‘Sunsound Design’ ร้านเครื่องเสียงไอเดียบรรเจิด จนอีกี้ต้องอยาก Skrt

รู้หรือไม่ว่า? รถเครื่องเสียงระดับ ‘ตัวแข่ง’ แชมป์รายการระดับประเทศ หรือแม้แต่งานโชว์ตัวใหญ่ๆ ค่าแต่ง ค่าทำ ค่าอุปกรณ์ที่ใส่ไปในรถ รวมๆ แล้วแพงกว่าตัวรถเสียอีก แต่ส่วนใหญ่ที่เราจะเห็นได้ในงานประกวดรถเครื่องเสียงก็มักจะมีแต่รถกระบะ ทว่าคันนี้ที่ EQ อยากจะพาไปดูเป็นส่วนน้อย แต่มีอิมแพกความจัดจ้านไม่ยิ่งหย่อนคันไหนๆ ด้วยรูปแบบกระบะ ‘สองแถว’

วันนี้เราจะพาไปคุยกับ ‘ซัน’ – พงษ์ศักดิ์ ลาภขจรธนาเจริญ แห่งร้าน Sunsound Design ว่าด้วยรถของเขา แรงบันดาลใจการแต่งกับรถ Mazda BT-50 เวอร์ชั่นหน้า CX-5 และชุดแสงสีเสียงเต็มลำ จนทำให้อีกี้ทั้งหลายต้องเหลียวหลัง ตัวโหดในโหมดสองแถวที่ไม่ว่างานแข่ง หรืองานโชว์ทุกคนที่เห็นต้องสนใจ

ซันแห่ง Sunsound Design

บรรยากาศหน้าร้านเล็กๆ แต่ผลงานล้น ถ้วยรางวัลแน่นชนิดชั้นวางไม่พอ น่าจะเป็นคำตอบได้ดีถึงฝีมือ ไอเดียสร้างสรรค์ และการยอมรับในผลงานจากซัน มองเข้าไปในร้าน หากใครไม่รู้จัก อาจเข้าใจผิดว่าเป็นแค่ร้านเครื่องเสียงธรรมดาๆ ความจริงแล้วที่นี่คือ สถานที่ปลดปล่อย ‘พลังฟุ้ง’ ด้านกำลังเสียง สร้างงานโปรเจกต์รถเครื่องเสียงมาแล้วมากมาย

“บริการที่นี่ติดตั้งจอแอนดรอยครับ ติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ ตั้งแต่งบหลักหมื่นถึงหลักล้าน”

จุดเริ่มต้นของ ‘Sunsound Design’

ซันเล่าให้ฟังว่าแรกเริ่มก่อนจะเริ่มเปิดร้านเองเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าจะเปิดร้าน แต่เขาทำด้วยความชอบล้วนๆ ตอนได้ไปเจองานประกวดรถเครื่องเสียงในงานมอเตอร์โชว์ เหมือนเป็นสิ่งที่จุดประกายความชอบ ที่อยากให้สักวัน มีรถที่เป็นผลงานของเขาได้ไปจอดโชว์บ้าง

“ความที่ชอบเครื่องเสียงอยู่แล้ว ได้เห็นตามงานมอเตอร์โชว์เมื่อไปเดินแล้วรู้สึกอยากมีสักครั้งหนึ่งที่ได้มีโอกาสเอารถแต่งเครื่องเสียงที่เราสร้างมาจอดโชว์ในงาน”

วิ่งเข้าหา “ความฝัน”

“เหมือนกับว่าเราชอบเครื่องเสียงอยู่แล้ว ตอนนั้นแม่ให้ไปเรียนติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ที่สมุทรสงคราม เป็นโรงเรียนเฉพาะทาง เอาตรงๆ ผมจบแค่ ม.5 เราเกเรเพราะติดเกม ไปโรงเรียนก็ไม่ค่อยยอมไป ตอนนั้นเล่นเกมติดเพื่อนอย่างเดียว”

