Auto

90’s Dreamcatcher คุยกับ “หม่อม สมิชา” ที่ช่วงเวลาของรถในฝันขึ้นตรงกับจังหวะและโอกาส

A Dose of 90s Nostalgia With Chiropractor-turned-Car Collector Momm Smicha

เชื่อว่าผู้ชายเกินครึ่งในตอนวัยเยาว์ล้วนมีรถในฝันกันแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Supra, Silvia, NSX หรือ GTR และต้องมีความคิดว่า “หากโตขึ้นไป ฉันจะเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ให้ได้” ถึงตอนนี้แล้วความชอบนั้น “เปลี่ยนไป” บ้างหรือยัง เราหวังว่าคุณคงยังไม่ทิ้งมันไปง่ายๆ และไม่ว่าจะนานแค่ไหนหากมีโอกาส คุณคงจะคว้ามันไว้กับรถในฝันที่ปรารถนา ตราบใดที่ยังลืมตาขึ้นในตอนเช้า เสี่ยงกระเส่าเว้าวอนภายใต้เบื้องลึกของจิตใต้สำนึกคงไม่มีวันเงียบหายไป และ Exoticquixotic มีตัวอย่างของหนึ่งคนเล่นรถที่ไม่มีวัน “หมด Passion” วันเวลาและภาระหน้าที่ไม่อาจหยุดความชอบของเขาที่มีต่อมนต์เสน่ห์ในรถสปอร์ตยุค 90’s 

พาคุยกับคุณ “หม่อม - สมิชา ถิรมงคล” หมอจัดกระดูกสายซิ่งตัวจริงกับเรื่องราวของรถสปอร์ตยุค 90’s ในฝันของเขาที่ “ทำสุด” ทุกคัน ไม่ใช่แค่ฟอร์มแต่ขับวิ่งเล่นสนุกไม่ตามใคร จะเน้นแรง เน้นเตี้ย เน้นหล่อ มีครบรส ซึ่งที่น่าสนใจคือ เขาไม่ใช่คนที่เล่นสะสมรถมาเนิ่นนานแต่อย่างใด แต่เพียงจังหวะและโอกาสได้กลับมาเล่น “อีกครั้ง” จัดหนัก จัดเต็ม กับรถ 90’s ในฝันของเขาและหลายๆ คน   

สนุกกับรถมากับยุค “รถซิ่ง The Palace”

คุณหมอเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของความชอบที่เกี่ยวกับรถของเขา ซึ่งมันประจวบเหมาะมากที่ไปตรงกับยุครุ่งเรื่องของ “รถซิ่ง” อย่างแท้จริง ตั้งแต่ยุคพาเลซถึงยุครถซิ่งวิภาฯ ยุคที่รถใครแต่งเตี้ยสุดคือหล่อสุด เป็นยุคที่ของแต่งอะไหล่ซิ่งไม่ได้เอื้อเหมือนยุคนี้ แต่มันคือความสนุกที่ใครเคยได้ผ่านมาคงลืมได้ยาก

“คือพี่ชอบรถมาตั้งแต่เด็กๆ อายุสัก 11-12 ก็ชอบรถแล้ว เพราะพ่อก็เล่นพวกรถอเมริกันด้วยเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้เราชอบรถอีกทาง พอสักประมาณ 14 พ่อให้รถมาคันนึงมาหัดขับแล้วเราก็มาแต่ง เป็นรถอเมริกัน 2 ประตู Ford Pinto เราก็มาทำภายใน หุ้มกำมะหยี่ ใส่ล้อ ยุคนั้นไม่ได้ทำอะไรมาก”  

“วัยรุ่นยุคนั้นเขาจะแต่งรถโหลดเตี้ยกันไม่ได้เน้นเครื่องแรงอะไรมากมาย อยากแรงก็เปลี่ยนเครื่องยนต์เอาทั้งลูก ช่วงล่างอยากโหลดเตี้ยก็ตัดสปริงเอา มันเป็นยุครถซิ่งเฟื่องฟูเหมือนกัน พออายุสัก 16-17 เราก็ไปขับรถซิ่งแถววิภาวดีกับเพื่อน ตอนนั้นจะเป็นยุค Palace รถซิ่งจะเฟื่องฟูมาก บางคันก็เตี้ย บางคันก็เน้นเครื่องเสียง เราก็เน้นแรงเปลี่ยนเครื่อง รถเปลี่ยนมาใช้ Nissan Sanny B11” 

