Auto

มองตลาดรถมือสอง EV ในมุมมองของเต็นท์ใหญ่ โดม Mariomotor

ตลาดรถช่วงนี้ต้องบอกว่าเข้าสู่ช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ไม่ใช่เรื่องการเปลี่ยนนายกคนใหม่ แต่เป็นพลังคลื่นรถ EV ที่ค่อยๆ ดันรถเครื่องยนต์สันดาปหลงเข้าป่าไปช้าๆ  ยอดขายรถ EV เติบโตแบบก้าวกระโดดในปีนี้ ผู้เล่นใหม่เริ่มเข้ามาตั้งโรงงานในไทยหรือรถรุ่นใหม่เรียงลำดับรอเปิดตัวภายใต้แบรนด์ที่ไม่คุ้นเคย น่าจะทำให้หลายคนที่กำลังสนใจจะซื้อรถอยู่ต้องเริ่มหันมามองหรืออย่างน้อยต้องมีเหล่ยานพาหนะแห่งอนาคตที่เรียกว่า 'รถไฟฟ้า' นี้กันบ้าง

แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลงนี้ยังอยู่ในช่วง 'บ่มเพาะ' สำหรับประเทศไทย ที่คนในสยามจะก้าวข้ามมาใช้รถพลังงานสะอาดอย่างแพร่หลายจนเป็นเรื่องชินตา ตลาดหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ 'ตลาดรถมือสอง' อนาคตจะเป็นอย่างไร รถไฟฟ้ามือสองในมุมมองของเต็นท์รถ มองภาพของการมาอย่างล้นทะลักในรถไฟฟ้าตอนนี้เป็นอย่างไร

เราจะไปคุยกับคุณ วัชรพัฒน์ โชติทวีภัทรกุล หรือ 'คุณโดม' ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ภายใต้แบรนด์ Mario motor ถึงข้อมูลหรือมุมมองที่คุณอาจนำไปใช้ตัดสินใจได้ก่อนซื้อรถไฟฟ้าสักคัน ซื้อเลยหรือรอก่อน ซื้อมือสองหรือป้ายแดง และในฐานะผู้ค้ากับความพร้อมสู่การเป็นเต็นท์รถไฟฟ้ามือสอง สัญญาณอะไรที่จะช่วยบอกให้คุณ 'เข้าซื้อ' รถมือสอง EV ตามไปดูกันกับ EQ ได้เลย

แนะนำตัว คุณโดม แห่ง Mario Motor

รู้หรือไม่ว่าเต็นท์ Mario Motor มีเปิดให้บริการถึง 4 สาขา ในโซนย่านปทุมธานี กรุงเทพ ทำธุรกิจด้านรถมือสองมาเกือบ 20 ปี และที่สำคัญ คุณโดมยังเคยเป็นประธานกลุ่มรถมือสองปทุมธานีอีกด้วย น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอว่าทำไม EQ เลือกที่จะเข้ามาคุยกับคุณโดมถึงมุมมองที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้าในตอนนี้ เมื่อได้คุยกันก็เลยอยากรู้ที่มาที่ไปของคุณโดมกันสักหน่อย

“แรกเริ่มเลยเราเป็นเซลล์ขายรถป้ายแดงเมื่อ 20 กว่าปีก่อน เวลาลูกค้ามาซื้อรถป้ายแดงก็จะเอารถเก่าของตัวเองมาเทิร์น ทำมาเรื่อยๆ พ่อค้าที่รับซื้อรถขี้เกียจมาดูเองเลยให้เราช่วยดูให้ ไม่ได้มีแค่เต็นท์เดียวด้วยมีหลายเต็นท์ เขาฝากให้เราดูรถให้ เต็นท์หนึ่ง เต็นท์สอง เต็นท์สาม ฯลฯ บอกเลยว่าเทคนิคต่างกันเลยนะ”

“เราได้วิชามาจากตรงนั้น พอมีกำลังเราก็จัดซื้อมาตั้งขายเองเลย ทำธุรกิจมาจนตอนนี้รถขายเข้าออกทั้ง 4 สาขา รวมราว 40-50 คันต่อเดือน สต๊อกไม่เยอะประมาณ 100 คัน เพราะเรามีขั้นตอนการคัดกรองรถมากหน่อย เลยไม่ได้สต๊อกเยอะอะไร”

หนึ่งสิ่งที่มองเห็นระหว่างเต็นท์รถมือสองของคุณโดม ต่างจากเต็นท์หรือผู้ขายรถมือสองทั่วไปคือ เรื่องของการรับประกันตัวรถ ทางเต็นท์มาริโอ้จะรับประกันให้มากกว่า เน้นการันตีหลังการขายเป็นหลักเพราะคุณโดมเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับรถมือสองจากรถคันแรกของตัวเองที่ไม่ดี

“เราเน้นเรื่องการันตีหลังการขาย เพราะตอนซื้อรถคันแรกของตัวเอง เราซื้อรถมือสอง ตอนนั้นอายุราว 20 กว่า พอรับรถมาขับไป 5-6 กิโลเมตร เท่านั้น ‘เครื่องฮีท’ โทรถามเฮียเจ้าของเต็นท์ที่ขายรถให้เรา เขาตอบมาคำเดียวว่า ไอน้องเอ็งดูดีแล้วไม่ใช่เหรอ! เราคิดว่าไม่ใช่คำตอบที่อยากจะได้ยิน มันเลยเป็นภาพจำของเราว่าจะไม่ทำแบบนั้นกับลูกค้าเราเด็ดขาด!”

