Maserati Grecale GT SUV เชื้ออิตาลีที่จะทำให้ผู้ครอบครอง Stand Out ได้อย่างสง่างาม

ไม่ถึง 20! นี่คือตัวเลขที่คุณต้องรู้ไว้ว่าในประเทศไทย จะได้โควต้าสำหรับรุ่นนี้ Maserati Grecale ที่ Maserati Thailand จะนำเข้ามาจำหน่ายต่อปี งานศิลปะส่วนตัวที่คุณสามารถเลือกสรรได้อย่างไม่สิ้นสุด ที่เป็นมากกว่าแค่เรื่องความหรูหราที่คุณจะได้รับจากแบรนด์รถหรูทั่วไป แต่รถคันนี้คือ 'อัตลักษณ์ติดล้อ' สื่อความเป็นตัวตนของเจ้าของ และวันนี้เราได้ไปลองขับกันมาแล้ว จะพาไปรีวิวพร้อมๆ กัน

หากคุณจะต้องเลือกซื้อรถแบรนด์หรูสักคัน บางคนอาจนึกถึงเพียงไม่กี่แบรนด์ในบ้านเรา Benz, BMW หรือ Porches แต่ถ้าคุณไม่ประนีประนอมต่อความธรรมดา เราอยากให้มองมาที่ 'Stand Out' ขึ้นอีกนิด Niche กว่า โดดเด่นกว่า แถมเลือกความ 'พิเศษกว่า' จากขั้นตอนการ Config ที่เลือกสีหรือวัสดุได้ตามใจในแบบที่เป็นคุณได้อย่าง Maserati

การได้ครอบครองแบรนด์ Maserati สิ่งที่คุณได้รับคือความรู้สึกราวกับกำลัง 'ถือตรีศูล' อยู่บนท้องถนน แล้วทิ่มสายตาให้ผู้ขับขี่คนอื่นจนต้องมองตาม แม้กับรุ่นที่หาใช่เป็นรถสปอร์ต แต่เป็น SUV อย่าง Grecale คันนี้ก็เหอะ เชื่อเถอะว่าต่อให้คุณขับไปรับลูกที่โรงเรียนหรือแค่เลี้ยวรถไปจ่ายตลาด ความพิเศษระดับ VVIP ที่จะได้รับจากรถคันนี้มอบให้มันจะเป็น 'ขั้นกว่า' อยู่เสมอ

Maserati Grecale รุ่นที่ EQ ได้รับมารีวิว เป็นรุ่นปฐมโมเดลของรุ่นย่อยที่มีให้เลือกจากทั้งหมด 2 เกรด คือรุ่น GT คันนี้ และอีกรุ่นที่เป็นขั้นสุดระดับยกเครื่องบล็อกโมเดลซูเปอร์คาร์มาใส่อย่าง Trofeo สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 6.49 ล้านบาท - 9.4 ล้านบาท ที่สามารถตกแต่งได้ตามใจ อัพเกรดได้เกือบแทบทั้งจุดรอบคัน ส่งตรงจากโรงงาน Cassino Plant ในอิตาลี

ขุมกำลังเร้าใจจนอาจทำคุณ 'ลืมตัว'‍

มาส่องรายละเอียดของรุ่นเริ่มต้นกันกับในโมเดล GT จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน MultiAir แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0L โดยประมาณ พร้อมพ่วงกับ Turbocharged 2 ลูก และหนึ่งลูกเป็นเทอร์โบไฟฟ้า Mild-Hybrid รีดพลังม้าสูงสุดที่ 300 ตัว แรงบิดสูงสุด 450 Nm ส่งกำลังแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดในบริบทของข้อจำกัดคำว่าไฮบริด และเผลอตีความว่ารถคันนี้ทำออกมาเพื่อประหยัดน้ำมันแน่ๆ แต่ที่จริงแล้วตรงกันข้ามเลยสำหรับคำนิยามไฮบริดใน Grecale เพราะมันคือ 'ยาโด๊ป' พลังเทอร์โบไฟฟ้าที่เข้ามาช่วยให้อัตราการตอบสนองแรงขึ้น 0-100 km/h ทำได้ที่ 5.6 วินาที และท็อปสปีดล็อกไว้ที่ 240 km/h

ลองขับใช้จริงในเมืองโหมดเริ่มต้น Comfort Mode เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องเร่งรัดปรับเป็น Sport Mode ให้เสียอารมณ์เบรกเมื่อเจอไฟแดง ตัวรถเหยียบเร่งมาทันทีไม่รู้สึกว่าเครื่องยนต์เอาไม่ไหวในโหมด Comfort

