Auto

รถยนต์จีนมันดีอย่างไง ทำไมความนิยมในไทยถึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง?

ถ้าในอนาคตข้างหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ คงพูดได้ว่าตลาดรถยนต์ในไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันอย่างแน่นอน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ว่า คงไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องยนต์กลไก เทคโนโลยีการขับขี่ หรือพลังงานทางเลือกไฟฟ้าเท่านั้น แต่เรากำลังพูดถึงเรื่องของรถยนต์จากประเทศ ‘จีน’ ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อตลาดรถยนต์ในไทยแบบเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง

เรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงแบบไม่จบไม่สิ้นแน่ๆ เพราะต้องเกิดฝั่งคนที่ชื่นชอบรถยนต์จากจีน ซึ่งพวกเขาอาจมองเห็นโอกาสต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ กลับกันในฝั่งคนที่ไม่ชื่นชอบก็จะมีเหตุต่างๆ มากมายเช่นกัน อย่างไรก็ตามเรื่องของความชื่นชอบไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกอยู่แล้ว เพราะต่างฝั่งต่างฝ่ายก็มีเหตุผลที่จะเลือกซื้อ หรือไม่ซื้อนั่นเอง

EQ พร้อมที่จะขยายเรื่องราวของรถยนต์จีนที่กำลังจะเกิดขึ้นในเมืองไทย ว่าเพราะอะไรทำไมถึงได้รับความนิยมชมชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนแบรนด์รถยนต์จีนเจ้าใหม่ๆ ก็เตรียมมาลงหลักปักฐานอีกมากมายหลายแบรนด์ ทั้งที่ไม่ถึง 10 ปีที่ผ่านมา ความเชื่อถือความนิยมต่างกันราวฟ้ากับเหว

รถยนต์จีนในยุคสมัยใหม่
Photo Credit: Brand Inside

ถ้าพูดถึงของจากจีน แวบแรกที่คนส่วนหนึ่งจะคิดถึงคือ ‘ราคาถูก’ กับ ‘ไม่ได้มาตรฐาน’ โดยเรื่องนี้จะมีข้อแม้เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยว่า ของสิ่งนั้นต้องเป็นแบรนด์สัญชาติจีนเป็นส่วนใหญ่ และปัญหาหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องของ QC ที่ทำได้ไม่ดีเท่าแบรนด์ใหญ่จากประเทศอื่นๆ แต่ถ้าเป็นแบรนด์ใหญ่ หรือเป็นบริษัทต่างชาติที่ตั้งฐานการผลิตในจีนเพื่อลดต้นทุนการผลิต ปัญหาเหล่านี้จะแทบไม่เกิดขึ้น และคนส่วนใหญ่ก็จะไม่กังวลใจปัญหาในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ Apple ทั้ง iPhone, iPad และ MacBook ที่ชิ้นส่วนของอุปกรณ์ส่วนใหญ่ถูกผลิตขึ้นที่จีน

เรื่อง ‘ราคาถูก’ ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญของสินค้าที่มาจากจีนเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปจนถึงของชิ้นใหญ่อย่างรถยนต์ เพราะว่าปัจจัยหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ตลอดจนค่าขนส่งมาไทยก็ไม่ได้มีต้นทุนที่สูงเมื่อไปเทียบกับประเทศอื่นอีกด้วย แต่เรื่องของ ‘ความไม่มีมาตรฐาน’ ก็ยังเป็นสิ่งที่ตามหลอกหลอนได้อยู่เช่นกัน โดยเฉพาะรถยนต์แบรนด์จีนต่างๆ ที่จำหน่ายในไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเรายังสามารถเห็นความไม่แน่นอนในเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ก่อนที่รถยนต์สัญชาติจีนจะได้รับความนิยมในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่ล้มลุกคลุกคลานในตอนแรกจะเป็น 2 แบรนด์ดังอย่างทาง เชอรี่ (Chery) และตงฟง (DFSK) ซึ่งพูดได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จในไทยเลย จนสุดท้ายตัวแทนจำหน่ายก็แจก ‘แพ’ ให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไปใช้งานกันนั่นเอง โดยรถยนต์จากจีนในช่วงเวลานั้นแตกต่างไปจากในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ถ้าจะบอกว่าเป็น ‘หนูลองยา’ ในตลาดเมืองไทยก็ยังได้ แต่เรื่องนี้ก็พอจะพูดได้ว่าเป็นการกรุยทางเดินให้กับรถยนต์จีนเช่นกัน

