ในวันที่ยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงาน “ไฟฟ้า” ความซับซ้อนของมอเตอร์และแบตเตอรี่นั้นมีน้อยกว่าฝั่งเครื่องยนต์สันดาปมาก นี่คือปัจจัยที่ทำให้เราได้เห็นผู้เล่นหน้าใหม่ในท้องตลาดยานยนต์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ตาม
เรามักจะพูดเปรียบเปรยถึงบริษัทยานยนต์ใหญ่ๆ ว่า ‘เป็นยักษ์ใหญ่มักจะขยับตัวช้า’ เพราะการเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีโรงงานผลิต และโรงงานประกอบรถอยู่ในหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก ตลอดจนพนักงานจำนวนมหาศาลที่ทำงานในหน้าที่ต่างๆ เมื่อความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นมาในตลาดแล้ว ทางบริษัทก็จะนิ่งรอดูสถานการณ์ว่าจะไปในทิศทางไหน ก่อนที่จะเริ่มตัดสินใจกับความเปลี่ยนแปลงนั้นๆ อีกทีหนึ่ง EQ อยากพาคุณไปดูวิธีการรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อกระแสรถไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ยักษ์ใหญ่ในวงการมอเตอร์ไซค์อย่าง Honda ก็ดูเหมือนว่าจะเตรียมพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว
ในโลกของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าปัจจุบัน Honda อาจไม่ถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ หรือผู้ทรงอิทธิพลในตลาดนี้ แต่เราจะได้ยินชื่อแบรนด์รถแปลกๆ ที่ไม่คุ้นหูขึ้นมาครองพื้นที่ในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เช่น NIU, Ola Electric, Yadea และ Gogoro เป็นต้น หากใครไม่รู้จักแบรนด์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะแต่ละแบรนด์ ก็เป็นเจ้าตลาดในภูมิภาคที่แตกต่างกันออกไป
ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกล เพราะในประเทศไทยก็มีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้คุณเห็นชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล น่าจะเคยได้เห็นเหล่าไรเดอร์ส่งอาหารเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากันอยู่ไม่มากก็น้อย โดยแบรนด์ยอดนิยมที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ ก็จะเป็น NIU, MAYA และ H SEM MOTOR ซึ่งเชื่อว่าคุณแทบไม่รู้จักแบรนด์รถเหล่านี้เลย ส่วนแบรนด์เจ้าตลาดอย่าง Honda และ Yamaha ช่วงเวลานี้ยังถือว่าเพิ่งเริ่มตั้งไข่เพียงเท่านั้น
ตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแข่งขันกันด้วยสเปคความสามารถ และราคาที่ดีที่สุด
บรรดาแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่กล่าวถึงข้างบน จะแข่งขันกันที่ความสามารถในการขับขี่ใช้งานได้จริงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเร็วสูงสุดที่ควรทำได้มากกว่า 70-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง และระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จไฟ ที่ควรจะทำได้มากกว่า 100 กิโลเมตรขึ้นไป ซึ่งทั้งสามแบรนด์ที่ยอดนิยมในไทยอย่าง NIU, MAYA และ H SEM MOTOR ล้วนมี สเปคความสามารถที่ใกล้เคียงกับมาตรฐานนี้ แต่เมื่อมองไปที่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ Honda ที่เปิดตัวออกมาในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ กลับมีสเปคความสามารถที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก และยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อนำไปเทียบกับแบรนด์ที่เป็นผู้นำ หรือเจ้าตลาด
แม้ว่าสเปคความสามารถในเวลานี้อาจยังสู้ไม่ได้ แต่บริษัท Honda ก็ได้เปรียบแบรนด์รถน้องใหม่อยู่ในหลายๆ เรื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงความเป็นที่รู้จัก มาตรฐานความเชื่อใจของผู้บริโภค และศูนย์บริการที่ครอบคลุมในหลากหลายพื้นที่ สิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นต้นทุนที่ได้เปรียบของ Honda