“ตอนนั้นมันเป็นเหมือนช่วงยุคปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีด้วย ที่เล่นเหมือนเป็นยุคเครื่องหัวฉีดเทอร์โบ ถ้าก่อนหน้านั้นยุคพ่อเราจะเป็นยุคเครื่องยนต์คาบูเรเตอร์”

“พอต่อมาจะเข้ายุค 90’s จะเป็นยุคที่รถซิ่งเฟื่องฟูที่สุด ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ สมัยนั้น มีเทอร์โบ มีกล่องเปลี่ยน สมัยนั้นก็มาละพวก Nissan GTR32 เป็นยุคที่มีเงินจะสั่งของได้จากเมืองนอกมาเพิ่มความแรงได้ สั่งรถจากเมืองนอกมาทั้งคันได้พวก Sport Japanese Car หลายๆ รุ่น ใครรวยบ้านมีตังก็จะมีรถพวกนี้ขับ ในบ้านเราก็มีนำเข้ามาขายบ้างเช่น Nissan 200SX”

เปิดอู่รถซิ่งเพื่อตอบรับแพชชั่นให้ตัวเอง 

น้องๆ เด็กๆ ที่ได้รู้จักกับคุณหม่อม มีไม่กี่คนนักที่จะรู้ว่า เขาเคยเป็นเจ้าของสำนักแต่งรถ Honda เคยเป็นอีกหนึ่งตัวพ่อที่ปั้นรถไว้ลงสนามแข่ง ซึ่งอาจจะดูขัดกับหัวโขนของเขาในตอนนี้ที่สถานะเป็น “คุณหมอ” ไปบ้างก็จริง แต่เมื่อเห็นบรรดาฝูงม้ารถ 90’s ของเขาแต่ละคันตอนนี้ คุณจะไม่รู้สึกประหลาดใจเลย 

“ต่อมาเริ่มเล่น Honda เข้าสู่ยุค vtech จนได้เปิดอู่ของตัวเองที่ทำ Honda เป็นหลักชื่อ ว่า Emotion-R เป็นสปีดช้อปเน้นขายของแต่ง ทำเครื่อง ทำรถลงแข่ง แต่เปิดได้ไม่กี่ปีหรอกครับ 3-4 ปี คือเราเปิดเพื่อทำตามความฝันของเรา” 

หยุดเล่นรถเพื่อไป “สร้างตัว”

“พอช่วงเข้าปี 2000 เราก็หยุดเล่นรถไปเลย เลิกทำกิจการรถเพื่อไปศึกษาต่อเป็นหมอ ร่วม 10 ปีได้” 

“คือช่วงที่เราหยุดไปเหมือนเป็นช่วงสร้างตัว เรากลับมานับหนึ่งใหม่ เรามีครอบครัว มีภาระมากขึ้น เหมือนไปสร้างตัวให้มีฐานะเพียงพอเพื่อจะซัพพอร์ตด้านต่างๆ”

“ในประสบการณ์ที่ผ่านมาที่เราทำอู่ถามว่ามันขาดทุนไหม ไม่ได้ขาดทุน แต่มันก็ไม่ได้เหลืออะไร  พอได้เงินมาก็เอาไปลงกับของแต่งที่เราชอบ ไปลงกับรถหมดโน่นนี่นั่น สำหรับเรานี่มันเป็นอาชีพที่ ‘เอามันส์’ เรียกว่าเติมฝันวัยรุ่น เลยต้องหยุดพักชั่วคราวจากสิ่งที่ชอบ” 

เพื่อนในแก๊งไม่ถามหา? 