‍“แต่การปรับมาเล่นโหมดแรงๆ บ้างตอนถนนโล่ง แม้ตอนทดลองขับจะนั่งกันในรถถึง 4 คน สิ่งที่ผู้โดยสารจะต้องระวังนอกจากรัดเข็มขัดไว้ให้ดีแล้ว คือแรงกระชากดึงแบบมันส์ๆ จนทิ้งคราบลืมความเป็นรถหรูได้ชั่วขณะเช่นกัน”

ดีไซน์ภายนอกคือ 'รถสปอร์ตยกสูงนิดๆ'‍

การผสานการออกแบบอย่างลงตัวระหว่างยุค เป็นความคลาสสิกจาก Maserati และการยอมรับให้สิ่งใหม่ๆ เข้ามาอยู่ในตัวอย่างไร้ข้อกังขา ตัวรถมันดูดีไม่หมดในทุกมุมภายใต้ความเป็น Maserati สัญลักษณ์ตรีศูลขนาดใหญ่ แถมให้อีกที่ด้านบนคือโลโก้อย่างเป็นทางการ  

“อย่าเข้าใจผิดหากมองจากด้านข้าง เพราะมันช่างดูสมส่วนไปจนรู้สึกตัวรถเล็ก ใกล้กับรถซีดาน C-Segment เมื่อเห็นในรูป แต่ตัวจริงคือ ‘ไม่เล็กนะครับ’ บอก่อน”

เส้นสายส่วนใหญ่ของตัวรถ จะเน้นไปที่ความโค้งและมน ไฮไลท์ด้านข้างคือการออกแบบที่จับประตูเรียบเข้าไปในตัวรถ ดึงไม่ได้แต่ใช่เป็นแบบกด ไม่ต้องรอปลดล็อกให้เป็นแง่งขึ้นมาสำหรับจับ เรียบง่ายแต่ดูแพงและให้อารมณ์สปอร์ตตัวสุดของค่าย MC20 ที่ใช้รูปแบบมือเปิดประตูแบบนี้ด้วยเหมือนกัน

ถัดมาที่ด้านหลัง แม้การออกแบบไฟท้ายจะไม่สมัยนิยมเป็นแบบยาวจากฝั่งสู่อีกฝั่งเหมือนดีไซน์จากรถฝั่งเยอรมัน แต่ก็แฝงไปด้วยลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ เรียกให้สนใจได้ เพลทอลูมิเนียมสีเงินตรงกลางมีซ่อนดีไซน์เป็นแง่งลงมาคล้ายตรีศูลพร้อมกับซ่อนปุ่มกดเปิดฝาท้ายไว้ด้านใน ด้านบนเขียนตัวหนังสือ Maserati

“ไม่ได้สวยแบบตะโกน แต่ถ้าคนเล่นรถ และรู้จักจะเห็นความพิเศษที่ซ่อนภายใต้ความเรียบหรูนี้จนเรียกกันให้สนใจได้ไม่ยากเลย”

‍ขนาดตัวรถของ Grecale คือดีไซน์รถสปอร์ตในบริบทของ SUV แถมเฟรนด์ลี่ต่อผู้ควบคุมอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าจะเป็นใครสามารถถขับไปได้ทุกที่ ไม่เหนื่อยเกินไปเพราะใหญ่ และบนเส้นทางในเมืองที่รถแต่ละคันจอดติดห่างกันไม่ถึงฟุต SUV สปอร์ตยกสูงคันนี้คือผู้พิชิตที่เหนือกว่าทั้งรูปลักษณ์และความคล่องตัว

ภายในคือความคลาสสิก และเทคโนโลยีที่ลงตัว

นอกจากความเป็น Maserati ที่สถิตไว้ซึ่งความสง่างามเดิมจากชื่อเสียง เมื่อรวมกับจอถึง 4 จุด ขนาดคละกัน มันยิ่งทำให้ภายในรถดูพิเศษกว่าแค่คำว่าล้ำสมัย แล้วยังดูไม่ใช่ Maserati อย่างที่ผ่านๆ มาเลย มันเหมือนคุณลุงที่กินแต่ไก่ทอดหาดใหญ่แล้วยอมกินไก่บอนชอน เหมือนลุงที่ฟังแต่ซีดี ยอมหันมาใช้ Spotify ใช่แล้วนี่คือสิ่งที่จะอุปมาให้คุณเข้าใจในสิ่งที่ Maserati ออกแบบมาให้กับภายในห้องโดยสารของ Grecale

