Life

สารพัดเทรนด์เอาใจสาย Wellness ประจำปี 2024!

เชื่อว่าในปี 2023 น่าจะเป็น ‘Hard Time’ ของใครหลายๆ คน ทั้งเรื่องสุขภาพ การเข้าสังคม วิถีชีวิต และอื่นๆ ซึ่งในการก้าวเข้าสู่ปี 2024 นี้ น่าจะเป็นปีที่ดีในการหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้คำว่า ‘Wellness’ น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา และน่าจะต่อไปถึงในปีนี้อีกด้วย วันนี้ EQ เลยอยากรวบรวมเทรนด์สาย Wellness ที่น่าจับตามองในปี 2024 มาฝากทุกๆ คน

Photo Credit: Ideal Nutrition

Mindful Eating

ถ้าพูดถึงเรื่องสุขภาพ หนึ่งสิ่งที่สำคัญและน่าจะมาเป็นอันดับแรกๆ เลยก็คือ ‘อาหาร’ ซึ่งเทรนด์เรื่องการกินที่ ‘Mindful’ มากขึ้นก็เป็นสิ่งถูกพูดถึงมาตลอดในช่วงปี 2023 และมีทีท่าว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหาร Vegan, การทานอาหาร Plant-based ไปจนถึงเรื่องของ Food Waste แต่จริงๆ แล้วมันมีดีเทลมากกว่านั้น เพราะ ‘Mindful Eating’ คือ Practice ที่นำไปสู่การตระหนักรู้ทั้งร่างกาย และอารมณ์ในการรับประทานอาหาร เช่น การตัดความรู้สึกจากสิ่งเร้าภายนอกต่างๆ ที่จะมีผลต่อการตัดสินใจกินอะไรสักอย่างออกไป ไม่ว่าจะเป็น รูปลักษณ์ของอาหาร, สีสัน หน้าตาของฉลากสินค้า หรือแม้แต่โปรโมชั่นต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการให้ความสำคัญกับรสสัมผัสที่เราทานเข้าไปจริงๆ รวมถึงประโยชน์ และสารอาหารที่เราจะได้รับจากการกิน, เข้าใจความหิว และความอิ่มของตัวเอง, ตัดสิ่งรบกวนอื่นๆ ในระหว่างมื้ออาหาร เช่น การเล่นโทรศัพท์ ดูหนัง หรือทำงาน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่การเข้าใจสิ่งที่เรารับเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเข้าใจตัวเองผ่านอาหารอีกด้วย

Photo Credit: Sweat App

Strength Training

เชื่อว่าในปี 2024 น่าจะเป็นปีที่หลายๆ คนตั้ง New Year Resolutions เอาไว้ให้ตัวเองหลายอย่าง ซึ่งคำว่า ‘ร่างทอง’ หรือ Your Strongest Self น่าจะเป็นเป้าหมายหนึ่งของใครหลายๆ คน ซึ่ง Wellness Trend ในปี 2024 เรื่องของ ‘Strength Training’ เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงมากๆ บอกได้เลยว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่หลายๆ คนโยนข้ออ้างในการออกกำลังกายทิ้ง และเริ่มบิลด์ร่างทองของตัวเองไปด้วยกัน หลังจากผ่านพ้นเวลาของความยากลำบากในช่วงการแพร่ระบาด ค่อยๆ กลับมาใช้ชีวิตปกติ ปีนี้คงเป็นปีที่ทุกคนจะรักตัวเอง หันมาเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก และฟื้นฟูอัตราการเผาผลาญของร่างกาย พร้อมเป็นคนที่แข็งแรงขึ้นทั้งร่างกาย และจิตใจ