Chery / DFSK
Photo Credit: Fotos de carro / Bus and Truck

ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของรถยนต์จีนในไทยเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2557 กับการมาทำตลาดของแบรนด์เอ็มจี (MG) ที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จัก โดยเวลานั้นทางบริษัทยังมีความกล้ากลัวๆ ที่จะบอกว่าเป็นรถยนต์จีน ซึ่งทาง MG ได้พรีเซนต์ว่าเป็นรถยนต์แบรนด์เก่าแก่จากอังกฤษ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานไม่แพ้แบรนด์รถยนต์ยุโรป หรือญี่ปุ่น สำหรับเรื่องความเจ๋งความเก่งที่ต้องยกให้กับ MG ก็คือ แบรนด์มีความเข้าใจตลาดในไทยว่าจะต้องนำเสนอจุดไหนที่สำคัญ และคนไทยชอบอะไร เรียกได้ว่าบริษัทนี้สร้างมาตรฐานใหม่ไว้ให้กับรถยนต์จากจีนในอนาคตที่จะทำตลาดในไทย

‘ราคา / ออพชั่นเยอะ / ความหรูหรา / ดีไซน์รถที่ถูกจริตคนไทย’ 4 สิ่งนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ค่ายรถยนต์จากจีนในปัจจุบันมองเห็นว่า ถ้าต้องการทำตลาดในไทยจำเป็นต้องมีองค์ประกอบเหล่านี้ ส่วนเรื่องของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ อุปกรณ์ช่วยเหลือการขับขี่ ตลอดจนเรื่องของความปลอดภัยนั้น จะไม่สามารถสัมผัสความแตกต่างได้ด้วยสายตาเหมือนกับเรื่องความหรูหรา หรือดีไซน์ ต้องลองขับขี่ใช้งานไปสักระยะหนึ่งถึงสัมผัสได้ ซึ่งเราไม่ได้บอกว่ารถยนต์จีนไม่มีคุณภาพ หรือไม่ได้มาตรฐานแต่อย่างใด

MG3
Photo Credit: Car News Update

MG3 ถือว่าเป็นรุ่นรถยนต์ของบริษัทที่จับทางเรื่องนี้ได้สำเร็จ จนทำให้กระแสความนิยมเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด คุณสามารถเจอ MG3 วิ่งกันทั่วบ้านทั่วเมือง ก่อนที่บริษัทจะส่ง MG ZS มาสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับเจ้าตลาดอย่างรถญี่ปุ่นแบบปฏิเสธไม่ได้ โดยในปัจจุบันถือได้ว่า MG ZS เป็นรุ่นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในบริษัทก็ว่าได้ ก่อนที่บริษัทจะส่งรถยนต์รุ่นอื่นๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม ก็มีรุ่นที่สำเร็จ และไม่สำเร็จผสมกันไปเป็นปกติ

กระแสความนิยมที่เกิดขึ้นของ MG ก็มาพร้อมกับปัญหาต่างๆ มากมาย ซึ่งมันก็ย้อนกลับไปหาเรื่องของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ อุปกรณ์ช่วยเหลือการขับขี่ และความปลอดภัยที่คุณจะได้สัมผัสเมื่อใช้งานไปในระยะเวลาหนึ่ง ปัญหาเหล่านี้ได้สร้างความปวดหัวให้กับ MG อย่างเลี่ยงไม่ได้ และยังทำให้รถยนต์บ้างรุ่นที่เคยเป็นกระแสนั้นหมดความนิยมไปด้วย ก่อนที่ปัจจุบันดูเหมือนว่าบริษัทจะเลือกลุยตลาด ‘รถไฟฟ้า’ เป็นหลักไปแล้ว อย่างไรก็ตามที่ยกมาคุยได้ก็คงเป็นการที่ MG ได้กรุยทางให้กับรถไฟฟ้าจากจีนแบรนด์อื่นๆ ได้เข้ามาทำตลาดอีกด้วย

