ไม่ใช่แค่เรื่องรถเท่านั้น งานคัสตอมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับรถเองก็รับทำเช่นกัน

“จริงๆ แล้วชิ้นส่วนทั้งหมดในตัวรถ บ้านเราสร้างได้หมดนะ แต่มันมีค่าใช้จ่ายที่สูง เราเลยจำเป็นต้องอาศัยการสร้างเองบ้าง หรืออาศัยการแปลงจากรุ่นอื่นมาใส่เอา อย่างคันนี้ ในต่างประเทศเขาสามารถไปขอจดทะเบียนได้ ให้วิศวะกรตรวจสอบให้ได้ตามมาตรฐาน จ่ายคิดเป็นเงินไทยไม่เกิน 2 ล้านก็มีรถเหมือนแลมโบฯ สามารถขับได้เลย“

“เดิมก่อนทำรถซูเปอร์คาร์ทั้งคัน มันมีแลมโบกินี่เกิดอุบัติเหตุรถชน พังมาข้างหนึ่ง ทำอะไรไม่ได้แล้ว ตัวถังฉีกเยอะ ลูกค้าก็ถามว่าเอาไปทำอะไรได้ เราก็เลยเสนอไปว่าทำโซฟาไหม เราเก็บส่วนที่ดีอยู่มาออกแบบให้เขา โดยเก็บส่วนที่ดีไว้ทั้งหมด มองจากด้านข้างจะเป็นรถเต็มคัน แต่ถ้ามองอีกด้านก็จะเป็นโซฟานั่งเล่น เหมือนเป็นโซฟาที่สร้างจากรถแลมโบฯ จริงๆ เลย”

กลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

จริงๆ แล้วต้องบอกว่าลูกค้าของบังซิส ค่อนข้างจะเฉพาะกลุ่มเอามากๆ และอาศัยการบอกต่อกันเป็นส่วนใหญ่ ลูกค้าต่างประเทศมักจะเห็นผ่านหน้าเฟซบุ๊ก ซึ่งแรกเริ่มต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจของลูกค้า และการถ่ายทอดให้เห็นถึงคุณภาพงานอย่างที่สุดของผู้สร้าง 

“ส่วนหนึ่งคือเราอยู่กับรถแท้มานาน เรารู้ว่างานต่างประเทศที่มีคุณภาพเป็นยังไง ยิ่งถ้าเป็นลูกค้าต่างชาติ ส่งงานไม่ดีไปให้ก็คงอายเขาตาย งานทุกชิ้นของเราส่วนใหญ่เป็นงานโชว์ ลูกค้าส่วนมากจะสเปคสูงด้วย เราจึงต้องรักษามาตรฐานของเราให้ดี คุณภาพนั้นสำคัญ แต่คุณภาพก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณ เพราะฉะนั้น มันจึงต้องขึ้นอยู่กับลูกค้าด้วย”

“งานที่ส่งไปไม่เคยโดนติเลยนะ ยิ่งในต่างประเทศยังมีบอกต่อให้มาสั่ง ตอนนี้ก็มีลูกค้าเฉพาะของเรารออยู่ 4-5 คัน”

จากข้อมูลที่ได้มา ณ ตอนนี้ ในระยะเวลา 1 ปี โรงรถหนึ่งอาจรับโปรเจกต์งานได้ราวๆ 4-5 คัน นั่นแสดงให้เห็นถึงฐานลูกค้าที่เชื่อมั่นในผลงานของที่นี่ได้ไม่น้อย บางคนอาจไม่อินกับเรื่องของการสร้าง แต่ถ้านิยามคำว่า ‘สร้าง’ จริงๆ แบบนี้แหละที่เรียกว่า ‘ของจริง’ จินตนาการ ความฝัน มุ่งมั่นทำให้เกิดขึ้นได้จริง ยิ่งถ้ามีลูกค้าประเภท ‘ถึงไหนถึงกัน’ ที่ชอบให้งบมาพัฒนาต่อ ก็ไม่ต่างอะไรจากศูนย์วิจัยย่อมๆ ของคนรักรถและชอบความแตกต่างได้เลย ติดตามผลงานของบังซิสได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก แล้วคุณจะเห็นว่าไม่มีอะไรที่คนไทยทำไม่ได้จริงๆ

ติดตาม ‘บังซิส’ และโรงรถ ‘PK Custom’ ของเขาได้ที่

FB: กฤษดากร อัลซากอฟ