“คือคนรุ่นเราพอวัย 20 กว่า ถึง 30 กว่า รุ่นเราเขาเลิกเล่นกันไปหมดแล้ว เหลือส่วนน้อยนิดๆ หน่อยๆ ที่ยังเล่นอยู่ แต่คนรุ่นผมเนี่ยพอเราเริ่มกลับมาเล่นหลังจากวัยสัก 40 มันเหมือน รียูเนี่ยน มีเพื่อนรุ่นเดียวกันกลับมาเล่นรถเหมือนกันหลายคน”

“ช่วงที่เราเลิกเล่น คนอื่นก็หายเหมือนกันนะ เหมือนกันทุกคนไปทำในสิ่งที่จำเป็นไปสร้างฐานะ ไปมีครอบครัว ไปมีบ้าน พอวันหนึ่งพร้อมกลับมาเล่นก็กลับมากัน ความชอบมันยังไม่หาย”

Baby I'm Back กลับมาต้องให้ “กระหึ่มโลก”

สิ้นสุดช่วงแรกไป จุดเริ่มต้นใหม่กลับมา เมื่อช่วงเวลาไม่สำคัญเท่าจังหวะและโอกาส ความฝันที่คาใจถึงเวลาเก็บเกี่ยว การกลับมาจับรถเล่นอีกครั้งคราวนี้ของคุณหม่อม “จึงไม่ธรรมดา”  ทั้งเรื่องความแรงที่ทะลุ 500 แรงม้าหลายๆ คัน ความเป็นรถแรร์ 90’s น่าเก็บ และการปรับแต่งขั้นสุดที่ฉีกทุกข้อจำกัด ถึงขนาดที่สื่อต่างประเทศยกให้เป็นเบอร์หนึ่งในรุ่นก็มี

Volvo V50 FlushStyle

“ในช่วงที่เราหยุดเล่นรถไปเนี่ย ถามว่าเราไม่ได้เล่นรถก็จริง แต่เรายังติดตามอยู่ ว่างๆ บางทีก็ไปดูงานที่สนามแข่ง จุดประกายให้เริ่มต้นกลับมาเล่นรถอีกครั้งคือเจอคำว่า FlushStyle ในหนังสือ XOAutosport ก่อน และเราเห็นแนวทางของเขาที่เป็นแบบรถเตี้ย แบน สวย ทำให้เราอยากทำรถแบบนั้นมาบ้างสักคัน ก็ไปซื้อเลย Volvo V50 ป้ายแดง ซื้อมาก็เปลี่ยนล้อ ใส่ช่วงล่าง โหลด คือซื้อมาทำเตี้ยจริงๆ เลยแบบสมัยก่อน ขับใช้งานยาก คือเหมือนเอารถมาทำซิ่งเลยโดยเฉพาะ”

Toyota MR2 Time Attack

“MR2 เป็นรถในฝันของเราในตอนอายุ 20 กว่าๆ เราจำได้ว่าชอบ MR2 มากแต่สมัยนั้นราคามันสูงเกินเอื้อมไป คันก็เป็นล้านๆ เหมือนกัน ที่ชอบ MR2 ก็เพราะเป็นรถที่เครื่องยนต์วางกลางลำ ขับหลัง เลยอยากหาไว้ขับสักคัน” 

“จุดมุ่งหมายอันดับแรกเลยคือรถขับหลัง คันนี้จะมาทำเป็นแนว Performance ถามว่ามีทรงรถในใจไหม มี แต่ไม่คิดว่าจะทำออกมาได้ขนาดนี้ คืออยากแต่งให้ออกมาสไตล์ Time Attack แต่โจทย์มันก็ยากด้วย เพราะว่ายังไม่มีใครเคยทำมาก่อนไม่ว่าจะในไทยหรือทั่วโลก”

“คันนี้ใน 5 ปีที่ทำมา หมดกับคันนี้ไป 3 ล้าน เครื่องก็ทำไปหลายรอบ แรงม้าอยู่ที่ 760 แรงม้า เป็นรถที่ทำออกมาแล้ววิ่งได้จริง แรงจริง ดิบมาก จุดที่ชอบที่สุดเป็นล้อกับชุดพาร์ทที่ทำออกมาได้ลงตัวมาก และภูมิใจมากเพราะดังระดับโลก ขนาดหนังสือเมืองนอกมีตากล้องจากต่างประเทศมาขอไปถ่าย”