รถ EV ยอดจดทะเบียนทะยานพุ่ง

เราถามคุณโดมถึงความคิดเห็นของรถ EV ที่ยอดขายพุ่งทะยาน ได้รับความนิยมมากขึ้นในปีนี้ จดทะเบียนสูงกว่าปีก่อนหลายเท่า วันนี้ทางเต็นท์มีแผนรับมือหรือยังสำหรับการเข้ามาของคลื่นพลังรถ EV คุณโดมให้ความเห็นว่า ตอนนี้แค่รอเวลา! อีกไม่นาน

“จริงๆ ปีที่แล้วดุเดือดกว่านี้นะเพราะคนต้องการรถมากแต่ของมันมีไม่พอ ถึงขนาดมีพ่อค้าซื้อรถป้ายแดงมาขายเป็นรถมือสองด้วยซ้ำเพราะหากจองในศูนย์ต้องรอรถนาน สมมติพ่อค้าซื้อรถมาหนึ่งล้าน ขายออกไปล้านห้าหมื่นก็มีคนเอาด้วยซ้ำ เพราะลูกค้าอยากได้รถเลยแต่มันไม่มี”

“ถามว่าเราเตรียมพร้อมสำหรับการมาของรถ EV ในอนาคตอย่างไร ตอนนี้ก็อยากทดลองเริ่มต้นกับรถ EV หากมีรับรถไฟฟ้ามาหนึ่งคันต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ต้องมีจุดชาร์จไฟในทุกสาขาของเราก็เรื่องหนึ่งที่ต้องเตรียมพร้อม ชุด Wall Charger ที่จะให้กับลูกค้าเมื่อขายรถ EV ก็ต้องมีให้ซึ่งเป็น Cost เพิ่ม จะต้องวางแผนอย่างไร เพราะฉะนั้นในภาพของธุรกิจรถมือสอง กับรถ EV ณ วันนี้ยังไม่ถึงต้องปรับเปลี่ยนทันที แค่รอเวลา”

สัญญาณจาก 'คู่ค้า'

รอเวลานี่ที่คุณโดมว่านี้ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาผ่านไป แต่คือสัญญาณจากคู่ค้าในมิติต่างๆ ซึ่งเป็นเหมือนห่วงโซ่พึ่งพากันและกัน หากมีสัญญาณบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึง นั่นแหละต้องเตรียมพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลงในตลาดรถมือสอง

“อันดับแรกก่อนคู่ค้าเราพร้อมไหมด? เพราะผมต้องใช้สินเชื่อไฟแนนซ์ ธนาคาร จะเป็นตัวตั้ง โดยเขาจะตั้งมาว่าเขาจะให้สินเชื่อเท่านี้สำหรับรถคันนั้นคันนี้ เราจะรู้ละว่าซื้อได้ไม่เกินจากราคานี้แน่ๆ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญหลักๆ คือตัวคู่ค้า”

“ส่วนต่อมาคือเรื่องของการซ่อมบำรุง หากมีรถ EV เข้ามาที่เต็นท์ เสียมาต้องเตรียมพร้อมว่าอะไหล่รอนานไหม ซ่อมได้เองแค่ไหนหรือต้องส่งเข้าศูนย์เท่านั้น เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่ามีอู่น้อยมากที่ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าได้โดยตรง ส่วนใหญ่ต้องพึ่งศูนย์เป็นหลักอยู่”

การตัดสินใจที่เปลี่ยนไป

การมาแบบเต็มอัตราศึกของรถไฟฟ้าในปีนี้ ทั้งค่ายรถเปิดตัวใหม่ในไทย ทั้ง Model ใหม่จากค่ายเดิม หรือโปรโมชั่นลดแลกแจกกระหน่ำ ทำให้เราอยากรู้ว่ามีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อรถมากแค่ไหน คุณโดมก็ให้ความเห็นไว้ว่า

“ลูกค้าที่จะซื้อรถเครื่องยนต์มีการเปลี่ยนแปลง คิดเยอะหน่อย เป็นคนเจ็นใหม่ที่พอจะมีกำลังซื้อ ไม่ใช่กลุ่มรากหญ้า คนที่สนใจรถ EV จะมองให้เป็นรถคันที่สองของบ้านไม่ใช่รถคันแรก มองว่าใช้ไปส่งลูก ไปทำงานในระยะทางที่ฟิกไว้อยู่แล้ววันละ 30-50 กิโลเมตร ออกไปตอนเช้า เย็นกลับมาชาร์จ ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน”