Photo Credit: AllOne Health

Improve Rest

กินดีแล้ว ออกกำลังกายแล้ว การพักผ่อนที่ดีก็เป็นสิ่งสำคัญ ในปี 2024 นี้ หนึ่งเทรนด์ที่สาย Wellness ต้องหันมามองก็คือ ‘การพักผ่อนที่ดีขึ้น’ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาโลกนี้ไม่เคยช้าลงเลย และนั่นเป็นเหตุผลที่คนเราละเลยการพักผ่อนไป ในช่วงปีที่ผ่านมามีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า เหล่าคนทำงานเกือบครึ่งหนึ่งกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาการเบิร์นเอาท์ และปัญหาสุขภาพจิต เพราะพวกเขาไม่สามารถพักผ่อนโดยทิ้งเรื่องงาน และความจริงที่ว่าพวกเขายังต้องหาเลี้ยงชีพ พร้อมดูแลครอบครัวอยู่ ดังนั้นปีนี้น่าจะเป็นเวลาที่ดีในการพักผ่อนนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้ชาร์จพลังอย่างเต็มที่ ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาช่วยจัดการปัญหาการนอน ไม่ว่าจะเป็น Sleep Test, การเลือกใช้หมอน และเตียงนอนที่ทำขึ้นเฉพาะบุคคล, การออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือแม้แต่แอปพลิเคชั่นที่ช่วยในการทำสมาธิ และการนอนหลับก็มีให้เลือกใช้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

Photo Credit: EHL Insights

Slow Travel

ในช่วงปีที่ผ่านมาเราเห็นผู้เริ่มกลับไปออกเดินทางท่องเที่ยว และสำรวจโลกใบนี้กันมากขึ้น แต่ในปี 2024 เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับคำว่า ‘Slow Travel’ หรือการท่องเที่ยวแบบช้าๆ ซึ่งจะทำให้เราออกเดินทางไปยังมุมต่างๆ ของโลกในแบบที่ Mindful มากขึ้น ให้เราได้ดื่มด่ำ และชื่นชมกับการออกเดินทางอย่างแท้จริง ในเมื่อโลกนี้ และชีวิตประจำวันของเรานั้นเต็มไปด้วยความเร่งรีบอยู่แล้ว ครั้นจะปักหมุดไปเที่ยวทั่วๆ อย่างเร่งรีบ เพื่อจะเช็กอินให้ได้หลากหลายสถานที่มากที่สุดอาจไม่ใช่เป้าหมาย และสไตล์ในการท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับช่วงเวลานี้อีกต่อไป หากแต่ลองปรับวิธีการท่องเที่ยวให้ช้าลง ใส่ใจสิ่งรอบข้างจริงๆ ทั้งวัฒนธรรม ธรรมชาติ อาหารการกิน และผู้คน เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสตัวตน และรากเหง้าของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ พร้อมทั้งเก็บความทรงจำ และความประทับใจกลับมาอีกด้วย

Photo Credit: green travel blog

Digital Detox

‘Digital Detox’ น่าจะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันอยู่บ้าง ซึ่งในปีนี้ Digital Detox ก็กลับมาเป็นเทรนด์สาย Wellness ที่น่าจับตามองอีกครั้ง ซึ่งกว่า 1 ใน 3 ของเวลาที่เราใช้ในแต่ละวันถูกใช้ไปกับสมาร์ตโฟน โซเชียลมีเดีย และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และแน่นอนว่า การจดจ่ออยู่กับหน้าจอนั้นทำให้เรา ‘สมาธิสั้น’ และการตัดสินใจบกพร่องลง แต่ในสังคมปัจจุบันการจะทำ Digital Detox คงเป็นเรื่องยาก เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน หรือทำอะไรก็ต้องพึ่งพาสื่อดิจิทัลไปเสียหมด ดังนั้นการเริ่มจากเรื่องง่ายๆ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายๆ คนทำได้ เช่น การจำกัดช่วงเวลาที่จะไม่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ในแต่ละวัน, ลบแอปพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในมือถือ หรือแท็บเล็ตออกไป เพื่อลดการพึ่งพามือถือในฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็น และตัดสิ่งรบกวนจากสื่อดิจิทัลลงในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อให้มีเวลาทำสิ่งอื่นๆ มากขึ้น แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าหากเราแข็งใจทำได้ และสร้างนิสัยในการใช้สื่อดิจิทัลใหม่ มันจะส่งผลให้เรามีเวลา และสมาธิในการใช้ชีวิตมากขึ้น (และเราจะหันมาสนใจตัวเองตามเทรนด์ข้ออื่นๆ ที่กล่าวมาได้ง่ายขึ้นด้วย)