หลังจาก MG ได้กรุยทางไว้ให้อย่างดิบดีแล้ว ค่ายใหญ่อีกเจ้าก็ถือกำเนิดขึ้นมาในไทย และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) โดยบริษัทสามารถแจ้งเกิดได้เลยแบบไม่ยากเย็น ด้วยรถไฟฟ้าหน้าตาน่ารักน่าชังอย่าง Good Cat ซึ่งบริษัทก็มีรถเครื่องยนต์จำหน่ายเช่นกัน หรือแบรนด์ Haval ที่กระแสความนิยมสวนทางกับรถไฟฟ้าแบบสิ้นเชิง อาจต้องรอดูรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ Haval ที่จะเปิดตัวนั่นละ ว่าสุดท้ายจะสามารถแจ้งเกิดได้เหมือนกับฝั่งรถไฟฟ้าไหม

Good Cat
Photo Credit: GWM

สำหรับ BYD ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์เจ้าใหญ่ที่เลือกทำตลาดในไทย ด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ที่ไว้ใจได้ สมกับที่เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ยอดนิยมของจีน ทำให้การมาถึงของ BYD สามารถแจ้งเกิดได้ทันทีด้วยรถไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมอย่างทาง Atto 3 ซึ่งปัจจุบันมีให้เห็นเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด นอกจากนี้ก็ยังมีแบรนด์ Neta ที่เป็นรถไฟฟ้าราคาไม่สูงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของรถยนต์จีนในปัจจุบัน อีกทั้งยังไม่นับแบรนด์รถยนต์จีนอย่างทาง Pocco, Wuling และ VOLT ที่ทำตลาดรถไฟฟ้าในไทยอีกด้วย

FYI: รถยนต์ของ Wuling กำลังจะมาขายในไทยพร้อมตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

Wuling ว่าที่แบรนด์รถไฟฟ้าน้องใหม่ในตลาดไทย
Photo Crédit: inMarketingnews

จากแบรนด์รถยนต์ที่ได้กล่าวถึงไปทั้งหมดนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็ก หรือใหญ่ก็ตาม เรียกได้ว่ามาพร้อมราคาที่ดี ออพชั่นที่เยอะ ความหรูหราที่ถูกใจ และดีไซน์ที่ถูกจริตทั้งหมด โดยเรื่องราคาจำหน่าย จะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อไปเทียบกับฝั่งรถยนต์ญี่ปุ่น หรือยุโรป เรียกได้ว่ารถยนต์จีนสามารถทำราคาออกมาได้ดีกว่าอยู่เสมอ ซึ่งราคาที่ว่าดีว่าโดนแล้ว เรื่องของออพชั่นต่างๆ ก็ให้มาเยอะกว่าเจ้าตลาดอีกด้วย และสิ่งที่นิยมในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นหลังคาซันรูฟที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับรถยนต์, ระบบคำสั่งเสียง, เบาะนวดไฟฟ้าคู่หน้า และอื่นๆ อีกมากมาย เน้นย้ำอีกครั้งว่าฟังก์ชั่นพวกนี้มาในราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ญี่ปุ่น และยุโรปอย่างแน่นอน

หากเหตุผลเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่รถยนต์จากจีนจะชนะเจ้าตลาดญี่ปุ่นได้ ก็อยากให้ลองมองในปัจจุบันดูว่า ค่ายรถจีนในไทยเลือกไปทำตลาดรถไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว และเรื่องของความนิยมพลังงานทางเลือกอย่างไฟฟ้าก็มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งราคาของรถไฟฟ้าจีนที่ไม่สูงก็ช่วยให้คนสามารถซื้อครอบครองได้ไม่ยากเย็นนัก และปัญหาความซับซ้อนของรถไฟฟ้าก็มีน้อยกว่าฝั่งของเครื่องยนต์อีกด้วย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้อนาคตรถยนต์จากจีนจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน

สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหนแง่ไหนในตอนนี้ ก็ยืนยันได้ว่ารถยนต์สัญชาติจีนจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทยอย่างแน่นอน ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ราคาดี ออพชั่นเยอะ หรูหรา และดีไซน์ถูกจริตคนไทย’

อ้างอิง

Autofun
MGROnline
Kapook