แม้ซันไม่ได้เรียนหนังสือต่อตั้งแต่ ม.5 เล่นเกม ติดเพื่อนอย่างที่เขาเล่าให้ฟัง แต่หนึ่งสิ่งที่โชคดีคือ เขารู้ว่าตัวเองชอบอะไร และทำตามในสิ่งที่ชอบ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เรียนหนังสือตามแบบแผนของสังคม แต่เขาก็เลือกที่จะเรียนรู้ในเส้นทางที่ตัวเองชอบเป็นทุนเดิมคือ ‘เครื่องเสียงรถยนต์’

“ด้วยความที่ตอนนั้นเห็นประกาศในหนังสือรถแต่งเครื่องเสียงว่า รับสอนติดตั้งเครื่องเสียง เหมือนค่าเรียนจะประมาณ 2-3 หมื่น แม่ยอมให้เราไปสมัครเรียน เรียน 3 เดือนจบ ทำเป็นเลย เรียนเรื่องนี้ไม่เกเรเลยเพราะชอบ เราเรียนจนจบหลักสูตร ไม่เคยหยุดเลย”

“เรียนเสร็จตอนนั้นยังไม่ได้เปิดร้านนะ กลับมาบ้านไม่ได้มาต่อยอดทำต่อที่เรียนมาเลย เพราะติดทหาร เรื่องเครื่องเสียงที่เรียนมาก็มีเว้นไปหลายปีอยู่”

‘ครูพักลักจำ’ ปิดจุดด้อย เพิ่มจุดเด่น

เรื่องราวของซัน เหมือนจะเรียบๆ ทำในสิ่งที่ชอบ ไปเลือกหาความรู้นอกระบบ แล้วเปิดร้านทำธุรกิจ แต่ซันเพิ่มมาอีกหนึ่งขั้นที่เหมือนเป็นมีดคมช่วยเหลาให้ความสามารถของเขาเหนือชั้นขึ้นไปอีก คือการที่ได้ไปคลุกคลีกับร้านเครื่องเสียงเก่งๆ ที่ซันยกให้เป็นเหมือนอาจารย์คนหนึ่ง

“ออกจากทหารมาเราก็หาอะไรทำ ช่วงนั้นรถสองแถวนำเที่ยวกำลังบูม เป็นบริการถสองแถวนำเที่ยวสำหรับวัยรุ่นที่จะเหมาไปเที่ยวกัน เขาจะโทรมาเหมาเป็นรายวัน เที่ยวทะเลน้ำตกอะไรก็ว่าไป ตอนนั้นอยากทำด้านนี้เลยหารถมาทำ ซึ่งรถไม่ใช่แค่สองแถวธรรมดา ต้องเป็นสองแถวมีเครื่องเสียงเต็มๆ หน่อย เพื่อความสนุกในการเดินทางของวัยรุ่น ตอนนั้นก็ส่งรถให้พี่ ‘แป๊ะซัง คาร์ออดิโอ’ ทำเครื่องเสียงรถให้ และพี่คนนี้แหละที่พาเข้าวงการแข่งขันเครื่องเสียง”

“เอารถไปให้เขาทำก็ไปดูงานเขา อยู่กับเขาด้วย จ้างเขาทำรถเรา และไปเป็นเหมือนลูกมือเขาด้วย 4-5 ปี รับงานสองแถวนำเที่ยวพร้อมกับไปเป็นเหมือนลูกมือเขา เหมือนไปขอเรียนรู้วิชากับเขา เวลามีงานแข่งก็ไปกับเขาด้วย มีรถลูกค้าเข้ามาเราก็ไปช่วยเขาทำ”

“4 ปีที่อยู่กับเขาได้ความรู้ในเรื่องที่เราไม่รู้มาเยอะ อย่างเรื่องงานไฟเบอร์ ทำสี เราก็ได้วิชาจากตรงนั้นมา”

ได้เวลาสร้างตัวตน

เมื่อได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ เพิ่มความชำนาญในสิ่งที่ทำเป็น เรียนรู้อยู่กับอู่เครื่องเสียงเก่งๆ ทั้งที่สถานะของซันเป็นทั้งลูกค้า และลูกมือในเวลาเดียวกัน เอารถไปให้เขาทำ และไปช่วยอู่เขาทำรถด้วย ถึงเวลาแล้วที่จะสร้างตัวตนในผลงานของ Sunsound Design