Silvia S15 The Midnight

“S15 เป็นรถที่ทรงสวยมาก ชอบมาตั้งนานแล้ว เป็นรถขับหลังที่ performance คล่องแคล่วขับสนุก คอนเซ็ปท์ก็เหมือนเดิมคือ สวย แรง ทำครบทุกระบบ และใส่ความเป็นตัวตนของเราลงไป ชุดพาร์ทอาจจะเหมือนคนอื่นเพราะมากับรถแล้ว แต่เรามีใส่บางชิ้นส่วนที่แตกต่างกับคนอื่นใส่ไปบ้าง” 

“เดิมคันนี้มาเครื่องได้ 300 กว่าแรงม้า เราก็มาเติมพาร์ทแต่งเล็กๆ น้อย ตอนนี้ทำไปอยู่ที่ 630 แรงม้า เป็นรถที่ขับสนุก แรงกำลังดี ขับได้ไม่แรงมาก เล่นกับ Supercar ได้สนุก”

“จุดที่ยากที่สุดของคันนี้คือเรื่อง Fitment จะยากที่สุด คืออยากทำให้รถดูเตี้ยซุ้มชิดล้อ แต่ต้องวิ่งได้จริง รีด performance ออกมาเต็มที่ เวลาออกตัวไม่ติด จั้มคอสะพานไม่ขูด” 

“คันนี้ทำหมดไปประมาณล้านกว่าบาท จุดที่เหนื่อยกับมันมากที่สุดคือจะทำยังไงให้รถวิ่งได้ระดับ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรถเอาอยู่กับความแรงของมันที่มี แต่ก็แก้ไขได้แล้วโดยเราใช้ยางที่กว้างขึ้นและช่วงล่างที่ดีขึ้น เบรกดีขึ้นใหญ่ขึ้น ตอนนี้เอาอยู่วิ่งระดับ 300 ได้สบาย”

Supra 1,000 HP

“ตอนนั้นเราเริ่มติดลมบน ไล่เก็บรถที่ชื่นชอบในอดีตมาให้หมด สมัยก่อนคันละเกือบ 4 ล้านช่วงปี 94-95 ตอนนั้น Supra แพงมากซื้อไม่ไหว ตอนได้คันนี้มาสภาพดีมาก ไม่ผุ ภายนอกสวยแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ช่วงล่าง ล้อ ดีหมดทุกอย่าง เราแค่มาเติมเรื่อง performance และจัดความสวยงามของห้องเครื่อง”

“ตอนได้มาประมาณ 700 แรงม้า แต่คิดไว้แล้วก่อนซื้อว่าถ้าได้มาจะปั้นให้ถึง 1,000 แรงม้า และเป็นแรงม้าที่ใช้ได้จริง ขับได้จริง จัดการเปลี่ยนเทอร์โบ, หัวฉีด, กล่องควบคุม แล้วก็แต่งห้องเครื่องใหม่หมดแนวอเมริกาธีมดำ”

“จริงๆ คันนี้ทำน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคันอื่น เพราะตัวรถพื้นฐานมาดี มาก มันเป็นรถที่วิ่งเกิน 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้สบาย เป็นรถขับสนุก เสียงเร้าใจ เพราะเครื่องยนต์ขยายความจุเป็น 3,400 ซีซี”

For most guys, having a dream car is something akin to a rite of passage. Some may have their eyes on Supra, Silvia, NSX, or GTR, but for
Smicha “Momm” Thiramongkol, his dream ride has always been a 90s sports car. How did a chiropractor from Bangkok become so invested in the automobiles from that era? Let’s find out!

A childhood passion

“I grew up in the Palace-era race cars. I’ve loved cars since I was 11-12 years old. My dad was very much into American cars so I guess that kind of rubbed off on me. When I turned 14, he gave me this two-door Ford Pinto. I didn’t do a whole lot to it – maybe having the wheels changed and upholstery put in.”