“หน้าจอวงกลมที่แผงแดชบอร์ด หากไม่สังเกตของจริง คุณอาจเข้าใจผิดว่าทางค่ายยังอนุรักษ์นิยมกับนาฬิกาแอนะล็อก แท้จริงแล้วมันคือ หน้าจอที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ง่าย และหลากหลาย”

สิ่งที่ชอบ และ 'ขอบคุณ' แทนคนขับรถอีกอย่างคือ Grecale ยังมีปุ่มให้ผู้ใช้งานควบคุมได้พอสมควร ผสมกันทั้งแบบสัมผัสและปุ่มจริงๆ แม้คันเกียร์จะถูกเนรเทศออกไปและแทนที่ด้วยปุ่มกดตรงกลางแทนแล้ว แต่ปุ่มสั่งงานต่างๆ ยังมีไว้อยู่พอสมควรที่พวงมาลัยซึ่งมากับรูปทรงใกล้เคียงกับเจ้า MC20 เช่นเคย

หน้าจอ Infotainment และหน้าจอสั่งการทำงานต่างๆ ของรถ ถูกแบ่งไว้อย่างชัดเจนที่ตรงกลางของแดชบอร์ด ความพิเศษคือจอด้านล่างที่ใช้สั่งการทำงานปรับการทำงานแอร์ ปรับเบาะ ฯลฯ มีการทำองศาขึ้นเล็กน้อยให้สะดวกในการใช้งานของคนขับ

‍“ลูกเล่น Quick Control Screen Gestures ช่วยปรับระดับเสียง ความแรงลมของแอร์ และอุณหภูมิในห้องโดยสารแบบไม่ต้องละสายตาจากถนน ทำให้ Grecale นั้น Stand Out อย่างตระหง่านท่ามกลางโลกยนตรกรรมที่เต็มไปด้วยจอใหญ่ๆ แต่ต้องเล็งต้องจิ้มสัญลักษณ์หน้าจอเล็กๆ อย่างยากลำบาก”

ส่วนของเบาะหลัง เมื่อขึ้นต้นว่าเป็น SUV Grecale ทำได้ดีมากโดยเฉพาะกับพื้นที่โดยสาร แม้กระทั่งคนหนัก 100 กิโลกรรมนั่ง ยังไม่รู้สึกอึดอัด Leg Room เหลือ Head Room ได้ ตัวเบาะหลังกว้างขวางและใส่มากับสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แอร์หลัง ไฟส่องอ่านหนังสือ พอร์ตเสียบชาร์จ มีมาให้ครบ เบาะหลังพับได้ 40/20/40  พร้อมกับพื้นที่เก็บสัมภาระทั้งกว้างและลึก ที่เหลือก็มีเพียงแค่ความหรูหราในแบบเฉพาะตัวคุณเติมเข้าไปเท่านั้น อาทิ ชุดเครื่องเสียงจาก Sonus Faber แบรนด์เครื่องเสียงจากอิตาลีแท้ๆ สีเบาะ สีด้ายเดินเบาะ หลังคาแก้ว หรือช่วงล่างถุงลม เป็นต้น

ทำไมคุณถึงควรจะเป็นเจ้าของ Maserati Grecale

ทุกความพิเศษมีมูลค่าที่ต้องจ่าย! ถามว่าถ้าคุณจ่ายเพื่อสิ่งนั้น คุณได้รับความพิเศษสูงสุดแล้วหรือยัง? Maserati Grecale นั้นพร้อมความพิเศษที่ Stand Out จากแค่รถหรูออกไป เพราะคนที่มีงบซื้อรถในช่วงราคานี้ไม่ควรจะถูกจำกัดอยู่เพียงแค่แบรนด์หรูจากเยอรมัน หรืออังกฤษเท่านั้น

พวกเขาควรได้รับความพิเศษที่ 'มากกว่า' โควตาเพียง 20 คันต่อปีของรถรุ่นนี้ในประเทศไทย น่าจะทำให้คุณพิเศษได้มากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้ปลดแอกสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แต่ทางค่ายตรีศูลก็พร้อมมอบกุญแจสู่ประตูสิ่งนั้นผ่านการตกแต่ง Config ได้ไล่จากช่วงล่างจรดเส้นด้าย ถามว่าแบบนี้จะมีรถคันไหนที่พิเศษกว่าก็คงไม่มี