“พอออกจากเขามา(ร้านพี่เขาปิดกิจการ) เราก็มาเปิดร้านของตัวเองเป็นร้านแรก จริงๆ แต่ก่อนไม่มีความคิดที่จะมาเปิดร้านเองเลย แต่พอมาคิดว่า ทำไมเราไม่ทำเอง ในเมื่อทำเป็นหมดแล้ว เลยตัดสินใจมาเปิดร้านเป็นของตัวเองเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว”

แรงบันดาลใจในการสร้างรถคันนี้

“Mazda BT-50 คันนี้ ไอเดียคือ อยากให้มันไม่เหมือนใครในสไตล์รถสองแถว ไม่ล้น ไม่เยอะ ไม่เว่อเกินไป เราเคยทำแนวอลังการเว่อมาแล้ว ในเวอร์ชั่นก่อนหน้าของรถคันนี้ ซึ่งผมว่าผมสุดแล้วคนหนึ่ง”

“พอมาในเวอร์ชั่นนี้ เราอยากให้กลับมาเป็นสองแถวเรียบๆ มีของอยู่ในหลังคาเงาๆ ไม่มีอะไรยื่นออกไปนอกรถ เรื่องสเต็ปไฟต้องสุด! บางคันมีแค่ตู้กับดอกใส่ให้มันเปิดได้พอ แต่คันนี้ต้องพิเศษกว่าคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้เวลาออกงาน แม้ไม่มีมีโคโยตี้มาเต้น แต่คนยังเดินเข้ามาดูรถเรา”

“ยิ่งถ้าเป็นรถเครื่องเสียงสไตล์สองแถว จริงๆ แทบจะนับคันได้เลยในงานแข่ง หรืองานโชว์ เราทำอย่างไรก็ได้ให้คนมาดูที่รถ ทั้งเรื่องไฟ หรือแปลงหน้าเป็น CX-5 เพื่อให้คนมาสนใจ อยากรู้ว่ารถรุ่นอะไร”

“สรุปรวมๆ แล้วผมก็อยู่กับวงการเครื่องเสียงมาราว 15 ปีได้แล้ว รถคันนี้ก็เปลี่ยนมา 7 เวอร์ชั่นแล้ว ล่าสุดนี้ที่ทำมามีเพิ่มโปร่งข้าง เปลี่ยนหน้ามาเป็น CX-5 เปลี่ยนเบาะหลังไม่ให้เหมือนสองแถวทั่วๆ ไป เก็บห้องเครื่องโล่ง ระบบสเต็ปไฟโชว์เราก็พยายามทำให้อลังการที่สุด บอกเลยว่าหายากสำหรับสเต็ปไฟนี้ยังไม่มีใครทำได้”

“ตั้งแต่เปิดอู่มาก็ลงแข่งเรื่อยๆ ตลอด 10 ปี แต่หลังๆ ไปในทางงานโชว์เสียมากกว่า ไม่ค่อยได้แข่งแล้ว งานโชว์จะได้ลูกค้ามากกว่า”

“คันนี้ทำไปไม่รวมตัวรถก็ล้านกว่าบาทแล้วสำหรับเวอร์ชั่นนี้ ถามว่ามีโปรเจกต์อะไรไหม เรื่องเครื่องเสียงบอกเลยว่ามันไม่มีวันจบอยู่แล้วครับ เราต้องคิดอะไรใหม่ๆ ออกมาให้คนมาติดตาม อนาคตมีอะไรใหม่ๆ มาให้ดูแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วง”

“มันอยู่ที่เราชอบด้วยครับ ถ้าเราชอบสิ่งไหนเราจะไปหามันเอง ทุกคนมีแรงผลักดันของตัวเองอยู่แล้ว อย่างเป็นผมคนที่ชอบเครื่องเสียง พอเห็นอะไรที่เกี่ยวข้องจะรู้ทันทีว่าอยากไปอยู่กับมัน สุดท้าย ‘ความชอบ’ จะนำพาตัวเราไปอยู่กับสิ่งที่เราชอบเอง แล้วอยู่ที่ตัวเราแล้วว่าจะต่อยอดความชอบนี้ไปได้ไกลแค่ไหนครับ”