“Back in those days, the preferred style was lowered bodies rather than powerful engines. Car racing was really trendy at the time and when I was 16-17, I would go car racing with my friends in Vibhavadi. Some people lowered bodies, some loved powerful stereo, but my thing was a powerful engine. Mine car back then was Nissan Sanny B11.” 

“It was right around the time when the engine transitioned from a carburetor to a turbo injection.” 

“Car racing got really popular in the 90s because there were a lot of new technologies flooding in during that time. A good example is Nissan GTR32. If you had the money, it was really easy to just buy a powerful engine from abroad. You could also order a sports car directly from Japan like Nissan 200SX.”

Following the passion

Not many people knew that Momm used to own a Honda car customization shop. His speciality was, of course, race cars.

“After that, I got into Honda and followed my dreams of opening my own shop called ‘Emotion-R.’ It focused mainly on race car customizations and engines. The shop only lasted a couple of years, though.”

 

A long hiatus
“Around the year 2000, I put everything on hold to go study medicine and concentrate on building my life and career. It must have taken 10 years.”

“I had to make sure that I am able to support my family and take care of all the responsibilities that come with it. ” 

“Owning a shop didn’t put me in the red or anything like that. It’s just that there were no profits. Whatever I earned, I would invest in car customization. Having the shop was a way for me to satisfy my needs and passion for cars. It was mostly for fun than anything else.” 


What about your friends?
“Most of them stopped when they were in their 20s or 30s. There’s only a few who are still at it. For people my generation, most of them recently got back to it which feels like a reunion in a way.”

“It wasn’t just me who went on a hiatus, pretty much everyone did. We all reached that age where they had to be an adult and take care of our families. Once all of that had stabalized though, we all returned to what we love.”

Back with a vengeance with Volvo V50 FlushStyle
“Even though I wasn’t actively involved in the car scene, I still kept myself updated and occasionally went to race tracks to check out the trends. The reason that ultimately got me back into the game was that I saw ‘FlushStyle’ in XOAutosport. I loved the really low-body style of it and wanted to have one for myself. I bought a brand new Volvo V50 and had full-on customization.”

Toyota MR2 Time Attack

“MR2 was my dream car when I was in my 20s. I loved it so much but I just couldn’t afford it because of its high price tag. I think it probably cost a few million or something. I love the fact that it’s a two-seat, mid-engined, rear-wheel-drive sports car.”

“This one leans more toward performance. I had this ‘Time Attack’ style in mind but I wasn’t sure if I was going to be able to pull it off. No one has done it yet, either here in Thailand or anything in the world.

“I spent around three million baht on this car in the span of five years. I had to change the engine several times, but now it’s at 760 horsepower. This car is so raw and powerful. I really love this set of wheels. It’s so unique that it was featured in a car magazine overseas. I’m so proud of the end result.”

Silvia S15 The Midnight

“S15 has a really beautiful shape. I’ve always loved this model. It’s also fun to drive. The concept for this one is the same, which is beautiful and powerful. I put a lot of myself into it. The most challenging thing was the fitment. It has to be able to go low without getting stuck.”

“The original horsepower was around 300. After customization, it’s now at 630, which is still not too intense. It’s a fun one to drive.”

“This one cost me about one million baht. I had to figure out how to make it run at 300 kilometers per hour within its capacity, which was a huge challenge. After replacing the tires with a wider set and installing a larger brake, everything works perfectly.”


Supra 1,000 HP

“I was on a roll so I just kept buying more and more. Supra must have cost something like four million baht back in 1994-1995 so I couldn’t afford it then. I got this one in mint condition. The exterior is also perfect. The only thing I improved on was the performance and the interior. The car came with 700 horsepower, but it’d always been my goal to increase it to 1,000. The theme is American and the color scheme is black.”

“This one didn’t require a lot of tweaking because I got it in such a good condition. It’s so much fun to drive because it can easily run 300 kilometers per hour with the updated 3400 engine.” 

Future projects

“I’m planning to update the color and the interior on the 190E. I just got my hands on the 180SX because I really enjoy Supra and its inline-six engine. There are also a couple of cars that I’m working on right now like Toyota Starlet, 3-door Honda Eg, and BMW E30.”