สำหรับ Honda แล้วประวัติศาสตร์ความเป็นมาของแบรนด์ และโมเดลรถมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในอดีต ก็ถือเป็นจุดขายที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน และนี่ก็เป็นจุดแข็งที่ Honda เลือกใช้ในการเริ่มรุกตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ โดยล่าสุดทางบริษัทที่ญี่ปุ่นได้โชว์โมเดลรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดออกมาถึง 3 รุ่น เตรียมผลิตขายจริงในเร็ววัน
“เหล้าเก่าในขวดใหม่”
หากจะให้พูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Honda ที่ถูกนำออกมาโชว์แล้ว เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็ต้องคุ้นหน้าค่าตากันอย่างแน่นอน เพราะบริษัทเลือกใช้โมเดลรถมอเตอร์ไซค์ในอดีตที่ประสบความสำเร็จมาปรับปรุงใหม่ พร้อมแจ้งเกิดเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัย ลาแล้วเครื่องยนต์สันดาปที่อยู่เคียงคู่กันมาหลายสิบปี
โมเดลที่ Honda เลือกมาใช้สร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าก็คือ Honda Super Cub, Honda DAX และ Honda Zoom X ซึ่งทั้งสามโมเดลที่กล่าวมานั้น ก็เคยมีขายที่ประเทศไทย ในเวอร์ชั่นเครื่องยนต์สันดาป
เริ่มกันที่ Honda Super Cub ถือว่าเป็นโมเดลรถมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จรุ่นหนึ่งของโลก ถ้าคุณคิดถึงรถแม่บ้านยอดนิยมตลอดกาล อย่างไรก็จะต้องเป็น Honda Cub เหมือนกับเวลาพูดถึงรถสกู๊ตเตอร์คลาสสิกแล้วต้องเป็น Vespa และด้วยยอดขายสะสมทั้งโลกมากกว่า 100 ล้านคัน ก็ไม่แปลกอะไรที่ Honda จะเลือกโมเดลนี้มาลุยตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
DNA ความเป็น Super Cub ถูกถ่ายทอดมาสู่ Honda Cub e: อย่างครบถ้วนทั้งไฟหน้าทรงกลม ดีไซน์แฮนด์ปีกนกที่เป็นเอกลักษณ์ และบังลมหน้าขนาดใหญ่ ที่ใครเห็นก็ต้องบอกว่า นี่แหละ Super Cub
มาต่อกันที่ Honda DAX อีกหนึ่งโมเดลที่ถูกนำมาลุยตลาดรถไฟฟ้าเช่นกัน ด้วยชื่ออย่างเป็นทางการว่า Honda Dax e: ที่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างเฟรมตัวถังดีไซน์เอกลักษณ์ รวมถึงแรงบันดาลใจจากหมาพันธ์ุดัชชุนก็ถูกส่งต่อมาที่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เช่นกัน
Honda Dax e: / Honda DAX
Photo Credit: Honda / CubHouse
นอกจากเฟรมตัวถังที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว หากเทียบเคียงกับ Honda DAX125 เวอร์ชั่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ก็เรียกได้ว่าเหมือนกันในทุกจุดที่ควรจะเป็น หาก Honda Dax e: สามารถใส่ท่อไอเสียได้ มันก็ถูกวางในตำแหน่งเดียวกันอย่างแน่นอน
Honda ZOOMER เป็นโมเดลรุ่นสุดท้ายที่บริษัทเลือกใช้ ซึ่งดีไซน์ของตัวรถจะอ้างอิงมาจาก ZOOMER รุ่น 50 ซีซี. กับเอกลักษณ์ไฟหน้ากลมแบบคู่ ที่เหมือนดวงตาของรถมอเตอร์ไซค์
ZOOMER e: / ZOOMER 50
Photo Credit: Honda / MotocycleNews
เชื่อว่าบางคนซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อการใช้งานแบบจริงจัง และมีบางคนที่เลือกซื้อเพราะเหตุผลอื่นๆ อย่างกลุ่มที่เลือกซื้อเพราะความชอบส่วนตัวก็มีอยู่ไม่น้อย ทำให้เรื่องสเปคความสามารถอาจไม่ใช่คำตอบเดียวในเรื่องนี้
ประเด็นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ฟากฝั่งรถมอเตอร์ไซค์เพียงเท่านั้น เพราะด้านรถยนต์ก็เลือกวิธีการนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Mini Electric, Benz G-Class Electric และ Volkswagen ID.Buzz เป็นต้น ซึ่งการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าถือว่าดุเดือดกว่าฝั่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาก แต่ก็ยืนยันได้ว่าการเอาโมเดลรถที่ประสบความสำเร็จในอดีตมาปรับเป็นโมเดลรถไฟฟ้า คืออีกหนึ่งสูตรสำเร็จของวงการยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ตาม