“ถ้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ อีกปัจจัยคือทางตัวผู้ผลิตเองนั่นแหละที่จะเป็นคนส่งสัญญาณมา ออกรถที่อัพระยะทางต่อชาร์จ วิ่งใช้งานได้ไกลขึ้นเป็น 500-1000 กิโลเมตรต่อการชาร์จ พอรถใหม่สเปกดีขึ้นคนที่ใช้รถ EV อยู่เดิมรุ่นเก่าๆ ก็อยากเปลี่ยน เอามาเทิร์นเป็นมือสอง แล้วรถเหล่านั้นจะกลับเข้าสู่ตลาดรถมือสอง เพราะถ้าลูกค้าที่ใช้รถขายรถไม่ได้ ไม่พอใจราคา ผู้ผลิตที่ออกรถใหม่มาก็ขายไม่ออก  มันเกี่ยวกันไปหมด เป็นห่วงโซ่ของธุรกิจรถยนต์มือสอง”

“อีกเรื่องที่สำคัญคือ ผู้ผลิตรถยนต์ยังทำอะไหล่มาไม่เพียงพอให้กับรถที่ซื้อไปแล้ว เน้นผลิตอะไหล่มาสำหรับใส่รถใหม่เพื่อจำหน่ายก่อนเสียหมด เข้าใจว่ารถใหม่เสียยากแต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุละ ถ้าเป็นรถคันเดียวของบ้านจะลำบาก เพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่าน้อยมากที่รถไฟฟ้าจะเป็นรถคันเดียวของบ้าน”

แผนรับมือเมื่อมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลง

“อย่างที่บอกว่าเรามี 4 สาขา ผมจะตั้งไว้ 1 สาขาเลยที่จะขายรถ EV ทั้งหมดโดยเฉพาะ ทั้งระบบไฟฟ้า การเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ การเบิกอะไหล่ ส่วนเรื่องการบำรุงตอนแรกอาจจะใช้บริการจากศูนย์บริการก่อน เพราะรถปีใหม่การรับประกันศูนย์มันยังมีอยู่”

เงื่อนไขการรับซื้อรถ EV และการรับประกัน

“ไมล์ตัวรถถ้าข้ามแสนไม่กล้าซื้อแน่นอน ตั้งพื้นฐานไว้ว่ารถที่รับซื้อจะต้องใช้มาไม่เกินปีละ 15,000 กม. ถ้าเกินผมจะไม่รับเข้ามาขาย เพราะมันไม่เหมือนรถเครื่องยนต์สันดาปที่ซ่อมแล้วจบและค่าซ่อมเซฟกว่า รถ EV ถ้ารับเข้ามาเจอเปลี่ยนแบตฯ ทั้งลูกคงไม่ไหว เจอสามคันไปไม่คุ้มแน่ๆ”

“ถ้าเป็นรถ EV อุปกรณ์ส่วนควบคุมต่างๆ ผมจะรับประกันตัวรถเหมือนเดิม แต่ตัวเรื่องของแบตฯ น่าจะใช้เป็นการรับประกันของศูนย์มากกว่า เพราะรถ EV ที่ขายตอนนี้ทางศูนย์เขารับประกัน 8-10 ปีอยู่แล้ว”

เอาอย่างนี้! ซื้อ EV มือสอง หรือป้ายแดงดีกว่าตอนนี้

น่าประหลาดใจสำหรับคำตอบจากพ่อค้าเต็นท์รถมือสอง เพราะเราถามคุณโดมว่า ซื้อ EV มือสองหรือป้ายแดงดีกว่าตอนนี้! คุณโดมกลับแนะนำในคำตอบที่เราซื้อป้ายแดงดีกว่า พร้อมแนะนำด้วยว่าใครจะซื้อรถ EV มือสอง ควรจะซื้อตอนไหน

“ในทัศนะส่วนตัวนะตอนนี้ซื้อป้ายแดงดีกว่า เพราะเรื่องของราคารถที่ยังไม่ต่างกันเยอะกับมือสอง อย่างที่ทราบว่ารถมือสองมี Vat มีดอกเบี้ยที่สูงกว่า พอมาชั่งน้ำหนักกันดูที่ค่างวดแล้วไม่ต่างกันเลยการซื้อป้ายแดงกับมือสอง”

“ถ้าจะตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้ามือสองนะครับผมว่ารออีกสัก 1-2 ปี ข้างหน้า พอรถเข้ามาเยอะๆ ของมาเยอะๆ ตัวรถจะลดราคาเยอะตาม คนจะเปลี่ยนเจ้าของเก่าขายขาดทุนก็ยอม เพราะฉะนั้นรถไฟฟ้าถ้าจะซื้อมือสองต้องดูที่ราคาถูกกว่าป้ายแดงอย่างน้อยๆ 30-40% แพงกว่าป้ายแดงไม่ได้ ผมว่าอีกสัก 2 ปี มือสอง EV จะถูกลงกว่า 40% ของป้ายแดง”

“ซื้อก่อนประหยัดก่อนก็จริง แต่อย่าลืมมันจะมีอีกคำนะครับ ใช้ก่อนจุกก่อนก็มีนะครับ”

ติดตาม Mariomotor ได้ที่

Facebook: มาริโอ้มอเตอร์ รถสวยลำดับที่1